**บทที่ว่าจะได้กลับบ้านอย่างเท่ๆ ของ “นช.แม้ว” ทักษิณ ชินวัตร ดูท่าจะห่างไกลความจริงออกไปทุกขณะ อะไรที่ว่าจะเป็นทางลัด ทางด่วน หรือบันไดลิง ที่หวังจะเอามาใช้ ก็ติดหล่ม ขลุกๆขลักๆ พาดไปไม่ถึงฝั่งฝันเสียที
ทั้งเกมแก้รัฐธรรมนูญที่เดินหน้า-ถอยหลัง ก็อาจจะ“หัวคะมำ” ทำให้จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนออกมา
ส่วน “ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง” ที่ค้างเติ่งอยู่ในวาระประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่แม้จะอยู่บนสุดในวาระเร่งด่วน ลำดับที่ 1 แบบที่เปิดประชุมวันไหน ต้องหยิบขึ้นมาคุยกันทันที แต่ก็ใช่ว่า จะผ่านไปง่าย ๆ
ที่สำคัญยังมี “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ที่ประกาศรอเคลื่อนทัพครั้งใหญ่ หากไม่มีความชัดเจนว่า จะถอน “ร่างกฎหมายอัปยศ” ออกจากวาระการประชุม ก่อนวันที่ 1 ส.ค.นี้ ที่เป็นวันเปิดสมัยประชุมรัฐสภา
**ทำให้ตอนนี้ดูเหมือนโอกาสจะย่ำเท้าเข้าประเทศของ “นักโทษชายแม้ว” ตีบตัน จนแทบเป็นศูนย์
ก็ได้แต่ซวนซัดซวนเซ พเนจรโฉบไปโฉบมา ละแวกประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดก็ไปตั้งฐาน กวักมือเรียกลิ่วล้อไปอวยพรเบิร์ธเดย์ ที่เกาะฮ่องกง หลังจากที่สัปดาห์ก่อน ไปปล่อยของโชว์วิสัยทัศน์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยยอมรับเสียงอ่อยๆ ว่า การปรองดองในประเทศไทย ต้องเริ่มที่ “นิรโทษกรรม”
ส่งสัญญาณกันตรงๆ ตามสเต็ป ขออยู่หัวแถวของขบวนการพ้นผิด โดยไม่ต้องรับโทษ
จังหวะเดียวกับที่มี “รายงานข่าว” ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่ออังคารที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีวาระการพิจารณา และเห็นชอบ พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ ปี 2555 เนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2555
จริงอยู่ เรื่องนี้เป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมาต่อเนื่องในทุกปี โดยเฉพาะ วโรกาสมหามงคล 80 พรรษาเช่นนี้ เพราะมักมีการขยายคุณสมบัติให้มีผู้ได้รับประโยชน์จากกฎหมายนี้ มากขึ้น แต่การประชุมวันนั้น ก็มีความน่าสนใจอยู่อย่างมาก
ประการแรก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี น้องสาวทักษิณ ไม่หาเรื่องชิ่งหนีเหมือนที่เคยทำมาก่อน เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา และที่น่าสนใจไปกว่านั้น ซึ่งทำให้กระจอกข่าวต้องประหลาดใจไปตามๆกัน เมื่อ “ข่าวดี” ในโอกาสมหามงคลเช่นนี้ กลับไม่ถูกนำมาแถลงข่าวผลการประชุมมติคณะรัฐมนตรี อย่างไม่น่าเชื่อ
**สาเหตุก็คงเป็นเพราะ เหตุลักไก่ที่ถูกจับได้ เมื่อปีกลายยังคงตามมาหลอกหลอน
ที่สำคัญความไม่ชัดเจนในเรื่อง “คุณสมบัติ” ของผู้ที่เข้าข่ายการได้รับพระราชทานอภัยโทษ ที่มีเพียงคณะรัฐมนตรีเท่านั้น ที่เห็นเนื้อหาใน ร่าง พ.ร.ฎ.ดังกล่าว กว่าที่สาธารณชนจะได้รับทราบก็จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการเท่านั้น
จึงไม่แปลกที่มีการ “ตั้งแง่” จับจ้องถึงคุณสมบัติที่ว่า เพราะหนที่แล้วก็พิสูจน์แล้วว่า รัฐบาลมีความพยายามดัดแปลง แก้ไข ให้ครอบคลุมมาถึงตัว “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ต้องโทษคดีอาญา 2 ปี จากคดีที่ดินรัชดา แต่อย่างน้อยนับถึงนาทีนี้ ก็ยังไม่มีรายงานว่า รัฐบาลจะมีลูกเล่นพิสดาร ตัดทอนเงื่อนไขบางส่วน เพื่อเอื้อให้แก่ “นายใหญ่” อย่างที่ห่วงกัน
**เพราะเชื่อได้ว่า ยังจำ “บทเรียน” ในหนก่อนได้เป็นอย่างดี ถือว่าปิดตายประตู “อภัยโทษ” ปิดหนทางกลับบ้านของ “นช.แม้ว”ไปอีกทาง
ทั้งเกมแก้รัฐธรรมนูญที่เดินหน้า-ถอยหลัง ก็อาจจะ“หัวคะมำ” ทำให้จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนออกมา
ส่วน “ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง” ที่ค้างเติ่งอยู่ในวาระประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่แม้จะอยู่บนสุดในวาระเร่งด่วน ลำดับที่ 1 แบบที่เปิดประชุมวันไหน ต้องหยิบขึ้นมาคุยกันทันที แต่ก็ใช่ว่า จะผ่านไปง่าย ๆ
ที่สำคัญยังมี “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ที่ประกาศรอเคลื่อนทัพครั้งใหญ่ หากไม่มีความชัดเจนว่า จะถอน “ร่างกฎหมายอัปยศ” ออกจากวาระการประชุม ก่อนวันที่ 1 ส.ค.นี้ ที่เป็นวันเปิดสมัยประชุมรัฐสภา
**ทำให้ตอนนี้ดูเหมือนโอกาสจะย่ำเท้าเข้าประเทศของ “นักโทษชายแม้ว” ตีบตัน จนแทบเป็นศูนย์
ก็ได้แต่ซวนซัดซวนเซ พเนจรโฉบไปโฉบมา ละแวกประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดก็ไปตั้งฐาน กวักมือเรียกลิ่วล้อไปอวยพรเบิร์ธเดย์ ที่เกาะฮ่องกง หลังจากที่สัปดาห์ก่อน ไปปล่อยของโชว์วิสัยทัศน์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยยอมรับเสียงอ่อยๆ ว่า การปรองดองในประเทศไทย ต้องเริ่มที่ “นิรโทษกรรม”
ส่งสัญญาณกันตรงๆ ตามสเต็ป ขออยู่หัวแถวของขบวนการพ้นผิด โดยไม่ต้องรับโทษ
จังหวะเดียวกับที่มี “รายงานข่าว” ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่ออังคารที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีวาระการพิจารณา และเห็นชอบ พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ ปี 2555 เนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2555
จริงอยู่ เรื่องนี้เป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมาต่อเนื่องในทุกปี โดยเฉพาะ วโรกาสมหามงคล 80 พรรษาเช่นนี้ เพราะมักมีการขยายคุณสมบัติให้มีผู้ได้รับประโยชน์จากกฎหมายนี้ มากขึ้น แต่การประชุมวันนั้น ก็มีความน่าสนใจอยู่อย่างมาก
ประการแรก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี น้องสาวทักษิณ ไม่หาเรื่องชิ่งหนีเหมือนที่เคยทำมาก่อน เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา และที่น่าสนใจไปกว่านั้น ซึ่งทำให้กระจอกข่าวต้องประหลาดใจไปตามๆกัน เมื่อ “ข่าวดี” ในโอกาสมหามงคลเช่นนี้ กลับไม่ถูกนำมาแถลงข่าวผลการประชุมมติคณะรัฐมนตรี อย่างไม่น่าเชื่อ
**สาเหตุก็คงเป็นเพราะ เหตุลักไก่ที่ถูกจับได้ เมื่อปีกลายยังคงตามมาหลอกหลอน
ที่สำคัญความไม่ชัดเจนในเรื่อง “คุณสมบัติ” ของผู้ที่เข้าข่ายการได้รับพระราชทานอภัยโทษ ที่มีเพียงคณะรัฐมนตรีเท่านั้น ที่เห็นเนื้อหาใน ร่าง พ.ร.ฎ.ดังกล่าว กว่าที่สาธารณชนจะได้รับทราบก็จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการเท่านั้น
จึงไม่แปลกที่มีการ “ตั้งแง่” จับจ้องถึงคุณสมบัติที่ว่า เพราะหนที่แล้วก็พิสูจน์แล้วว่า รัฐบาลมีความพยายามดัดแปลง แก้ไข ให้ครอบคลุมมาถึงตัว “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ต้องโทษคดีอาญา 2 ปี จากคดีที่ดินรัชดา แต่อย่างน้อยนับถึงนาทีนี้ ก็ยังไม่มีรายงานว่า รัฐบาลจะมีลูกเล่นพิสดาร ตัดทอนเงื่อนไขบางส่วน เพื่อเอื้อให้แก่ “นายใหญ่” อย่างที่ห่วงกัน
**เพราะเชื่อได้ว่า ยังจำ “บทเรียน” ในหนก่อนได้เป็นอย่างดี ถือว่าปิดตายประตู “อภัยโทษ” ปิดหนทางกลับบ้านของ “นช.แม้ว”ไปอีกทาง