“ศิริโชค” อ้างผลสอบ “อภิสิทธิ์” หนีทหาร ปี 42 แค่เบื้องต้น แถมไม่สมบูรณ์ ชู “ประยุทธ์” พูดไม่มีมูลชัดเจนแล้ว เตือน “กมล” ระวังหมิ่นศาล ขณะเจ้าตัวยันร้องเรียนหวังให้ “สุกำพล” ถอดยศ เรียกเงินเดือนคืน ยกคำพูด ผบ.ทบ.บ้าง ชี้ชัดผลสอบเหมือนของกลาโหม โอ่ สด.20 ข้อมูลใหม่พร้อมสอบเป็นเอกสารเท็จด้วยหรือไม่
วันนี้ (24 ก.ค.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวว่า เอกสารผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หนีการเกณฑ์ทหาร ของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงปี 2542 ว่า เอกสารดังกล่าวเป็นแค่การสอบสวนเบื้องต้น โดยพบว่ามีการอ้างอิงถึงแค่เอกสารจากโรงเรียนนายร้อย จปร.เท่านั้น ทั้งที่มีเอกสารยืนยันว่าที่ประชุมคณะกรรมการสอบสวนระบุให้ตรวจสอบข้อมูลจากหลายแห่ง เช่น สบ.ทบ. และกพ.ทบ. แต่พบว่าไม่สามารถนำเอกสารจากแหล่งดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาได้ อีกทั้งการสอบปากพยานเป็นเพียงแค่การตรวจสอบจากเจ้าหน้าเสมียนธุรการ และแม้จะมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงแต่ก็ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงเ พราะส่วนใหญ่คนที่เกี่ยวข้องเกษียณอายุราชการไปแล้ว ดังนั้น เอกสารดังกล่าวจึงถือว่าไม่สมบูรณ์ไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้ นอกจากนี้ จากการให้ปากคำของ พ.อ.สมโชค หนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนปี 2542 ได้ยอมรับระหว่างการไต่สวนว่าหากเห็นเอกสารใบผ่อนพันที่ลงนามโดย พ.ต.ไพโรจน์ แก้ววงศ์ และใบ สด.20 ผลการตรวจสอบก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้
“สิ่งที่ ผบ.ทบ.ออกมาพูดว่าการสอบสวนไม่มีมูล ถือว่าชัดเจนแล้ว แต่ที่กระทรวงกลาโหมไม่กล้าแถลงผลสอบสวนเพราะรู้ว่าเบื้องหลังที่แท้จริงเป็นอย่างไร อีกทั้งเอกสารใบผ่อนผันก็ไม่เคยปรากฏออกมาให้เห็นมาก่อน แต่กลับไปโผล่อยู่ในนิตยสารเรดพาวเวอร์เท่านั้น” นายศิริโชคกล่าว
นายศิริโชคยังกล่าวถึงกรณีนายกมล บันไดเพชร ระบุว่าเคยทำเรื่องร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในปี 53 ว่า ทาง ป.ป.ช.ได้มีหนังสือยืนยันมาว่าไม่มีความผิด ไม่สามารถถอดยศได้ อีกทั้งผู้ตรวจการแผ่นดินก็ออกมายืนยันแล้วว่าการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบไม่เกี่ยวกับการตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ แต่เป็นการยื่นตรวจสอบ รมว.กลาโหม ที่ไม่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ส่วนกรณีที่นายกมลท้าทายให้ชี้แจงผ่านสื่อทีวีนั้น ตนพร้อมที่จะชี้แจงกับทุกคน แต่ก็เป็นห่วงแทนนายกมลที่จะเอาข้อเท็จจริงที่อยู่ศาลออกมาพูดเพราะเข้าข่ายหมิ่นอำนาจศาลได้ ซึ่งทางทนายของนายอภิสิทธิ์กำลังพิจารณาว่าดำเนินคดีต่อนายกมลหรือไม่ แต่ถ้าไม่กลัวก็ขอให้ดำเนินการต่อไป
ด้าน นายกมลกล่าวว่า การร้องเรียนของตนไม่ได้ร้องเรียนเรื่องของนายอภิสิทธิ์ แต่ร้องให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ดำเนินการทางกฎหมาย โดยการถอดยศและเรียกเงินเดือนคืนจากนายอภิสิทธิ์ เพราะไม่มีสิทธิที่จะได้รับ พร้อมขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ออกมาบอกว่าเรื่องดังกล่าวจบไปแล้วตั้งแต่ปี 42 แล้ว ซึ่งผลการสืบสวนปี 42 ก็ชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์หนีทหาร และใช้เอกสารเท็จรับราชการจริง ซึ่งผลการสอบสวนของกลาโหมชุดปัจจุบันก็มีผลออกมาตรงกัน ซึ่งเอกสารที่ตนส่งมอบให้ พล.อ.อ.สุกำพลนั้นเป็นเอกสารของกระทรวงกลาโหมทั้งสิ้น แต่ พล.อ.ประยุทธ์อาจจะยังไม่ทราบเรื่องที่ตนส่งไปให้กระทรวงกลาโหม อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ควรจบได้แล้ว เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบของผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาเสนอให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการทางกฎหมายในการถอดยศนายอภิสิทธิ์ และเรียกเงินเดือนและผลประโยชน์ตอบแทนคืนเท่านั้น
นายกมลกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากจะตรวจสอบข้อมูลใหม่ก็มีเพียงเรื่องเดียว คือ ทะเบียนบัญชียกเว้นหรือผ่อนผันกรณีไปศึกษาต่างประเทศ หรือ สด.20 ที่ปรากฏชื่อนายอภิสิทธิ์นั้นเป็นเอกสารราชการหรือไม่ เพราะยังไม่มีการสอบสวนประเด็นนี้ในปี 2542 และไม่มีข้าราชการคนใดกล้ารับรอง เพราะไม่ใช่หนังสือรับรองการใช้สิทธิการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร หรือ สด.41 ซึ่งเอกสารดังกล่าวตนเพิ่งเคยเห็นตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจและปรากฏในเว็บไซต์อภิสิทธิ์เท่านั้น ดังนั้น ทางทหารจะตรวจสอบใหม่คงจะต้องตรวจสอบในเรื่องนี้ โดยตนจะเดินหน้าสอบสวนต่อไปทั้งนี้ หาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์นำเอกสาร สด.20 นำไปยืนยันต่อกระทรวงกลาโหมก็สามารถที่จะตรวจสอบพร้อมข้อเท็จจริงได้ว่าเป็นการให้เอกสารเท็จต่อทางราชการหรือไม่