**คลิปเสียง “สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” ประธานรัฐสภา ที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้เผยแพร่ อาจเรียกได้ว่าเป็น“สายฟ้าฟาด” กลางบัลลังก์ประธานรัฐสภา เลยก็ว่าได้
เพราะคลิปเสียงดังกล่าวได้เปลือยธาตุแท้คนชื่อ “สมศักดิ์”ว่าเป็นได้แค่ “สมุนนักโทษชาย” ไม่ควรจะดำรงตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ อีกต่อไป
การพลั้งปากคุยโวว่า ยุทธศาตร์ประเทศเดินตามตัวเองหมดแล้ว แสดงถึงวุฒิภาวะที่อ่อนด้อยยิ่งของ สมศกดิ์ เพราะจากคำพูดดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า เขาเชื่ออย่างจริงจังว่าการใส่เกียร์ถอย ทั้งในเรื่องการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เพื่อหักศาล และการชะลอเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองออกไป เป็นฝีมือของตัวเองนั้น
**ยิ่งตอกย้ำว่าคนอย่าง “สมศักดิ์” ก็คงเป็นอะไรที่สูงไปกว่าตำแหน่ง “ข้ารับใช้นักโทษ” ไม่ได้จริง ๆ
เพราะจากคำพูดของ สมศักดิ์ เองก็ชัดเจนว่า เหตุผลที่ทำให้ นักโทษติดดิสเบรก เพราะยังละโมภ หวงแหนอำนาจ รวมไปถึงห่วงใยน้องสาว ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าจะเข้าปิ้งด้วย หากยังดึงดันกระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญต่อไป ที่สำคัญคือ ถ้าเดินลุยกำแพงจนบัลลังก์แห่งอำนาจพังทลายลง ฝันที่จะใช้เงินมหาศาล 2 ล้านล้านบาท โดยไม่ต้องผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณ จะมีอันสลายตามไปด้วย
สู้อดเปรี้ยวไว้กินหวาน เป็นผีเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศไปอีกหน่อย ก็คงไม่ตาย แถมยังมีหนทางสวาปามปล้นเงินชาติได้มากกว่า 4.6 หมื่นล้าน ที่ตั้งธงเอาไว้จากผลของพ.ร.บ.ปรองดองเสียอีก
**น่าสังเวชที่ สมศักดิ์ เชื่อเป็นตุเป็นตะว่า ตัวเองเกลี้ยกล่อมนักโทษได้สำเร็จ ภูมิใจกับการตบตาสังคม หลอกลวงประชาชน แถมหลุดคำพูดแสดงถึงอาการลุแก่อำนาจเตรียมกระทืบฝ่ายตรงข้ามเสียด้วย
“สิ่งที่จะเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้ มีแต่พวกเราเท่านั้นที่โชคดีได้ยิน ได้ฟัง ส.ส.ก็ไม่มีใครได้รู้สักคน ผมพูดกับคนทางไกลมากที่สุด ในเมื่อจะขอไม่เห็นด้วยกับเรื่องวาระ 3 คนทางไกลไม่ฟังฮะ ไม่ด่าแต่ไม่ฟัง ผมเลยพูดว่า ท่านครับ ตั้งแต่รู้จักกันมา วิเคราะห์การเมืองมาหลายเรื่อง มีเรื่องไหนบ้างที่ไม่เป็นแบบที่ผมพูด และผมยังพูดต่อไปอีก บอกว่าแม้แต่เรื่องหลังสุด คือ พ.ร.บ.ปรองดอง ผมค้านตั้งแต่นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้าย ว่าไม่ต้องเร่งรีบเอาเข้าไป ก็ไม่เชื่อผม แล้วเป็นยังไง พอพูดอย่างนี้ นิ่งเลยครับ ยอมฟังครับ แต่ระหว่างที่อธิบายนี่ครับ ก็พยายามบ่ายเบี่ยงจะไม่ฟัง พอพูดจบแล้วเนี่ยะครับ ท่านรู้สึกเฉยๆ และหมัดสุดท้ายหมัดน็อกที่ฟังผมแล้วนิ่งเลย คืออะไรรู้ไหมครับ
ผมบอกว่า ทางการเมืองพรรคเพื่อไทยเดินทางถูกต้องมาโดยตลอด ยุทธศาสตร์การเมืองเขาจะไม่เอาขุนมาเล่น ถ้าไม่จำเป็น หมายถึงตัวนายกฯ เขาไม่เอามาเสี่ยง ถ้าไม่จำเป็น ซึ่งที่ผานมา ก็เดินถูกต้องมาโดยตลอด ทุกเรื่องนายกฯก็บอกให้เป็นเรื่องของสภา รัฐธรรมนูญเรื่องของสภา ปรองดองเรื่องของสภา วาระ 3 เรื่องของสภา นายกฯทำถูกต้องมาโดยตลอด แล้ว เอาเผือกร้อนมาให้ผมอุ้มไว้ มันก็ถูกต้องแล้ว แต่วันนี้คิดยังไง จะมาแย่งเผือกร้อนจากมือผมไป คิดยังไง แล้วก็บอกว่า งั้นหารือพวกเราดู ผมโทรหาคุณแดง เยาวภา ก่อนหน้านั้นผมคุยกับ นายกฯสมชาย ผมคุยจนสุดท้ายเห็นด้วยกับผม แล้วหลังจากนั้นอีกชั่วโมง สองชั่วโมง นายกฯสมชายโทรมาหาผมอีกที บอกว่าวันพรุ่งนี้ เวลาสิบโมงครึ่ง จะประชุมร่วมกรรมการยุทธศาสตร์ ท่านทักษิณ จะสไกป์มา ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้นสิบโมงครึ่ง ในที่ประชุมบรรยากาศคนละเรื่องกับเมื่อวาน เมื่อวานผมโดนรุมกินโต๊ะเลย แต่วันนี้ผมไม่ได้พูดอะไรเลย ปรากฏว่า คนทางไกลพูดแทนผมหมดเลย เอาเหตุผลที่ผมล้มล้างความคิดของท่านนั่นแหละ เอาเหตุผลตรงนั้นมาลบล้างกรรมการยุทธศาสตร์ ของพรรคทั้งหมด
ณ นาทีนั้น ก่อนที่จะลงวาระ 3 หรือไม่ลง 3 วัน ตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงวันนี้ยุทธศาสตร์การเมืองประเทศไทย เดินตามผมหมดเลยครับ ภาระหน้าที่ต่อไปคืออะไรครับ ไม่เห็นด้วย ที่จะเอา พ.ร.บ.ปรองดอง มาพิจารณาในสภา หัวใจของพรรคเพื่อไทยท่องไว้เลย ผมพูดเป็นหมื่นที เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง ผมก็พูดไปหมื่นที ผมบอกไปว่า ทนลำบากมาตั้ง 5 ปี แล้วจะลำบากต่ออีก 3 เดือน 6 เดือน มันจะเป็นอะไร เพราะฉะนั้นถอนเรื่องนี้ เปิดสภา 1 สิงหาฯ ถอน พ.ร.บ.ปรองดองออกไป แล้วไปเสวนาหาทางออก คืนทุกตารางนิ้วทั่วประเทศไทย แล้วพร้อมตะโกนความจริงวันนี้ แล้วประชาชนทั้งประเทศ จะเป็นเกราะคุ้มกันให้เรา ใช้ 3 เดือน 6 เดือน ถึงเวลานั้นเอา พ.ร.บ.ปรองดองกลับเข้ามา สรุปแล้วครับ ทนลำบากมา 5 ปีแล้ว ลำบากต่ออีกสัก 6 เดือนจะเป็นอะไร ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเอาขุนมาเสี่ยง ถ้าจำเป็น ต้องเป็น ให้ฝ่ายเขาเป็นคนประกาศสงคราม เราอย่าไปประกาศสงคราม เรารักษาอำนาจรัฐไว้ บริหารรัฐ อำนาจอยู่ในมือ แล้วไปกระทืบๆ ๆ สุดท้าย เกลี้ยงครับ"
**คลิปเสียงความยาวราว 5 นาทีนี้ ไม่เพียงมัดว่า สมศักดิ์ เป็นข้ารับใช้นักโทษชาย แต่ยังจับ ยิ่งลักษณ์? ชินวัตร แก้ผ้าล่อนจ้อนต่อสาธารณะ ด้วยว่า ลมปากที่พูดผ่านสื่อว่า เคารพสภา เรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภา เรื่องปรองดองเป็นเรื่องของสภา ทุกเรื่องเป็นเรื่องของสภา ก็เป็นเพียงกลยุทธของ “ดาวดับ” ที่มีผลงานการทำหน้าที่ ส.ส.ติดอันดับยอดแย่ในสภาเท่านั้น
แถมยังเป็นนายกฯ ที่ไร้ความคิดทำงานตามออเดอร์พี่ชายเพียงอย่างเดียว แต่ถ้ามีคนไปถามเธอเรื่องนี้ อาจได้คำตอบว่า “อย่าได้แคร์”
**เพราะกำลังเขินอายกับกรณีที่ได้รับการยกย่องจาก ดร.เลิฟ แห่งนิตยสาร FHM ให้ขึ้นชั้น เซ็กซี่อันดับ 1 ชนะแม้กระทั่ง ผีอีแพง จะไม่ให้ภูมิใจยังไงไหว
เพราะคลิปเสียงดังกล่าวได้เปลือยธาตุแท้คนชื่อ “สมศักดิ์”ว่าเป็นได้แค่ “สมุนนักโทษชาย” ไม่ควรจะดำรงตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ อีกต่อไป
การพลั้งปากคุยโวว่า ยุทธศาตร์ประเทศเดินตามตัวเองหมดแล้ว แสดงถึงวุฒิภาวะที่อ่อนด้อยยิ่งของ สมศกดิ์ เพราะจากคำพูดดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า เขาเชื่ออย่างจริงจังว่าการใส่เกียร์ถอย ทั้งในเรื่องการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เพื่อหักศาล และการชะลอเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองออกไป เป็นฝีมือของตัวเองนั้น
**ยิ่งตอกย้ำว่าคนอย่าง “สมศักดิ์” ก็คงเป็นอะไรที่สูงไปกว่าตำแหน่ง “ข้ารับใช้นักโทษ” ไม่ได้จริง ๆ
เพราะจากคำพูดของ สมศักดิ์ เองก็ชัดเจนว่า เหตุผลที่ทำให้ นักโทษติดดิสเบรก เพราะยังละโมภ หวงแหนอำนาจ รวมไปถึงห่วงใยน้องสาว ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าจะเข้าปิ้งด้วย หากยังดึงดันกระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญต่อไป ที่สำคัญคือ ถ้าเดินลุยกำแพงจนบัลลังก์แห่งอำนาจพังทลายลง ฝันที่จะใช้เงินมหาศาล 2 ล้านล้านบาท โดยไม่ต้องผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณ จะมีอันสลายตามไปด้วย
สู้อดเปรี้ยวไว้กินหวาน เป็นผีเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศไปอีกหน่อย ก็คงไม่ตาย แถมยังมีหนทางสวาปามปล้นเงินชาติได้มากกว่า 4.6 หมื่นล้าน ที่ตั้งธงเอาไว้จากผลของพ.ร.บ.ปรองดองเสียอีก
**น่าสังเวชที่ สมศักดิ์ เชื่อเป็นตุเป็นตะว่า ตัวเองเกลี้ยกล่อมนักโทษได้สำเร็จ ภูมิใจกับการตบตาสังคม หลอกลวงประชาชน แถมหลุดคำพูดแสดงถึงอาการลุแก่อำนาจเตรียมกระทืบฝ่ายตรงข้ามเสียด้วย
“สิ่งที่จะเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้ มีแต่พวกเราเท่านั้นที่โชคดีได้ยิน ได้ฟัง ส.ส.ก็ไม่มีใครได้รู้สักคน ผมพูดกับคนทางไกลมากที่สุด ในเมื่อจะขอไม่เห็นด้วยกับเรื่องวาระ 3 คนทางไกลไม่ฟังฮะ ไม่ด่าแต่ไม่ฟัง ผมเลยพูดว่า ท่านครับ ตั้งแต่รู้จักกันมา วิเคราะห์การเมืองมาหลายเรื่อง มีเรื่องไหนบ้างที่ไม่เป็นแบบที่ผมพูด และผมยังพูดต่อไปอีก บอกว่าแม้แต่เรื่องหลังสุด คือ พ.ร.บ.ปรองดอง ผมค้านตั้งแต่นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้าย ว่าไม่ต้องเร่งรีบเอาเข้าไป ก็ไม่เชื่อผม แล้วเป็นยังไง พอพูดอย่างนี้ นิ่งเลยครับ ยอมฟังครับ แต่ระหว่างที่อธิบายนี่ครับ ก็พยายามบ่ายเบี่ยงจะไม่ฟัง พอพูดจบแล้วเนี่ยะครับ ท่านรู้สึกเฉยๆ และหมัดสุดท้ายหมัดน็อกที่ฟังผมแล้วนิ่งเลย คืออะไรรู้ไหมครับ
ผมบอกว่า ทางการเมืองพรรคเพื่อไทยเดินทางถูกต้องมาโดยตลอด ยุทธศาสตร์การเมืองเขาจะไม่เอาขุนมาเล่น ถ้าไม่จำเป็น หมายถึงตัวนายกฯ เขาไม่เอามาเสี่ยง ถ้าไม่จำเป็น ซึ่งที่ผานมา ก็เดินถูกต้องมาโดยตลอด ทุกเรื่องนายกฯก็บอกให้เป็นเรื่องของสภา รัฐธรรมนูญเรื่องของสภา ปรองดองเรื่องของสภา วาระ 3 เรื่องของสภา นายกฯทำถูกต้องมาโดยตลอด แล้ว เอาเผือกร้อนมาให้ผมอุ้มไว้ มันก็ถูกต้องแล้ว แต่วันนี้คิดยังไง จะมาแย่งเผือกร้อนจากมือผมไป คิดยังไง แล้วก็บอกว่า งั้นหารือพวกเราดู ผมโทรหาคุณแดง เยาวภา ก่อนหน้านั้นผมคุยกับ นายกฯสมชาย ผมคุยจนสุดท้ายเห็นด้วยกับผม แล้วหลังจากนั้นอีกชั่วโมง สองชั่วโมง นายกฯสมชายโทรมาหาผมอีกที บอกว่าวันพรุ่งนี้ เวลาสิบโมงครึ่ง จะประชุมร่วมกรรมการยุทธศาสตร์ ท่านทักษิณ จะสไกป์มา ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้นสิบโมงครึ่ง ในที่ประชุมบรรยากาศคนละเรื่องกับเมื่อวาน เมื่อวานผมโดนรุมกินโต๊ะเลย แต่วันนี้ผมไม่ได้พูดอะไรเลย ปรากฏว่า คนทางไกลพูดแทนผมหมดเลย เอาเหตุผลที่ผมล้มล้างความคิดของท่านนั่นแหละ เอาเหตุผลตรงนั้นมาลบล้างกรรมการยุทธศาสตร์ ของพรรคทั้งหมด
ณ นาทีนั้น ก่อนที่จะลงวาระ 3 หรือไม่ลง 3 วัน ตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงวันนี้ยุทธศาสตร์การเมืองประเทศไทย เดินตามผมหมดเลยครับ ภาระหน้าที่ต่อไปคืออะไรครับ ไม่เห็นด้วย ที่จะเอา พ.ร.บ.ปรองดอง มาพิจารณาในสภา หัวใจของพรรคเพื่อไทยท่องไว้เลย ผมพูดเป็นหมื่นที เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง ผมก็พูดไปหมื่นที ผมบอกไปว่า ทนลำบากมาตั้ง 5 ปี แล้วจะลำบากต่ออีก 3 เดือน 6 เดือน มันจะเป็นอะไร เพราะฉะนั้นถอนเรื่องนี้ เปิดสภา 1 สิงหาฯ ถอน พ.ร.บ.ปรองดองออกไป แล้วไปเสวนาหาทางออก คืนทุกตารางนิ้วทั่วประเทศไทย แล้วพร้อมตะโกนความจริงวันนี้ แล้วประชาชนทั้งประเทศ จะเป็นเกราะคุ้มกันให้เรา ใช้ 3 เดือน 6 เดือน ถึงเวลานั้นเอา พ.ร.บ.ปรองดองกลับเข้ามา สรุปแล้วครับ ทนลำบากมา 5 ปีแล้ว ลำบากต่ออีกสัก 6 เดือนจะเป็นอะไร ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเอาขุนมาเสี่ยง ถ้าจำเป็น ต้องเป็น ให้ฝ่ายเขาเป็นคนประกาศสงคราม เราอย่าไปประกาศสงคราม เรารักษาอำนาจรัฐไว้ บริหารรัฐ อำนาจอยู่ในมือ แล้วไปกระทืบๆ ๆ สุดท้าย เกลี้ยงครับ"
**คลิปเสียงความยาวราว 5 นาทีนี้ ไม่เพียงมัดว่า สมศักดิ์ เป็นข้ารับใช้นักโทษชาย แต่ยังจับ ยิ่งลักษณ์? ชินวัตร แก้ผ้าล่อนจ้อนต่อสาธารณะ ด้วยว่า ลมปากที่พูดผ่านสื่อว่า เคารพสภา เรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภา เรื่องปรองดองเป็นเรื่องของสภา ทุกเรื่องเป็นเรื่องของสภา ก็เป็นเพียงกลยุทธของ “ดาวดับ” ที่มีผลงานการทำหน้าที่ ส.ส.ติดอันดับยอดแย่ในสภาเท่านั้น
แถมยังเป็นนายกฯ ที่ไร้ความคิดทำงานตามออเดอร์พี่ชายเพียงอย่างเดียว แต่ถ้ามีคนไปถามเธอเรื่องนี้ อาจได้คำตอบว่า “อย่าได้แคร์”
**เพราะกำลังเขินอายกับกรณีที่ได้รับการยกย่องจาก ดร.เลิฟ แห่งนิตยสาร FHM ให้ขึ้นชั้น เซ็กซี่อันดับ 1 ชนะแม้กระทั่ง ผีอีแพง จะไม่ให้ภูมิใจยังไงไหว