ASTVผู้จัดการรายวัน-“ธงทอง”เมินสอบวินัยเอาผิด "สุพจน์” เผยมติ ป.ป.ช.ชี้แค่ร่ำรวยผิดปกติ และส่งอัยการยึดทรัพย์ กว่า 64 ล้านบาท ไม่มีเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ยันพร้อมสอบถ้าสั่งมา
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่กระทรวงคมนาคมได้ตั้งขึ้นตรวจสอบนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ว่านายสุพจน์ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ จำนวน 64,738,587.52 บาท และส่งเรื่องดังกล่าวให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินตาม พ.ร.บ. ป.ป.ช. มาตรา 80 นั้น ในส่วนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ การทำงานได้สิ้นสุดนานแล้ว และหลังจากนี้จะมีการดำเนินการต่ออย่างไรหรือไม่นั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม
"การจะสอบสวนทางวินัยนายสุพจน์ กระทรวงคมนาคมไม่สามารถทำได้ หากไม่มีมติจาก ป.ป.ช. ให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัย ซึ่งจากการตรวจสอบมติของ ป.ป.ช.ที่ออกมา มีเฉพาะเรื่องของทรัพย์สินที่มากผิดปกติ ไม่มีการกล่าวถึงเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่น จึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการสอบสวนวินัย แต่หาก ป.ป.ช.มีคำสั่งให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยต่อ คณะกรรมการฯ ก็พร้อมจะดำเนินการ"นายธงทองกล่าว
สำหรับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายธงทอง เป็นประธานนั้น ได้มีการออกแถลงการณ์การยุติการสอบสวนคดีดังกล่าวก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการเอาผิดทางวินัยได้ เนื่องจากไม่ทราบจำนวนเงินที่ชัดเจน รวมถึงไม่ทราบข้อมูลเงินที่คนร้ายปล้นนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายจริงหรือไม่ จึงไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปของเงินว่าส่อไปทางทุจริตได้
อย่างไรก็ตาม นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ยืนยันว่า แม้นายสุพจน์จะลาออกจากปลัดกระทรวงคมนาคมไปแล้ว แต่หากผลการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ระบุว่า นายสุพจน์มีการกระทำความผิดจริง สามารถเอาผิดได้เหมือนเดิม กรณีที่เอาผิดไม่ได้ คือ ผู้กระทำผิดเสียชีวิต ซึ่งนายสุพจน์ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากปลัดกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2555 และนายจารุพงศ์ ลงนามอนุมัติในวันที่ 21 พ.ค.2555 โดยนายสุพจน์ยังได้รับบำเหน็จบำนาญตามกฎหมาย
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่กระทรวงคมนาคมได้ตั้งขึ้นตรวจสอบนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ว่านายสุพจน์ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ จำนวน 64,738,587.52 บาท และส่งเรื่องดังกล่าวให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินตาม พ.ร.บ. ป.ป.ช. มาตรา 80 นั้น ในส่วนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ การทำงานได้สิ้นสุดนานแล้ว และหลังจากนี้จะมีการดำเนินการต่ออย่างไรหรือไม่นั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม
"การจะสอบสวนทางวินัยนายสุพจน์ กระทรวงคมนาคมไม่สามารถทำได้ หากไม่มีมติจาก ป.ป.ช. ให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัย ซึ่งจากการตรวจสอบมติของ ป.ป.ช.ที่ออกมา มีเฉพาะเรื่องของทรัพย์สินที่มากผิดปกติ ไม่มีการกล่าวถึงเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่น จึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการสอบสวนวินัย แต่หาก ป.ป.ช.มีคำสั่งให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยต่อ คณะกรรมการฯ ก็พร้อมจะดำเนินการ"นายธงทองกล่าว
สำหรับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายธงทอง เป็นประธานนั้น ได้มีการออกแถลงการณ์การยุติการสอบสวนคดีดังกล่าวก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการเอาผิดทางวินัยได้ เนื่องจากไม่ทราบจำนวนเงินที่ชัดเจน รวมถึงไม่ทราบข้อมูลเงินที่คนร้ายปล้นนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายจริงหรือไม่ จึงไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปของเงินว่าส่อไปทางทุจริตได้
อย่างไรก็ตาม นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ยืนยันว่า แม้นายสุพจน์จะลาออกจากปลัดกระทรวงคมนาคมไปแล้ว แต่หากผลการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ระบุว่า นายสุพจน์มีการกระทำความผิดจริง สามารถเอาผิดได้เหมือนเดิม กรณีที่เอาผิดไม่ได้ คือ ผู้กระทำผิดเสียชีวิต ซึ่งนายสุพจน์ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากปลัดกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2555 และนายจารุพงศ์ ลงนามอนุมัติในวันที่ 21 พ.ค.2555 โดยนายสุพจน์ยังได้รับบำเหน็จบำนาญตามกฎหมาย