วานนี้(7 ส.ค.55) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจะเป็นที่จะต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากในสมัยประชุมนี้ยังมีเวลาจนถึงสิ้นเดือน พ.ย. อีกทั้งขณะนี้ยังมีเรื่องที่จำเป็นที่จะต้องพิจารณาอยู่2 เรื่องคือ 1.ร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ซึ่งคาดว่า จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในประมาณวันที่ 15 ส.ค.นี้ และ 2. เรื่องการจัดทำรายงานและแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีของรัฐบาล ซึ่งในประเด็นนี้รัฐบาลจะต้องอธิบายถึงความล้มเหลวที่เกิดขึ้นตลอด 1 ปีของการบริหารราชแผ่นดิน
**“เทพไท”เย้ยอย่าประมาทปชป.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาสบประมาทการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นว่า ตนอยากเรียนว่า การประมาทเป็นบ่อเกิดของความตาย ร.ต.อ.เฉลิมไม่ควรสบประมาทพรรคประชาธิปัตย์ อย่าติเรือทั้งโกลน อย่าติเด็กในผ้าอ้อม เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งใจทำหน้าที่ในการตรวจสอบฐานะฝ่ายค้านอย่างดีที่สุด และที่ผ่านมาก็เป็นที่ทราบว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์ มักจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเสมอ เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์จับเท็จ ทุจริต และการโกงได้ตลอดเวลา ที่พูดไม่ใช่อวดตัว และไม่มีการล้มมวยอย่างเด็ดขาด เพราะทุกอย่างจะอยู่ที่ข้อเท็จจริง ฉะนั้นรัฐบาลอย่าปิดกั้นหรือไม่ดำเนินการใดๆกับแหล่งข่าว และแหล่งข้อมูลที่จะให้กับฝ่ายค้าน
**ปัดเปลี่ยนหัวหน้าพรรคปชป.
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีการปล่อยข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะขณะนี้ในพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครคิดที่จะเปลี่ยนแปลง มีแต่พรรคเพื่อไทย ที่พยามยามปล่อยข่าวดิสเครดิต โดยเฉพาะนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง ตำแหน่งหัวหน้าพรรคมีวาระ 4 ปี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะอยู่ครบวาระ ไม่เหมือนพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคเฉพาะกิจ เป็นพรรคที่มีเจ้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะจิกหัวใครให้ออกจากหัวหน้าพรรคก็ได้
"หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีเกียรติ ศักดิ์ศรี ไม่ใช่ยามเฝ้าพรรค และชื่อที่แนบท้ายญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็จะเป็นชื่อของนายอภิสิทธิ์ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยอย่าเอาเรื่องไร้สาระมาสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคม"นายเทพไท
**เลขาปชป.ขย่มไล่เตรียมข้อมูล
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งทีมงาน เพื่อรวบรวมข้อมูลตั้งแต่วันแรกที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งเราเห็นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกระบวนการในสภา ไม่ใช่เป็นการเล่นการเมืองหรือสร้างภาพแต่ถ้ารัฐบาลมั่นใจว่าบริหารงานประเทศได้ดีก็ไม่ต้องกลัว ไม่ควรทำตัวเหมือนวัวสันหลังวะมาคอยตอบโต้ฝ่ายค้าน แต่รัฐบาลควรไปหาข้อมูลเพื่อนำมาชี้แจงฝ่ายค้านในสภาจะดีกว่าเพราะพรรคประชาธิปัตย์อยากให้การเมืองเข้าสู่ระบบไม่อยากให้มีการเมืองนอกสภา
"ประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์สนใจในการอภิปรายคือ การบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล โดยนายกฯจะต้องรับผิดชอบ และผมไม่อยากให้ใช้ความเป็นผู้หญิงควบคู่ไปกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ควรแยกให้ออกระหว่างการเมืองกับเพศ เพราะเราตรวจสอบตามเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของผู้นำประเทศ"นายเฉลิมชัยกล่าวและว่า ส่วนที่จะอภิปรายบุคคลใดบ้างนั้น ต้องรออีกระยะหนึ่ง และตนอยากบอกไว้เลยว่า วันนี้ชัดเจนว่านายกฯจะต้องเตรียมตัว มาตอบให้ดีก็แล้วกัน และที่พยายามพูดกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น ถือเป็นเรื่องของคนที่ฝันกลางวันมากไปหน่อย
**เหลิมมึนข่าวฝ่ายค้านยังไม่ยื่น
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านอาจไม่ยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเร็วๆนี้ เพราะมีวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 วาระสอง ว่า ไม่ใช่อย่างนั้น การไม่ยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่ที่หลักฐานที่จะใช้แสดงและอภิปรายในสภาฯ ซึ่งโดยหลักการ ถ้ายื่นอภิปรายฯในเรื่องการบริหาร ก็ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ เพราะถ้าฝ่ายค้านถามมา เราก็ตอบไป และถ้าเป็นเรื่องความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจเป็นเรื่องเข้าเนื้อพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเคยหาเสียงในการเลือกตั้งไว้ว่าจะแก้ปัญหาภาคใต้ให้ได้ใน 99 วัน และมีส.ส.อยู่ในภาคนี้ทุกจังหวัด รวมถึงเคยเป็นรัฐบาลนาน 2 ปี 8 เดือน ก็ยังทำอะไรไม่ได้ แล้วเขาจะเอาอะไรมาอภิปราย
เมื่อถามว่า หลังจากประเมินแล้ว คิดว่ามีประเด็นใดที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมา จะสามารถถูกนำชี้ให้เห็นว่าทุจริตและนำไปสู่การถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี เพราะถ้าเป็นเรื่องจำนำข้าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็รับไปดำเนินการ ทั้งนี้ถ้าเขาไม่ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีในเรื่องทุจริต ก็ไม่สามารถอภิปรายการทุจริตได้
**ฟุ้ง'ปู'ไม่ถูกถอดถอนแน่
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะนำข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปใช้การปรับครม.หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ต้องอยู่ที่นายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ทันเห็นญัตติของฝ่ายค้าน ทั้งนี้ตนคิดว่าการเมืองไม่มีอะไร สบายๆ ตนพูดมาตลอดแล้วว่าถ้ารัฐบาลไม่มีเรื่องทุจริตก็อยู่ยาว และการที่พรรคประชาธิปัตย์ให้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ออกมาพูดบ่อยๆ ก็ยิ่งเติมแต้มให้รัฐบาล
**ปู ทำมั่นใจตอยบได้แน่
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมครม. ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยพุ่งเป้าไปที่ตัวนายกรัฐมนตรีว่า เราก็มีหน้าที่ต้องชี้แจง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบด้วย สำหรับตนก็พร้อมชี้แจงด้วยตัวเอง เรื่องไหนที่เป็นนโยบายที่เกี่ยวข้องหรืออะไรที่ต้องตอบ ก็ยินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ทราบหัวข้อที่ชัดเจน ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องอะไร ต้องรอดูจากญัตติที่ยื่นและดูรายละเอียดกันอีกครั้ง
ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นนั้น ก็ต้องดูว่าเป็นประเด็นไหน เพราะทุกอย่างยังเป็นเพียงการพูดเท่านั้น ต้องรอดูรายละเอียดก่อน หากมีรายละเอียดเราก็ยินดีชี้แจง เพราะเราไม่สนับสนุนให้มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ในการทำงานรัฐบาลได้มีการติดตามตรวจสอบ และตั้งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้ลงไปตรวจสอบเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว
**ไม่คิดตั้งองครักษ์ขอตอบ
“ยืนยันว่าจะไม่ตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ทุกอย่างให้เป็นไปตามกลไกของระบอบรัฐสภา เรามีหน้าที่ที่จะตอบข้อซักถามของสมาชิกให้เข้าใจ”น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวและว่า ส่วนการแถลงผลงานรัฐบาลครบ 1 ปีนั้น ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน ขอให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนก่อน แต่ตนมีความตั้งใจที่จะแถลงผลการทำงานตามนโยบายรัฐบาลเมื่อครบ 1 ปีอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีการปรับครม.หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตอนนี้เรายังไม่รู้หัวข้อที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายเลย ต้องขอดูก่อน และจะตอบอีกที แต่ตอนนี้ยังไม่มี
** แบไต๋ขุดเรื่องเน่า ปชป.ประจาน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคเพื่อไทย ว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยยังเตรียมแผนเพื่อป้องกันเกมป่วนของฝ่ายค้าน หากมีการอภิปรายนอกเรื่อง ไม่เข้าประเด็น หรือโฟกัสไปที่นายกฯโดยที่ไม่ใช่เรื่องการบริหารงาน ก็จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางจิตฝ่ายค้านกลับทันที โดยได้เตรียม ส.ส.กว่า 10 คนไว้คอยตอบโต้อภิปรายไม่ไว้วางจิตในแต่ละเรื่องแล้ว เรื่องที่เตรียมไว้อาทิ กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใส่เสื้อแดงขึ้นเวที การเลียนเสียง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย การใช้เอกสารเท็จสมัครเข้ารับราชการทหาร กรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์คัดค้านองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเทริกา หรือ องค์การนาซา ที่ขอให้สนามบินอู่ตะเภาสำรวจชั้นบรรยากาศ กรณี ส.ส.ประชาธิปัตย์เช่น น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม นายธานี เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในที่ประชุมสภาฯ หรือกรณีผลงานยอดแย่ของผู้ว่าฯกทม.
ส่วนกรณีที่นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ปล่อยข่าวเรื่องการจับขั้วตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่พรรคเพื่อไทยจะส่งเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาล เป็นการฝันกลางวัน พรรคเพื่อไทยไม่เคยมองพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในสายตาในการร่วมรัฐบาลแม้แต่น้อย ไม่ว่าโอกาสใดก็ตาม
**เติ้งเชื่อ “ปู”ชี้แจงซักฟอกได้
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมแถลงผลงาน 1 ปีที่ผ่านมา ว่า เท่าที่ดูผลงานรัฐบาลก็ถือว่าใช้ได้ มีโครงการมากมาย โดยเฉพาะการประชุม ครม.สัญจรตามจังหวัดต่างๆ โครงการรับจำนำข้าวก็ได้รับความพอใจจากประชาชน การแก้ปัญหาน้ำท่วมรัฐบาลก็ทุ่มงบประมาณมากพอสมควรในการขุดลอกคูคลอง นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมรัฐบาลก็ให้ความมั่นใจจนไม่มีการย้ายฐานการผลิต หรือด้านต่างประเทศนายกฯก็เดินสายหลายประเทศสร้างความสัมพันธ์ทั้งทางการค้า เศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับว่าทางฝ่ายค้านจะมีการซักถามรัฐบาลอย่างไรเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่ทางฝ่ายค้านระบุว่าจะพุ่งเป้าอภิปรายไม่ไว้วางใจไปที่ตัวนายกฯ นายบรรหาร กล่าวว่า นายกฯมีลีลาในการตอบอยู่แล้ว บางคำถามนายกฯอาจจะไม่ตอบ อาจโยนให้รัฐมนตรีเป็นคนตอบ เพราะเรื่องลึกๆ นายกฯก็ไม่สามารถตอบได้หมดหรอก อยู่ในระดับผิวเผินเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม นายกฯก็รู้หมดทุกเรื่องจึงยังเชื่อว่านายกฯจะเอาตัวรอดได้ถ้ามีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนจะเอาตัวรอดได้ทั้งคณะหรือเปล่ายังตอบไม่ได้ เพราะยอมรับว่าฝีมือพรรคประชาธิปัตย์ในการซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน สมัยตนเป็นรัฐบาลก็ถูกเล่นงานแทบแย่
เมื่อถามว่า ทางพรรคชาติไทยพัฒนายืนยันได้หรือไม่ว่านายกฯจะสอบผ่านและจะสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ต่อไป นายบรรหารกล่าวว่า เราอยู่ด้วยกันก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว
**ปูสั่งงาน 1 ปี ยกรบ.มาร์คเทียบ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแถลงผลงานของรัฐบาลครบ 1 ปี ว่า ขณะนี้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รวบรวมผลงานเสร็จแล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นแบบพรรณนาโวหารอยู่ แต่นายกรัฐมนตรีระบุว่าไม่ขอให้เป็นการรวบรวมผลงานแบบพรรณนาโวหาร แต่ให้เป็นการรวบรวมผลงานในเชิงวิเคราะห์ว่าผลงานนี้ นโยบายนี้เป็นอย่างไร และเป็นในลักษณะที่เปรียบเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว และให้แต่ละหน่วยงานไปดึงไฮไลท์ของตัวเองออกมา เน้นให้ดูง่าย อธิบายความง่าย เข้าใจง่าย สรุปนโยบายให้ชัดเจน แล้วส่งกลับภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้
** “ชวน” แนะลูกพรรค อย่าจ้องลอกสื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการหารือถึงกรณีที่กรมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ.) ได้ออกหนังสือเรียกตัวผู้ที่เคยบริจาคเงินช่วยหลือน้ำท่วมผ่านพรรคประชาธิปัตย์ไปให้รัฐบาลมาสอบปากคำโดยนายเจริญ คันธวงค์ ส.ส.กทม. เปิดเผยว่ามีการเรียกสอบไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่บริจาคเงินแค่400 บาท หรือแม้กระทั่งสมาคมชาปณกิจที่บริจาคเงิน 2 หมื่นบาท
ซึ่งนายถาวร เสนเนียม ฝ่ายกฏหมายพรรค กล่าวว่ากรณีนี้ตอนที่เกิดน้ำท่วม ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต) เคยยกเว้นการบริจาคเพื่อการช่วยเหลือคนในชาติ และมองเจตนาของดีเอสไอ.ว่ามีการเรียกไปสอบเฉพาะผู้ที่เคยบริจาคผ่านพรรคประชาธิปัตย์ไปให้รัฐบาลเท่านั้น ขณะที่ในส่วนของจังหวัดต่างๆในเวลานั้นก็ได้มีการรับบริจาคจากพ่อค้าประชาชนในแต่ละจังหวัดเพื่อไปให้รัฐบาลในลักษณะเดียวกันแต่ไม่มีการเรียกสอบ จึงมองเจตนาครั้งนี้ว่าเชื่อมโยงการเมืองเพื่อจับผิด โดยพรรคจะยื่นหนังสือร้องต่อผู้ตรวจการรัฐสภา ดำเนินการตรวจสอบดีเอสไอ. พร้อมทั้งขอให้ประชาชนที่เคยบริจาคผ่านพรรคที่ถูกดีเอสไอ.เรียกสอบ ที่ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าประชาชน คนทำมาหากินต่างหวาดกลัวว่าจะกระทบต่ออาชีพให้มาร้องเรียนและปรึกษากับทีมกฏหมายได้ที่พรรค โดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่องและประสานทางคดี
จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ได้กล่าวถึงการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยแนะนำส.ส.ว่า เรื่องที่เห็นว่าสามารถติดตามข้อมูลประเด้นต่างๆผ่านทางสื่อได้ แต่อย่านำข้อมูลมาทั้งหมด ขอให้มีการต่อยอดและสืบสาวเก็บข้อมูลพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ชัดเจน และบางเรื่องก็ไม่สมควรเปิดเผยประเด็นต่างๆก่อน ควรเก็บไว้เป็นหมัดน๊อคเพราะยังมีเวลา120 วัน พึ่งเปิดสภาช่วงแรก ค่อยๆรวบรวมข้อมูลไป พร้อมกับติงหลายคนที่ออกมาเปิดเผยว่าจะพูดเรื่องประเด็นต่างๆไม่ต้องพูดก็ได้
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดว่าตนเข้าใจที่มีส.ส.พรรคออกไปพูดเรื่องประเด็นที่จะซักฟอกเพราะบางครั้งฝ่ายรัฐบาลก็ปรามาสว่าไร้น้ำยา หรือเป็นเรื่องเดิมๆ ก็ขอให้อดทน ตั้งหน้าตั้งตาเก็บข้อมูลต่อไป สำหรับตนก็ยืนยันที่จะต้องเป็นผู้อภิปรายเพราะเป็นหัวหน้าพรรค จะมีการเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆจนกว่าจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนใครที่ไม่อยากอภิปรายก็ไม่ต้องอภิปราย แต่ตนเป็นหัวหน้าในการยื่นญัตติดังกล่าวก็ต้องทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่มีการอ้างผลกรุงเทพโพลล์ว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจเวลานี้ถึง 52% และเห็นด้วยกับการอภิปราย47% ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะในสมัยที่เราเป็นรัฐบาล กรุงเทพโพลล์ก็ไม่เคยสำรวจอะไรให้ตนผ่านอยู่แล้ว และตัวเลขที่สนับสนุนการอภิปรายถึง 47% ก็ไม่เคยปรากฏมาก่อน ส.ส.จึงไม่ต้องวิตกกังวลว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะมันอยู่ที่ประเด็นข้อเท็จจริงและหลักฐานในเรื่องที่จะอภิปราย
ขณะที่คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธานส.ส. กล่าวเสริมว่า รัฐบาลก็ต้องอ้างสื่อที่เป็นประโยชน์กับเขา แต่ที่ตนฟัง เอฟเอ็ม 96.5 เมกกะเฮิร์ต ก็ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชน พบว่า 60% เห็นด้วยที่จะให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในครั้งนี้
**“เทพไท”เย้ยอย่าประมาทปชป.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาสบประมาทการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นว่า ตนอยากเรียนว่า การประมาทเป็นบ่อเกิดของความตาย ร.ต.อ.เฉลิมไม่ควรสบประมาทพรรคประชาธิปัตย์ อย่าติเรือทั้งโกลน อย่าติเด็กในผ้าอ้อม เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งใจทำหน้าที่ในการตรวจสอบฐานะฝ่ายค้านอย่างดีที่สุด และที่ผ่านมาก็เป็นที่ทราบว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์ มักจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเสมอ เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์จับเท็จ ทุจริต และการโกงได้ตลอดเวลา ที่พูดไม่ใช่อวดตัว และไม่มีการล้มมวยอย่างเด็ดขาด เพราะทุกอย่างจะอยู่ที่ข้อเท็จจริง ฉะนั้นรัฐบาลอย่าปิดกั้นหรือไม่ดำเนินการใดๆกับแหล่งข่าว และแหล่งข้อมูลที่จะให้กับฝ่ายค้าน
**ปัดเปลี่ยนหัวหน้าพรรคปชป.
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีการปล่อยข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะขณะนี้ในพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครคิดที่จะเปลี่ยนแปลง มีแต่พรรคเพื่อไทย ที่พยามยามปล่อยข่าวดิสเครดิต โดยเฉพาะนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง ตำแหน่งหัวหน้าพรรคมีวาระ 4 ปี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะอยู่ครบวาระ ไม่เหมือนพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคเฉพาะกิจ เป็นพรรคที่มีเจ้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะจิกหัวใครให้ออกจากหัวหน้าพรรคก็ได้
"หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีเกียรติ ศักดิ์ศรี ไม่ใช่ยามเฝ้าพรรค และชื่อที่แนบท้ายญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็จะเป็นชื่อของนายอภิสิทธิ์ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยอย่าเอาเรื่องไร้สาระมาสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคม"นายเทพไท
**เลขาปชป.ขย่มไล่เตรียมข้อมูล
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งทีมงาน เพื่อรวบรวมข้อมูลตั้งแต่วันแรกที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งเราเห็นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกระบวนการในสภา ไม่ใช่เป็นการเล่นการเมืองหรือสร้างภาพแต่ถ้ารัฐบาลมั่นใจว่าบริหารงานประเทศได้ดีก็ไม่ต้องกลัว ไม่ควรทำตัวเหมือนวัวสันหลังวะมาคอยตอบโต้ฝ่ายค้าน แต่รัฐบาลควรไปหาข้อมูลเพื่อนำมาชี้แจงฝ่ายค้านในสภาจะดีกว่าเพราะพรรคประชาธิปัตย์อยากให้การเมืองเข้าสู่ระบบไม่อยากให้มีการเมืองนอกสภา
"ประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์สนใจในการอภิปรายคือ การบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล โดยนายกฯจะต้องรับผิดชอบ และผมไม่อยากให้ใช้ความเป็นผู้หญิงควบคู่ไปกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ควรแยกให้ออกระหว่างการเมืองกับเพศ เพราะเราตรวจสอบตามเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของผู้นำประเทศ"นายเฉลิมชัยกล่าวและว่า ส่วนที่จะอภิปรายบุคคลใดบ้างนั้น ต้องรออีกระยะหนึ่ง และตนอยากบอกไว้เลยว่า วันนี้ชัดเจนว่านายกฯจะต้องเตรียมตัว มาตอบให้ดีก็แล้วกัน และที่พยายามพูดกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น ถือเป็นเรื่องของคนที่ฝันกลางวันมากไปหน่อย
**เหลิมมึนข่าวฝ่ายค้านยังไม่ยื่น
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านอาจไม่ยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเร็วๆนี้ เพราะมีวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 วาระสอง ว่า ไม่ใช่อย่างนั้น การไม่ยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่ที่หลักฐานที่จะใช้แสดงและอภิปรายในสภาฯ ซึ่งโดยหลักการ ถ้ายื่นอภิปรายฯในเรื่องการบริหาร ก็ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ เพราะถ้าฝ่ายค้านถามมา เราก็ตอบไป และถ้าเป็นเรื่องความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจเป็นเรื่องเข้าเนื้อพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเคยหาเสียงในการเลือกตั้งไว้ว่าจะแก้ปัญหาภาคใต้ให้ได้ใน 99 วัน และมีส.ส.อยู่ในภาคนี้ทุกจังหวัด รวมถึงเคยเป็นรัฐบาลนาน 2 ปี 8 เดือน ก็ยังทำอะไรไม่ได้ แล้วเขาจะเอาอะไรมาอภิปราย
เมื่อถามว่า หลังจากประเมินแล้ว คิดว่ามีประเด็นใดที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมา จะสามารถถูกนำชี้ให้เห็นว่าทุจริตและนำไปสู่การถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี เพราะถ้าเป็นเรื่องจำนำข้าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็รับไปดำเนินการ ทั้งนี้ถ้าเขาไม่ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีในเรื่องทุจริต ก็ไม่สามารถอภิปรายการทุจริตได้
**ฟุ้ง'ปู'ไม่ถูกถอดถอนแน่
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะนำข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปใช้การปรับครม.หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ต้องอยู่ที่นายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ทันเห็นญัตติของฝ่ายค้าน ทั้งนี้ตนคิดว่าการเมืองไม่มีอะไร สบายๆ ตนพูดมาตลอดแล้วว่าถ้ารัฐบาลไม่มีเรื่องทุจริตก็อยู่ยาว และการที่พรรคประชาธิปัตย์ให้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ออกมาพูดบ่อยๆ ก็ยิ่งเติมแต้มให้รัฐบาล
**ปู ทำมั่นใจตอยบได้แน่
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมครม. ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยพุ่งเป้าไปที่ตัวนายกรัฐมนตรีว่า เราก็มีหน้าที่ต้องชี้แจง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบด้วย สำหรับตนก็พร้อมชี้แจงด้วยตัวเอง เรื่องไหนที่เป็นนโยบายที่เกี่ยวข้องหรืออะไรที่ต้องตอบ ก็ยินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ทราบหัวข้อที่ชัดเจน ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องอะไร ต้องรอดูจากญัตติที่ยื่นและดูรายละเอียดกันอีกครั้ง
ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นนั้น ก็ต้องดูว่าเป็นประเด็นไหน เพราะทุกอย่างยังเป็นเพียงการพูดเท่านั้น ต้องรอดูรายละเอียดก่อน หากมีรายละเอียดเราก็ยินดีชี้แจง เพราะเราไม่สนับสนุนให้มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ในการทำงานรัฐบาลได้มีการติดตามตรวจสอบ และตั้งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้ลงไปตรวจสอบเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว
**ไม่คิดตั้งองครักษ์ขอตอบ
“ยืนยันว่าจะไม่ตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ทุกอย่างให้เป็นไปตามกลไกของระบอบรัฐสภา เรามีหน้าที่ที่จะตอบข้อซักถามของสมาชิกให้เข้าใจ”น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวและว่า ส่วนการแถลงผลงานรัฐบาลครบ 1 ปีนั้น ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน ขอให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนก่อน แต่ตนมีความตั้งใจที่จะแถลงผลการทำงานตามนโยบายรัฐบาลเมื่อครบ 1 ปีอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีการปรับครม.หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตอนนี้เรายังไม่รู้หัวข้อที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายเลย ต้องขอดูก่อน และจะตอบอีกที แต่ตอนนี้ยังไม่มี
** แบไต๋ขุดเรื่องเน่า ปชป.ประจาน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคเพื่อไทย ว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยยังเตรียมแผนเพื่อป้องกันเกมป่วนของฝ่ายค้าน หากมีการอภิปรายนอกเรื่อง ไม่เข้าประเด็น หรือโฟกัสไปที่นายกฯโดยที่ไม่ใช่เรื่องการบริหารงาน ก็จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางจิตฝ่ายค้านกลับทันที โดยได้เตรียม ส.ส.กว่า 10 คนไว้คอยตอบโต้อภิปรายไม่ไว้วางจิตในแต่ละเรื่องแล้ว เรื่องที่เตรียมไว้อาทิ กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใส่เสื้อแดงขึ้นเวที การเลียนเสียง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย การใช้เอกสารเท็จสมัครเข้ารับราชการทหาร กรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์คัดค้านองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเทริกา หรือ องค์การนาซา ที่ขอให้สนามบินอู่ตะเภาสำรวจชั้นบรรยากาศ กรณี ส.ส.ประชาธิปัตย์เช่น น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม นายธานี เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในที่ประชุมสภาฯ หรือกรณีผลงานยอดแย่ของผู้ว่าฯกทม.
ส่วนกรณีที่นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ปล่อยข่าวเรื่องการจับขั้วตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่พรรคเพื่อไทยจะส่งเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาล เป็นการฝันกลางวัน พรรคเพื่อไทยไม่เคยมองพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในสายตาในการร่วมรัฐบาลแม้แต่น้อย ไม่ว่าโอกาสใดก็ตาม
**เติ้งเชื่อ “ปู”ชี้แจงซักฟอกได้
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมแถลงผลงาน 1 ปีที่ผ่านมา ว่า เท่าที่ดูผลงานรัฐบาลก็ถือว่าใช้ได้ มีโครงการมากมาย โดยเฉพาะการประชุม ครม.สัญจรตามจังหวัดต่างๆ โครงการรับจำนำข้าวก็ได้รับความพอใจจากประชาชน การแก้ปัญหาน้ำท่วมรัฐบาลก็ทุ่มงบประมาณมากพอสมควรในการขุดลอกคูคลอง นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมรัฐบาลก็ให้ความมั่นใจจนไม่มีการย้ายฐานการผลิต หรือด้านต่างประเทศนายกฯก็เดินสายหลายประเทศสร้างความสัมพันธ์ทั้งทางการค้า เศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับว่าทางฝ่ายค้านจะมีการซักถามรัฐบาลอย่างไรเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่ทางฝ่ายค้านระบุว่าจะพุ่งเป้าอภิปรายไม่ไว้วางใจไปที่ตัวนายกฯ นายบรรหาร กล่าวว่า นายกฯมีลีลาในการตอบอยู่แล้ว บางคำถามนายกฯอาจจะไม่ตอบ อาจโยนให้รัฐมนตรีเป็นคนตอบ เพราะเรื่องลึกๆ นายกฯก็ไม่สามารถตอบได้หมดหรอก อยู่ในระดับผิวเผินเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม นายกฯก็รู้หมดทุกเรื่องจึงยังเชื่อว่านายกฯจะเอาตัวรอดได้ถ้ามีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนจะเอาตัวรอดได้ทั้งคณะหรือเปล่ายังตอบไม่ได้ เพราะยอมรับว่าฝีมือพรรคประชาธิปัตย์ในการซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน สมัยตนเป็นรัฐบาลก็ถูกเล่นงานแทบแย่
เมื่อถามว่า ทางพรรคชาติไทยพัฒนายืนยันได้หรือไม่ว่านายกฯจะสอบผ่านและจะสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ต่อไป นายบรรหารกล่าวว่า เราอยู่ด้วยกันก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว
**ปูสั่งงาน 1 ปี ยกรบ.มาร์คเทียบ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแถลงผลงานของรัฐบาลครบ 1 ปี ว่า ขณะนี้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รวบรวมผลงานเสร็จแล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นแบบพรรณนาโวหารอยู่ แต่นายกรัฐมนตรีระบุว่าไม่ขอให้เป็นการรวบรวมผลงานแบบพรรณนาโวหาร แต่ให้เป็นการรวบรวมผลงานในเชิงวิเคราะห์ว่าผลงานนี้ นโยบายนี้เป็นอย่างไร และเป็นในลักษณะที่เปรียบเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว และให้แต่ละหน่วยงานไปดึงไฮไลท์ของตัวเองออกมา เน้นให้ดูง่าย อธิบายความง่าย เข้าใจง่าย สรุปนโยบายให้ชัดเจน แล้วส่งกลับภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้
** “ชวน” แนะลูกพรรค อย่าจ้องลอกสื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการหารือถึงกรณีที่กรมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ.) ได้ออกหนังสือเรียกตัวผู้ที่เคยบริจาคเงินช่วยหลือน้ำท่วมผ่านพรรคประชาธิปัตย์ไปให้รัฐบาลมาสอบปากคำโดยนายเจริญ คันธวงค์ ส.ส.กทม. เปิดเผยว่ามีการเรียกสอบไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่บริจาคเงินแค่400 บาท หรือแม้กระทั่งสมาคมชาปณกิจที่บริจาคเงิน 2 หมื่นบาท
ซึ่งนายถาวร เสนเนียม ฝ่ายกฏหมายพรรค กล่าวว่ากรณีนี้ตอนที่เกิดน้ำท่วม ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต) เคยยกเว้นการบริจาคเพื่อการช่วยเหลือคนในชาติ และมองเจตนาของดีเอสไอ.ว่ามีการเรียกไปสอบเฉพาะผู้ที่เคยบริจาคผ่านพรรคประชาธิปัตย์ไปให้รัฐบาลเท่านั้น ขณะที่ในส่วนของจังหวัดต่างๆในเวลานั้นก็ได้มีการรับบริจาคจากพ่อค้าประชาชนในแต่ละจังหวัดเพื่อไปให้รัฐบาลในลักษณะเดียวกันแต่ไม่มีการเรียกสอบ จึงมองเจตนาครั้งนี้ว่าเชื่อมโยงการเมืองเพื่อจับผิด โดยพรรคจะยื่นหนังสือร้องต่อผู้ตรวจการรัฐสภา ดำเนินการตรวจสอบดีเอสไอ. พร้อมทั้งขอให้ประชาชนที่เคยบริจาคผ่านพรรคที่ถูกดีเอสไอ.เรียกสอบ ที่ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าประชาชน คนทำมาหากินต่างหวาดกลัวว่าจะกระทบต่ออาชีพให้มาร้องเรียนและปรึกษากับทีมกฏหมายได้ที่พรรค โดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่องและประสานทางคดี
จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ได้กล่าวถึงการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยแนะนำส.ส.ว่า เรื่องที่เห็นว่าสามารถติดตามข้อมูลประเด้นต่างๆผ่านทางสื่อได้ แต่อย่านำข้อมูลมาทั้งหมด ขอให้มีการต่อยอดและสืบสาวเก็บข้อมูลพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ชัดเจน และบางเรื่องก็ไม่สมควรเปิดเผยประเด็นต่างๆก่อน ควรเก็บไว้เป็นหมัดน๊อคเพราะยังมีเวลา120 วัน พึ่งเปิดสภาช่วงแรก ค่อยๆรวบรวมข้อมูลไป พร้อมกับติงหลายคนที่ออกมาเปิดเผยว่าจะพูดเรื่องประเด็นต่างๆไม่ต้องพูดก็ได้
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดว่าตนเข้าใจที่มีส.ส.พรรคออกไปพูดเรื่องประเด็นที่จะซักฟอกเพราะบางครั้งฝ่ายรัฐบาลก็ปรามาสว่าไร้น้ำยา หรือเป็นเรื่องเดิมๆ ก็ขอให้อดทน ตั้งหน้าตั้งตาเก็บข้อมูลต่อไป สำหรับตนก็ยืนยันที่จะต้องเป็นผู้อภิปรายเพราะเป็นหัวหน้าพรรค จะมีการเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆจนกว่าจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนใครที่ไม่อยากอภิปรายก็ไม่ต้องอภิปราย แต่ตนเป็นหัวหน้าในการยื่นญัตติดังกล่าวก็ต้องทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่มีการอ้างผลกรุงเทพโพลล์ว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจเวลานี้ถึง 52% และเห็นด้วยกับการอภิปราย47% ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะในสมัยที่เราเป็นรัฐบาล กรุงเทพโพลล์ก็ไม่เคยสำรวจอะไรให้ตนผ่านอยู่แล้ว และตัวเลขที่สนับสนุนการอภิปรายถึง 47% ก็ไม่เคยปรากฏมาก่อน ส.ส.จึงไม่ต้องวิตกกังวลว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะมันอยู่ที่ประเด็นข้อเท็จจริงและหลักฐานในเรื่องที่จะอภิปราย
ขณะที่คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธานส.ส. กล่าวเสริมว่า รัฐบาลก็ต้องอ้างสื่อที่เป็นประโยชน์กับเขา แต่ที่ตนฟัง เอฟเอ็ม 96.5 เมกกะเฮิร์ต ก็ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชน พบว่า 60% เห็นด้วยที่จะให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในครั้งนี้
