xs
xsm
sm
md
lg

ยกโขยงลง3จ.ใต้-ส่งDA-42ลาดตะเวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน/ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “บิ๊กอ๊อด” ควง 2 รองนายกฯเหล่าทัพ ลงใต้วันนี้ ขีดเส้น13 ส.ค. หาคนประจำ “เพนตากอน สวนรื่นฯ”ทอ.ส่ง DA-42 ช่วยลาดตะเวณ นายกฯ รับปาก!ไฟเขียวฝ่ายค้านยื่นญัตติไฟใต้ ส่วนโจรใต้เหิมหนักซุกระเบิดใต้ม้านั่งหินอ่อนในโรงเรียนบ้านกาวะ อ.สุไหงปาดี หวังสังหารทหารพรานชุด รปภ.โรงเรียน โชคดีนักเรียนเห็นก่อน

เมื่อเวลา 12.00 น.วานนี้ (9 ส.ค.) ร.ต.อ.เด่นพงษ์ เต็มยอด ร้อยเวร สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณชุดม้าหินอ่อน หน้าโรงอาหารภายในโรงเรียนบ้านกาวะ ม. 2 ต.กาวะ จึงพร้อม พ.ต.อ.พีรพล ณ พัทลุง ผกก.สภ.สุไหงปาดี พ.ท.อิศรา จันทะกะยอม รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 48 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชุดม้าหินอ่อนถูกอนุภาพของระเบิดได้รับความเสียหาย และมีหลุมลึก 2 ฟุต กว้าง 3 ฟุต พร้อมทั้งเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกระป๋องนมผงทรงกลม หนัก 5 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์ ตกกระจายเกลื่อนพื้น และที่บริเวณฝาผนังของอาคารโรงอาหารถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายเป็นรูพรุน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4809 กรมทหารพรานที่ 48 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ รปภ.โรงเรียน

**ออกหมายจับมือบึ้ม "ซี.เอส."

จากเหตุระเบิดมาจอดบริเวณด้านหลังโรงแรมซี.เอส. ปัตตานี ล่าสุด พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ระบุว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุดเพื่อออกหมายจับ 1 ใน 2 คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ คือคนที่ขับรถจักรยานยนต์ตามหลังรถยนต์คาร์บอมบ์มาจอดด้านหลังโรงแรม เพื่อรอรับคนขับรถยนต์คาร์บอมบ์ให้ซ้อนท้ายหนีไป

ทั้งนี้เตรียมที่จะออกหมายจับในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิงทหารเสียชีวิต 4 นายเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำการปล่อยตัว 2 ใน 3 ผู้ต้องสงสัยหลังถูกควบคุมตัวหลังเกิดเหตุ เนื่องจากการสอบสวนพบว่าทั้ง 2 คนไม่เกี่ยวข้องกับคดี ยกเว้นนายอิสมาแอ ดาโอง ซึ่งภายหลังรับสารภาพว่าเป็นผู้ขับรถจักรยานยนต์ติดตามชุดทหาร ต

**“บิ๊กอ๊อดควงเหล่าทัพ” ลงใต้วันนี้

ด้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศปก.จชต. กล่าวว่า เวลา 07.00 น วันนี้ (10 ส.ค.) ตนพร้อมพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ผบ.ตร. จะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ส่วนกรณีที่ผู้ก่อความไม่สงบประกาศล่าค่าหัวบุคคลวีไอพี พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ไม่กลัวเพราะไม่มีอะไร

**ขีดเส้น13 ส.ค. หาคนประจำศูนย์

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ถึการหาตัวบุคลากรมาอยู่ในโครงสร้างศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ตัวเลขาธิการศูนย์ฯ ตอนนี้กำลังจะถามไปที่ศอ.บต.กอ.รมน.ว่าจะส่งใครมาเป็นเลขาฯ ตนได้บอกนายกฯแล้วว่าจะขอเลขาฯ 2 คน ซึ่งต้องเป็นคนที่ทำงานประจำและรู้เรื่องดี เช่น พล.ต.นักรบ บุญบัวทอง ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กอ.รมน. หรือหากต้องการผู้ใหญ่กว่านี้ ก็อาจเป็นใครสักคนที่เข้าใจเรื่องนี้ และตนได้บอกผบ.ทบ.ว่าให้ส่งรายชื่อคนที่จะมาทำงานในคณะทำงานนี้ภายในวันจันทร์ที่ 13 ส.ค.เพราะตนจะเริ่มทำงานแล้ว

** นายกฯ ไฟเขียวฝ่ายค้านยื่นญัตติ

ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ถนนรามคำแหง น. ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่จะรับฟังและร่วมหารือด้วย เพราะ ถือว่าเป็นปัญหาที่เราต้องช่วยกันแก้ไข ซึ่งในฐานะที่ฝ่ายค้านมี ส.ส.ในพื้นที่ ตนก็ยินดีรับฟังข้อมูลและข้อคิดเห็นต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ก็ต้องได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ที่สำคัญเราต้องน้อมนำแนวพระราชดำริ " เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"เข้ามาแก้ไขปัญหา ซึ่งวันนี้เราต้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อจะได้ตัดสินใจและทำงาน อย่างไรก็ตามในการทำงานนั้น ในพื้นที่จะเป็นผู้ให้ข้อมูลเราได้อย่างดี ดังนั้นแม้เราจะกำหนดกรอบยุทธศาสตร์ใหญ่ได้ แต่ขั้นตอนการปฏิบัติเราก็ต้องค่อยๆปรับร่วมกับทางพื้นที่ เพราะอยู่ใกล้กับสถานการณ์และเข้าใจปัญหามากกว่า ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ลืมภาคประชาชน โดยได้ให้กำลังใจและเร่งพัฒนาให้อย่างเต็มที

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องมีรัฐมนตรีลงไปประจำในพื้นที่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารัฐมนตรีคนเดียวคงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งความจริงเราได้มอบหมายระดับรองนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กำกับดูแลอยู่แล้ว โดยจะมีกระทรวงต่างๆ เข้ามาสนับสนุน เพราะการแก้ปัญหาไม่สามารถแก้ได้เพียงกระทรวงเดียวต้องบูรณาการร่วมกัน

**ส.ส.ใต้รุมสับอย่าทำงานด้วยปาก

ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้มีการพิจารณากระทู้ถามสดของนายสุรเชษฐ์ แวอาแซ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ เรื่อง สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถามน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ได้มอบหมายให้ร.ต.อ.เฉลิม มาเป็นผู้ชี้แจงแทน
 
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกฯ ผู้เดียวที่จะตอบคำถามได้ เพราะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด แต่นายกฯ กลับไม่ชอบตอบคำถามเอง ซึ่งปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นเริ่มตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในปี 2544 ที่ใช้มาตรการฆ่าตัดตอน รวมถึงการใช้วาทกรรมว่าเป็นเรื่องของ “โจรกระจอก” และใช้กฎหมายที่ละเมิดสิทธิของประชาชนอีกด้วย ทำให้ความรุนแรงพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นตนอยากถามว่า รัฐบาลนี้มีมาตรการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างไร ท่านทราบหรือไม่ว่าท่านสู้รบอยู่กับใคร หัวหน้ากลุ่มคือใคร และมีกำลังคนเท่าไหร่ และจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความปลอดภัย และจะทำอย่างไรให้พี่น้องมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ก่อการร้าย

**โชว์ตัวเลขโจรใต้ 9.4พันคน

ร.ต.อ.เฉลิม ชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้บริหารราชการบ้านเมืองแบบหลงจู๊ ที่ต้องทำด้วยตัวเองทุกเรื่อง เพราะได้มอบหมายให้ตนลงไปดูแลแล้ว ส่วนที่ระบุว่าสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ดำเนินมาตรการฆ่าตัดตอนอยากถามว่าถ้ามีพยานหลักฐานทำไมไม่แจ้งจับ ส่วนที่บอกโจรกระจอกก็อยากถามว่าโจรที่ไหนไม่กระจอกบ้างเพราะโจรเป็นคนร้าย

"เรามีรายชื่อผู้ก่อความไม่สงบครบ ทหารได้รายงานมาให้แล้วมีใครเป็นใครแต่ไม่สามารถบอกได้ต้องเก็บเป็นความลับ ตอนนี้มีผู้ต้องหาติดต่อขอมอบตัวแล้ว 40 คน ปัจจุบันมีกำลังผู้ก่อการร้ายที่สามารถพิสูจน์ทราบได้ 9,400คน แบ่งเป็นแกนนำและกองกำลัง 2,600คน ส่วนที่เหลือเป็นแนวร่วมกองกำลังเพิ่มเติม ซึ่งเรามีโครงสร้างและรายชื่อหมดแล้วแต่บอกไม่ได้" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

**แนะรัฐลงพื้นที่แก้ไฟใต้ ***

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเวลา ร.ต.อ.เฉลิม พบกับตนก็บอกอยากได้ความคิด แต่ทุกครั้งที่พวกเราสะท้อนไปท่านก็ไม่ปฏิบัติ การที่บอกว่าไปลงพื้นที่เป็นการสร้างปัญหา หากท่านไม่กล้าจะลงไปก็เป็นเรื่องของท่าน และตนอยากให้พวกท่านแก้ปัญหาภาคใต้ได้มากกว่าพวกตนชนะเลือกตั้ง และหากรัฐบาลจะลงไปเงียบๆเหมือนที่ตนไปก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร เพราะระดับบริหารที่ลงไปในพื้นที่เหมือนกับเป็นการให้กำลังใจผู้ปฏิบัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น