“เรืองไกร” แผนสูงยื่นร้องศาล รธน.ระงับการทำหน้าที่ 31 ส.ว.สรรหา พร้อมให้เรียกพยานหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการวินิจฉัย การสรรหา ส.ว.ไม่เป็นไปตาม รธน.ม.113
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ได้เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 กรณีคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 โดยขอให้ศาลมีมติยกเลิกมติที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาที่มอบหมายให้นายมนตรี ศรีเอี่ยมสะอาด ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลทำหน้าที่เป็นกรรมการสรรหา ซึ่งไม่ใช่หรือไม่ได้เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา ในขณะที่ได้รับหมายหมายให้มาเป็นกรรมการสรรหา ส.ว.และสั่งยกเลิกผลการสรรหา ส.ว. เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 54 ซึ่งมาจากการสรรหาขององค์ประกอบที่มิชอบ รวมถึงให้สั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ว.สรรหา จำนวน 31 คน เนื่องจากได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภาก่อนครบวาระ 3 ปี เพื่อเข้ารับการสรรหาในรอบใหม่ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญที่ห้ามดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินหนึ่งวาระ
นอกจากนี้ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ เรียกพยานหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาและวินิจฉัย ประกอบด้วย 1. หนังสือลาออกของ ส.ว.31 คน 2. รายงานการประชุมของคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ทุกครั้ง 3. รายงานการประชุมของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ครั้งที่มีมติเลือกนายมนตรี มาเป็นกรรมการสรรหา ส.ว. 4. รายงานการจ่ายเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของ ส.ว.31 คน ที่จ่ายเมื่อมีการลาออก และที่จ่ายเมื่อเข้ารับตำแหน่งใหม่ และ 5. บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ ส.ว.31 คนได้ยื่นต่อ ป.ป.ช.เมื่อพ้นจากตำแหน่ง และเมื่อเข้ารับตำแหน่งใหม่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร
ทั้งนี้ วุฒิสมาชิกกำลังเตรียมพิจารณาเลือกประธานวุฒสภา แทน พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ที่ต้องพ้นจากการเป็นประธานวุฒิสภา หลังถูกศาลตัดสินจำคุก แต่ให้รอลงอาญา โดยการเลือกประธานวุฒิสภาจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาล กับฝ่ายที่ต้องการให้ประธานวุฒิสภาวางตัวเป็นกลางทางการเมือง