ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- ในขณะที่วุฒิสภา เตรียมเลือกตั้งประธานวุฒิสภา คนใหม่ หลังจาก พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ต้องพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากถูกศาลพิพากษา จำคุก จากคดีการขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง ในช่วงที่เป็นประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. สรรหา ก็ได้เข้ายื่นคำร้องต่อ ศาลรัฐธรรมนูญให้สั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ว.สรรหา จำนวน 31 คน
โดยอ้างถึงการสรรหาส.ว. ไม่เป็นไปตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 113 เนื่องจาก นายมนตรี ศรีเอี่ยมสะอาด ผู้พิพากษาอาวุโส ที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการสรรหา ในขณะนั้นไม่ได้เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา
จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ ยกเลิกมติที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ที่มอบหมายให้ นายมนตรี ไปทำหน้าที่เป็นกรรมการสรรหา และสั่งยกเลิกผลการสรรหาส.ว. เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 54 เนื่องจาก มาจากการสรรหาขององค์ประกอบที่มิชอบ
รวมถึงให้สั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ว.สรรหา จำนวน 31 คน เนื่องจากได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภา ก่อนครบวาระ 3 ปี เพื่อเข้ารับการสรรหาในรอบใหม่ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินหนึ่งวาระ
**เกมของนายเรืองไกร ครั้งนี้ เป็นเกมที่ใครก็มองออกว่า ต้องการตัดเสียง ส.ว.สรรหา ในการโหวตหาประธานวุฒิสภาคนใหม่
เนื่องจากที่ผ่านมา อดีตประธานวุฒิสภา ทั้ง พล.อ.ธีรเดช มีเพียร และ นายประสพสุข บุญเดช ล้วนมาจาก ส.ว.สรรหา ส่วน ส.ว.เลือกตั้ง ได้เป็นแค่รองประธาน
เมื่อตำแหน่งประธานวุฒิสภาว่างลงในคราวนี้ ส.ว.สายเลือกตั้ง ต่างมุ่งหวังที่จะได้ประธานวุฒิสภา คนใหม่ที่ เป็นส.ว.เลือกตั้ง โดยมี นายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 เป็นตัวเต็ง
แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า บทบาท และท่าทีในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่ผ่านมาของนายนิคม เหมือนคนที่ยืนข้างรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
หากนายนิคม ได้เป็นประธานวุฒิสภา ซึ่งต้องเป็นรองประธานรัฐสภา ไปโดยอัตโนมัติ เมื่อไปทำงานร่วมกับ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ที่ชัดเจนว่าเป็นคนของพรรคเพื่อไทย
** การประชุมรัฐสภาหลังจากนี้ไปคงดูไม่จืด
จึงมีกระแสที่ต้องการให้ได้คนที่เป็นกลางทางการเมืองจริงๆ มาเป็นประธานวุฒิสภา โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นส.ว.สรรหา หรือ ส.ว.เลือกตั้ง แต่ไม่ใช่คนที่เป็นตัวเต็งในขณะนี้ ซึ่งเสียงของ ส.ว.สรรหา ก็เป็นเสียงที่เป็นกลุ่มก้อนพอที่จะชี้ขาดผลการเลือกตั้งได้
** รัฐบาลใช้ต้องใช้บริการ เรืองไกร ออกมาเตะตัดขา 31 ส.ว.สรรหา เพื่อหวังจะยึดกุมฝ่ายนิติบัญญัติ ให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
