ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า พรรคเพื่อไทยได้ให้คนไปจดแจ้งจัดตั้งพรรคทักษิณ เตรียมรองรับหากพรรคเพื่อไทยถูกยุบนั้น จากการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยังไม่พบว่ามีใครมาขอจดแจ้งจัดตั้งพรรคในนามพรรคทักษิณแต่อย่างใด ทั้งนี้ที่มีการขอมาขณะนี้และอยู่ระหว่างการพิจารณามีเพียง 2 พรรคประกอบด้วย พรรคเพื่อประชาธิปไตย และพรรคถิ่นกาขาวเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา
ส่วนความคืบหน้ากรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ว. สรรหา 3 ราย ประกอบด้วย นายศรีสุข รุ่งวิสัย ส.ว.สรรหา ที่กกต.มีมติให้ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ขอให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากพบว่า นายศรีสุขไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม ส.ส. นนทบุรี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2552 จึงเป็นเหตุให้ต้องสิ้นสุดความเป็น ส.ว.สรรหา ซึ่งกรณีของนายศรีสุข นี้ศาลฎีกาฯ ได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 3 กรกฏาคมนี้ และนัดอ่านคำพิพากษากรณีของนายสัก กอแสงเรือง ส.ว.สรรหา ในวันที่ 1 สิงหาคม ที่ กกต.มีมติให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากเห็นว่า นายสักได้พ้นจากตำแหน่งวุฒิสภายังไม่ถึง 5 ปี ณ วันที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 จึงเป็นเหตุให้ต้องสิ้นสุดความเป็น ส.ว.
ส่วนกรณีของนายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ ส.ว.สรรหา ที่ขาดคุณสมบัติด้วยเหตุเดียวกัน คือไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ปทุมธานี แทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2552 รวมทั้งไม่ได้แจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จึงทำให้ต้องสิ้นสุดความเป็น ส.ว.สรรหานั้น กรณีนี้ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำพิพากษาวันอังคารที่ 14 สิงหาคมนี้
ส่วนความคืบหน้ากรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ว. สรรหา 3 ราย ประกอบด้วย นายศรีสุข รุ่งวิสัย ส.ว.สรรหา ที่กกต.มีมติให้ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ขอให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากพบว่า นายศรีสุขไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม ส.ส. นนทบุรี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2552 จึงเป็นเหตุให้ต้องสิ้นสุดความเป็น ส.ว.สรรหา ซึ่งกรณีของนายศรีสุข นี้ศาลฎีกาฯ ได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 3 กรกฏาคมนี้ และนัดอ่านคำพิพากษากรณีของนายสัก กอแสงเรือง ส.ว.สรรหา ในวันที่ 1 สิงหาคม ที่ กกต.มีมติให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากเห็นว่า นายสักได้พ้นจากตำแหน่งวุฒิสภายังไม่ถึง 5 ปี ณ วันที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 จึงเป็นเหตุให้ต้องสิ้นสุดความเป็น ส.ว.
ส่วนกรณีของนายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ ส.ว.สรรหา ที่ขาดคุณสมบัติด้วยเหตุเดียวกัน คือไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ปทุมธานี แทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2552 รวมทั้งไม่ได้แจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จึงทำให้ต้องสิ้นสุดความเป็น ส.ว.สรรหานั้น กรณีนี้ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำพิพากษาวันอังคารที่ 14 สิงหาคมนี้