วานนี้(29 ก.ค.55) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคืบหน้ากรณีการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้ต้องโทษหนีคดีอาญาแผ่นดินในคดีทุจริตที่ดินรัชดา ภายหลังจากที่ทางคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นกลับมายังสำนักงานกำลังพล ว่าสามารถปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการถอดยศตำรวจพ.ศ.2547 ได้เลยเมื่อช่วงปลายปี 2554
มีรายงานข่าวว่า ก่อนหน้านี้ 1 เดือน ทางสำนักกำลังพล ได้สรุปเสนอเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปยัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยลงความเห็นว่าขอให้ชะลอเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากต้องพิจารณาปัจจัยสถานการณ์ภายนอกเป็นหลัก “ที่ต้องมีการชะลอการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณออกไปก่อน เนื่องจากได้เล็งเห็นว่า การจะตัดสินใจในทางใดทางหนึ่ง อาจกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองตามมาได้เพราะถ้าออกไปในรูปแบบให้ถอดยศ ก็จะมีมวลชนกลุ่มหนึ่งออกมาต่อต้านแต่ถ้าไม่ถอดก็มีมวลชนที่ไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเช่นกันรวมถึงคดีดังกล่าวไม่ได้กำหนดอายุความไว้ ฉะนั้นจึงมีการเสนอให้ชะลอเรื่องนี้ออกไปก่อนหรือจนกว่าประเทศจะมีข้อยุติในความขัดแย้งระหว่างกลุ่มสีต่างๆและประเทศเกิดความปรองดองที่แท้จริงขึ้นมาเสียก่อน โดยเชื่อว่าทางสตช.ก็คงเห็นชอบตามข้อเสนอดังกล่าวเช่นกัน
อีกด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวอ้างต่อว่า ส่วนตัวเชื่อว่า การย้าย ร.ท.ดวง อยู่บำรุง มาเป็นตำรวจนั้น เป็นการกระทำผิดพระราชบัญญัติ ตร. และกฎการโอนตำแหน่งราชการ ของ กตร. ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการเป็นข้าราชการตำรวจ เนื่องจาก ร.ท.ดวง เคยประพฤติตนเป็นที่มัวหมองมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาคดียิงเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ (ดาบยิ้ม) ทั้งยังเคยหนีราชการทหารเป็นเวลา 6 เดือน ไปยังต่างประเทศก่อนที่จะกลับมามอบตัว
ดังนั้น ขอฝากไปถึง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร.ว่า เพราะเหตุใดจึงเอาคนที่มีคดีพัวพันฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่เป็นตำรวจเสียเอง และเหตุใดจึงไม่ดูแลลูกของดาบยิ้มให้มาเป็น ตร.ขณะเดียวกันหาก ร.ท.ดวง มีความสามารถสูงในด้านการยิงปืน โดยสามารถยิงได้คะแนนเต็ม 100% จริง ก็ควรส่งไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กำลังแข่งกันอยู่ในขณะนี้น่าจะดีกว่า
ที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาระบุว่ามีการเปิดค้าประเวณีเด็กลาวที่จ.ฉะเชิงเทรา โดยเบื้องหน้าทำเป็นร้านอาหาร ว่า ไม่เป็นไร ถ้าทำจริงก็ดำเนินการ ตำรวจไม่มีการละเว้น แต่ที่นายชูวิทย์ออกมาระบุว่าร.ต.ท.ดวง อยู่บำรุง บุตรชาย ย้ายมาสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นการผิดกฎก.ตร.ซึ่งกตร.ประเทศไทย ทำได้ไม่ผิด แต่กตร.ประเทศอื่นตนไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้ศึกษา แล้วขอให้นายชูวิทย์ลืมคำว่าต้องตรวจสอบในสภาฯ คำว่าจะไม่ไว้วางใจ และขอให้อย่าช้า ทั้งนี้ถ้าตนทราบก่อนหน้านี้ ตนจะไม่ให้ลูกชายมาเป็น เพราะตำรวจแม่นปืน เวลาจับโจรผู้ร้ายผู้บังคับบัญชามักจะเรียกตัวไปใช้งาน ซึ่งก็เสี่ยง ถ้าเป็นทหารสารวัตร ก็ไม่ลำบากอะไร ซึ่งเรื่องนี้คุณแม่ก็ไม่เห็นด้วย แต่เมื่อโอนมาแล้ว เขาชอบก็ต้องตามใจ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีการโอนย้าย ร.ท.ดวง อยู่บำรุง ผู้บังคับหมวดกองร้อยสารวัตรทหาร กรมยุทธบริการทหาร บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี มาดำรงตำแหน่ง ว่าที่ ร.ต.ท. สังกัดศูนย์ฝึกอบรมกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยจะมีผลในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ว่า ตนเองขอยืนยันว่า ขั้นตอนถูกต้องและเป็นไปตามกฎระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเมื่อปีที่ผ่านมา มีการโอนย้ายทหารมาเป็นตำรวจกว่า 20 นาย โดยว่าที่ ร.ต.ท.ดวง ถือว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถด้านการยิงปืนที่มีความแม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงจบการศึกษาระดับปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ ทั้งนี้ ตนเองจะให้ว่าที่ ร.ต.ท.ดวง เป็นผู้ฝึกสอนข้าราชการตำรวจ เนื่องจากที่ผ่านมา ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตบ่อยครั้ง ยืนยันว่าไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง ส่วนที่เรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็น ก็เพราะ ว่าที่ ร.ต.ท.ดวง นามสกุล อยู่บำรุง เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากมีนายทหารคนใดที่มีความรู้ความชำนาญด้านอาวุธปืน สามารถทำเรื่องโอนย้ายมาได้ เนื่องจากตำรวจยังขาดแคลนบุคลากรที่มีความชำนาญด้านนี้
**กมธ.ตร.สอบผบ.ตร. อวยแม้ว
นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ.ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการติดตามข้อเท็จจริง เพื่อหารายละเอียดที่แน่ชัด กรณีพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ไปอวยพรวันเกิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง เนื่องจากอีกฝ่ายโต้แย้งมาว่า ไม่เป็นเรื่องจริง และเป็นการเดินทางไปทำภารกิจทางราชการเท่านั้นหากผลการตรวจสอบพบว่าเป็นความจริง กมธ.ตำรวจพร้อมจะนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยทันที เพราะเข้าข่ายเป็นการกระทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะโดยตำแหน่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่ในการจับกุมคนร้าย หรือผู้ที่กระทำความผิดในทุกๆ กรณี แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะอยู่นอกประเทศ และกฏหมายไทยครอบคลุมไปไม่ถึง แต่ก็ไม่ควรที่บุคคลระดับหัวหน้าตำรวจของประเทศ จะไปเข้าพบหรืออวยพรวันเกิดให้กับผู้ที่หลบหนีคดี และปกติก็จะไม่มีข้าราชการระดับสูงในประเทศใดกระทำกัน
ส่วนกรณีที่มีการโอนย้าย ร.ท.ดวง อยู่บำรุง ผู้บังคับหมวดกองร้อยสารวัตรทหาร สารวัตรยุทธบริการทหาร ไปเป็นรองสารวัตรศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล นั้น จากการตรวจสอบเอกสารของคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พบว่า เป็นการดำเนินการระหว่างกระทรวงกลาโหม กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกต้องตามขั้นตอน แต่จะเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ทางคณะกรรมาธิการฯ คงไม่ไปกล่าวถึง และขอให้เป็นดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชาของทั้ง 2 ฝ่ายเอง พร้อมทั้งไม่เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะไม่รู้เรื่องที่ลูกชายขอโอนย้ายสังกัดมาก่อนล่วงหน้า แต่เป็นเพียงแค่การปฎิเสธเพื่อเอาตัวรอดมากกว่า.
อีกด้านพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า เดินทางไปฮ่องกงจริง แต่ไปทำภารกิจทางราชการเท่านั้น ไม่ได้เข้าพบและอวยพรวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมาแต่อย่างใด เนื่องจาก ตนเดินทางไปเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม แต่วันเกิดของพ.ต.ท.ทักษิณ วันที่ 26 ก.ค.
เมื่อถามว่า ได้เข้าไปอวยพรวันเกิดล่วงหน้ากับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ที่ไปฮ่องกงก็ไปราชการไม่ได้เข้าอวยพรหรือแฮปปี้เบิร์ดแดย์อะไร ไม่ได้คุยกันรวมถึงความคิดบางอย่างของตนกับพ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ตรงกันและตนคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณเองก็คงไม่ชอบตนเช่นกัน
มีรายงานข่าวว่า ก่อนหน้านี้ 1 เดือน ทางสำนักกำลังพล ได้สรุปเสนอเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปยัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยลงความเห็นว่าขอให้ชะลอเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากต้องพิจารณาปัจจัยสถานการณ์ภายนอกเป็นหลัก “ที่ต้องมีการชะลอการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณออกไปก่อน เนื่องจากได้เล็งเห็นว่า การจะตัดสินใจในทางใดทางหนึ่ง อาจกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองตามมาได้เพราะถ้าออกไปในรูปแบบให้ถอดยศ ก็จะมีมวลชนกลุ่มหนึ่งออกมาต่อต้านแต่ถ้าไม่ถอดก็มีมวลชนที่ไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเช่นกันรวมถึงคดีดังกล่าวไม่ได้กำหนดอายุความไว้ ฉะนั้นจึงมีการเสนอให้ชะลอเรื่องนี้ออกไปก่อนหรือจนกว่าประเทศจะมีข้อยุติในความขัดแย้งระหว่างกลุ่มสีต่างๆและประเทศเกิดความปรองดองที่แท้จริงขึ้นมาเสียก่อน โดยเชื่อว่าทางสตช.ก็คงเห็นชอบตามข้อเสนอดังกล่าวเช่นกัน
อีกด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวอ้างต่อว่า ส่วนตัวเชื่อว่า การย้าย ร.ท.ดวง อยู่บำรุง มาเป็นตำรวจนั้น เป็นการกระทำผิดพระราชบัญญัติ ตร. และกฎการโอนตำแหน่งราชการ ของ กตร. ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการเป็นข้าราชการตำรวจ เนื่องจาก ร.ท.ดวง เคยประพฤติตนเป็นที่มัวหมองมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาคดียิงเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ (ดาบยิ้ม) ทั้งยังเคยหนีราชการทหารเป็นเวลา 6 เดือน ไปยังต่างประเทศก่อนที่จะกลับมามอบตัว
ดังนั้น ขอฝากไปถึง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร.ว่า เพราะเหตุใดจึงเอาคนที่มีคดีพัวพันฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่เป็นตำรวจเสียเอง และเหตุใดจึงไม่ดูแลลูกของดาบยิ้มให้มาเป็น ตร.ขณะเดียวกันหาก ร.ท.ดวง มีความสามารถสูงในด้านการยิงปืน โดยสามารถยิงได้คะแนนเต็ม 100% จริง ก็ควรส่งไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กำลังแข่งกันอยู่ในขณะนี้น่าจะดีกว่า
ที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาระบุว่ามีการเปิดค้าประเวณีเด็กลาวที่จ.ฉะเชิงเทรา โดยเบื้องหน้าทำเป็นร้านอาหาร ว่า ไม่เป็นไร ถ้าทำจริงก็ดำเนินการ ตำรวจไม่มีการละเว้น แต่ที่นายชูวิทย์ออกมาระบุว่าร.ต.ท.ดวง อยู่บำรุง บุตรชาย ย้ายมาสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นการผิดกฎก.ตร.ซึ่งกตร.ประเทศไทย ทำได้ไม่ผิด แต่กตร.ประเทศอื่นตนไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้ศึกษา แล้วขอให้นายชูวิทย์ลืมคำว่าต้องตรวจสอบในสภาฯ คำว่าจะไม่ไว้วางใจ และขอให้อย่าช้า ทั้งนี้ถ้าตนทราบก่อนหน้านี้ ตนจะไม่ให้ลูกชายมาเป็น เพราะตำรวจแม่นปืน เวลาจับโจรผู้ร้ายผู้บังคับบัญชามักจะเรียกตัวไปใช้งาน ซึ่งก็เสี่ยง ถ้าเป็นทหารสารวัตร ก็ไม่ลำบากอะไร ซึ่งเรื่องนี้คุณแม่ก็ไม่เห็นด้วย แต่เมื่อโอนมาแล้ว เขาชอบก็ต้องตามใจ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีการโอนย้าย ร.ท.ดวง อยู่บำรุง ผู้บังคับหมวดกองร้อยสารวัตรทหาร กรมยุทธบริการทหาร บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี มาดำรงตำแหน่ง ว่าที่ ร.ต.ท. สังกัดศูนย์ฝึกอบรมกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยจะมีผลในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ว่า ตนเองขอยืนยันว่า ขั้นตอนถูกต้องและเป็นไปตามกฎระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเมื่อปีที่ผ่านมา มีการโอนย้ายทหารมาเป็นตำรวจกว่า 20 นาย โดยว่าที่ ร.ต.ท.ดวง ถือว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถด้านการยิงปืนที่มีความแม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงจบการศึกษาระดับปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ ทั้งนี้ ตนเองจะให้ว่าที่ ร.ต.ท.ดวง เป็นผู้ฝึกสอนข้าราชการตำรวจ เนื่องจากที่ผ่านมา ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตบ่อยครั้ง ยืนยันว่าไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง ส่วนที่เรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็น ก็เพราะ ว่าที่ ร.ต.ท.ดวง นามสกุล อยู่บำรุง เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากมีนายทหารคนใดที่มีความรู้ความชำนาญด้านอาวุธปืน สามารถทำเรื่องโอนย้ายมาได้ เนื่องจากตำรวจยังขาดแคลนบุคลากรที่มีความชำนาญด้านนี้
**กมธ.ตร.สอบผบ.ตร. อวยแม้ว
นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ.ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการติดตามข้อเท็จจริง เพื่อหารายละเอียดที่แน่ชัด กรณีพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ไปอวยพรวันเกิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง เนื่องจากอีกฝ่ายโต้แย้งมาว่า ไม่เป็นเรื่องจริง และเป็นการเดินทางไปทำภารกิจทางราชการเท่านั้นหากผลการตรวจสอบพบว่าเป็นความจริง กมธ.ตำรวจพร้อมจะนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยทันที เพราะเข้าข่ายเป็นการกระทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะโดยตำแหน่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่ในการจับกุมคนร้าย หรือผู้ที่กระทำความผิดในทุกๆ กรณี แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะอยู่นอกประเทศ และกฏหมายไทยครอบคลุมไปไม่ถึง แต่ก็ไม่ควรที่บุคคลระดับหัวหน้าตำรวจของประเทศ จะไปเข้าพบหรืออวยพรวันเกิดให้กับผู้ที่หลบหนีคดี และปกติก็จะไม่มีข้าราชการระดับสูงในประเทศใดกระทำกัน
ส่วนกรณีที่มีการโอนย้าย ร.ท.ดวง อยู่บำรุง ผู้บังคับหมวดกองร้อยสารวัตรทหาร สารวัตรยุทธบริการทหาร ไปเป็นรองสารวัตรศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล นั้น จากการตรวจสอบเอกสารของคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พบว่า เป็นการดำเนินการระหว่างกระทรวงกลาโหม กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกต้องตามขั้นตอน แต่จะเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ทางคณะกรรมาธิการฯ คงไม่ไปกล่าวถึง และขอให้เป็นดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชาของทั้ง 2 ฝ่ายเอง พร้อมทั้งไม่เชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะไม่รู้เรื่องที่ลูกชายขอโอนย้ายสังกัดมาก่อนล่วงหน้า แต่เป็นเพียงแค่การปฎิเสธเพื่อเอาตัวรอดมากกว่า.
อีกด้านพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า เดินทางไปฮ่องกงจริง แต่ไปทำภารกิจทางราชการเท่านั้น ไม่ได้เข้าพบและอวยพรวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมาแต่อย่างใด เนื่องจาก ตนเดินทางไปเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม แต่วันเกิดของพ.ต.ท.ทักษิณ วันที่ 26 ก.ค.
เมื่อถามว่า ได้เข้าไปอวยพรวันเกิดล่วงหน้ากับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ที่ไปฮ่องกงก็ไปราชการไม่ได้เข้าอวยพรหรือแฮปปี้เบิร์ดแดย์อะไร ไม่ได้คุยกันรวมถึงความคิดบางอย่างของตนกับพ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ตรงกันและตนคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณเองก็คงไม่ชอบตนเช่นกัน
