เคอร์ฟิวส์ใต้คุมได้จริง !?

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

00 วันนี้วันที่ 7 ส.ค.ก็ต้องรออีกประมาณ 24 ชั่วโมง กว่าที่ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะใส่ชุดสวยไม่ซ้ำกันมานั่งหัวโต๊ะหน่วยงานความมั่นคงเพื่อระดมสมองดับไฟใต้ที่กำหนดเอาไว้ในวันที่ 8 ส.ค. ไม่รู้ว่าระหว่างนี้พี่น้องทหารตำรวจ ข้าราชการ และชาวบ้านจะต้องสังเวยคมกระสุนและระเบิดของพวกโจรก่อการร้ายไปอีกกี่ศพ บาดเจ็บไปอีกกี่ราย หรือว่าไม่เป็นไรเพราะที่ผ่านมาก็เจ็บตายจนชินชาไปแล้วอย่างนั้นหรือ

00 อย่างไรก็ดีพูดไปเพื่อประชดประชันไปอย่างนั้นแหละ เนื่องจากไม่ได้คาดหวังหรือให้ราคากับ นายกฯและรัฐบาล รวมไปถึงบรรดา 3 รองนายกฯที่เพิ่งตั้งมาเป็นพระอันดับมาดูแลเร่งรัดแก้ปัญหาในพื้นที่ หลังจากได้ยินชื่อแต่ละคนก็ต้องบอกว่ามันจะทำให้ยิ่งสับสนอลหม่านกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าลองเอาคนอย่าง “พ่อไอ้ปื๊ด” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มาทำหน้าที่ก็ต้องบอกว่า “สยอง” หรือแม้แต่ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่วันๆทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวมั่งหรือเปล่าไม่รู้ นี่ก็จะให้ไปควบคุมขันนอตผู้ว่าฯนักปกครองในพื้นที่ทั้งหลาย ก็ต้องถามตัวเองเสียด้วยว่ามีศักยภาพแค่ไหน ผ่านมาเกือบปีในเก้าอี้รองนายกฯควบ มท.1 มีผลงานน่าประทับใจอะไรบ้าง

00 ไม่รู้ว่ากัดฟันพูดหรือเปล่า ที่ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หนุนให้รัฐบาลโดย รมว.กลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ให้ประกาศเคอร์ฟิวส์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ อ้างว่าเพื่อจำกัดความเคลื่อนไหวของพวกผู้ก่อการร้าย ความหมายก็คือในอนาคตถ้าทำอย่างนั้นก็ถือว่าเป็น “พื้นที่สีแดง” อันตรายเต็มขั้นแล้ว และอีกด้านหนึ่งมันสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า “ล้มเหลว” อย่างสิ้นเชิง แต่เอาเถอะมาถึงขั้นนี้แล้วว่าไงว่าตาม ถ้าลองคิดว่ามั่นใจ มีเหตุผลรองรับว่าทำให้ดีขึ้นก็ลองดู

00 น่าสังเกตก็คือนับจากนี้ไปในยุครัฐบาลปูภายใต้การกำกับดูแลของ พี่ชายคือ ทักษิณ ชินวัตรที่ทำชายแดนใต้เละอยู่ตอนนี้ จะมีการ “แบ่งสรรอำนาจ”กันอีกรอบมีฝ่ายทหาร มหาดไทยตำรวจ และ ศอ.บต.มองอีกมุมหนึ่งเป็นการฉกฉวยสถานการณ์ได้อย่างเหมาะเจาะที่สุด ความหมายก็คือเป็นการลดบทบาทของกองทัพลงไป และพูดไม่ออกเสียด้วยซี เชื่อว่าต่อไปจะมีรายการมั่วหนักกว่าเดิมและเหลวยิ่งกว่าเดิม เวรกรรม !!

00 พูดถึงผลงานรัฐมนตรี และรัฐบาล รวมไปถึง นายกฯคนสวย ยิ่งลักษณ์ ก็น่าจะสะท้อนความจริงผ่านทาง “กรุงเทพโพลล์” ที่สรุปรวมให้เห็นว่า “รัฐบาลสอบตก” ได้คะแนนไม่ถึง 5 จากคะแนนเต็มสิบ ตัวผู้นำก็ได้คะแนนสอบผ่านแบบคาบเส้นฉิวเฉียด และที่สำคัญยังไม่มีรมต.คนไหนที่มีผลงานโดดเด่น แม้ว่าดูผลโพลที่ออกมาดูแล้วทะแม่งไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ แต่ก็เอาเถอะในเมื่ออ้างว่าอยู่ในระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องก้มหน้าเก็บความรู้สึกกันต่อไป

00 ถือว่าเขี้ยวใช้ได้สำหรับ ปชป.ที่ประวิงเวลาสำหรับการยื่นซักฟอก ออกไปหลัง พ.ร.บ.งบประมาณ และการแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี ของรัฐบาลนั่นก็หมายความว่าอาจต้องรอไปหลังเดือนสิงหาคมก็เป็นได้ เพราะอย่างที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เกริ่นเอาไว้ว่าสภาเปิดไปจนถึงเดือน ธ.ค.ยิ่งนานไปยิ่งได้เห็นความล้มเหลวมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีวิธีการทำลายทั้ง พี่ทั้งน้องและเครือข่ายก็ต้องปล่อยให้ “สันดาน” โผล่ออกมาเอง บางครั้งขืนไปทำอะไรมากกลับไปสร้างจุดแข็งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวก็ได้