xs
xsm
sm
md
lg

เปิดคำต่อคำ “ค้อนปลอม” ทาส “แม้ว” ผู้กุมอำนาจตัวจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คำต่อคำ “สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” มัดคอตัวเอง “ทักษิณ” รวบอำนาจสั่งรัฐสภาได้ โอ่เป็นฮีโร่เดินเกมการเมืองในสภา-นอกสภา กล่อม “ทักษิณ” อยู่หมัดให้ถอยทั้ง รธน.และ พ.ร.บ.ปรองดอง แขวะบ้าน 111 โชว์เพาฯ หวังตำแหน่งรัฐมนตรี เผยวาระซ่อนเร้นยอมถอนเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองหวังแค่ซื้อเวลา 3-6 เดือน ก่อนใช้สื่อของรัฐประโคมกระแสให้คนหนุน เผยหัวใจสำคัญของพรรคเพื่อไทย คือ การบริหารชัยชนะให้ยั่งยืน รักษาอำนาจรัฐเอาไว้

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา รายการสายล่อฟ้าที่ออกอากาศผ่านทีวีดาวเทียมช่องบลูสกายแชนแนล ดำเนินรายการโดย นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำคลิปเสียงของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวในงานวันเกิดเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 55 ที่ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ฉบับเต็มมีความยาว 24.40 นาที มาออกอากาศซ้ำโดยละเอียด เนื้อหาดังนี้

“สิ่งที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ มีแต่พวกเราเท่านั้นที่โชคดีได้ยินได้ฟัง ส.ส.ก็ไม่มีใครรู้สักคน ผมพูดกับคนทางไกล ในเมื่อจะขอไม่เห็นด้วยกับเรื่องวาระ 3 ทางไกลไม่ฟังครับ ไม่ด่าแต่ไม่ฟัง ผมเลยพูดว่า ท่านครับ ตั้งแต่รู้จักกันมาตั้งแต่ไทยรักไทย จนถึงพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย ถกวิเคราะห์การเมืองกันหลายเรื่อง มีเรื่องไหนบ้างที่ไม่เป็นอย่างที่ผมพูด คำพูดคำนี้คนอื่นพูดไม่ได้นะครับ แต่บังเอิญผมพูดได้เพราะทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง คนทางไกลไม่เคยเอากับผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่สุดท้ายมันก็เป็นอย่างที่ผมพูด แล้วสุดท้ายก็กลับมาเอากับผม ช้าบ้างไม่ช้าบ้าง ทุกเรื่อง ผมพูดตรงนี้เพื่อกระตุ้นความคิด ความรู้สึก กระตุ้นให้รู้สึกว่าที่ผ่านมามันเป็นอย่างนี้จริงๆ”

“แล้วผมยังพูดต่อไปอีกว่า แม้แต่เรื่องหลังสุด คือ พ.ร.บ.ปรองดอง ผมค้านตั้งแต่นาทีแรกถึงนาทีสุดท้าย ว่าไม่ต้องเร่งรีบเอาเข้าไป แล้วก็ไม่เชื่อ ผลเป็นอย่างไร? พอพูดอย่างนี้นิ่งเลยครับ ยอมฟังครับ ผมอธิบายเหตุผลให้ฟัง แต่ระหว่างอธิบาย ก็พยามยามบ่ายเบี่ยงจะไม่ฟัง จนผมต้องใช้คำพูดว่าท่านครับ กรุณาฟังเถิดครับ ไหนๆ ก็ฟังผมแล้ว ก็ฟังให้จบก่อนเถิดครับ จบแล้วท่านจะใช้ดุลพินิจอย่างไร พิจารณาอย่างไร ก็แล้วแต่ ผมใช้คำพูดคำนี้ 50 ครั้ง กว่าผมจะได้พูดจบ พอพูดจบแล้ว ก็รู้สึกเฉยๆ”

“แล้วหมัดสุดท้าย หมัดน็อก ที่ฟังผมแล้วนิ่งเลยคืออะไรรู้ไหมครับ ทางการเมืองพรรคเพื่อไทยเดินทางมาถูกต้องโดยตลอด ยุทธศาสตร์การเมืองเขาจะไม่เอาขุนออกมาเล่น ถ้าไม่จำเป็น หมายถึงตัวนายก เขาจะไม่เอามาเสี่ยงถ้าไม่จำเป็น ที่ผ่านมาก็เดินถูกต้องมาตลอด ทุกเรื่องนายกให้สัมภาษณ์ว่าเป็นเรื่องของสภา รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภา ปรองดองเป็นเรื่องของสภา วาระ 3 เป็นเรื่องของสภา นายกฯ ทำถูกต้องมาตลอดแล้ว เอาเผือกร้อนมาให้ผมอุ้มไว้ แต่วันนี้เป็นอย่างไรจะมาแย่งเผือกร้อนไปจากมือผมไป...”

“นายกฯ พร้อมแล้วหรือ ทันทีที่ลงวาระ 3 ประธานรัฐสภาต้องส่งเรื่อง รัฐธรรมนูญให้นายกนำขึ้นทูลเกล้าภายใน 20 วัน แค่ผมลงวาระ 3 วันนี้ พรุ่งนี้พวกหมอตุลย์ก็เต็มทำเนียบแล้ว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นรู้ไหมครับ นายกฯ ก็จะอยู่ในสภาพที่ผมเป็นอยู่ในตอนนี้ เดินหน้าก็ผิด ถอยหลังก็ผิด อยู่เฉยๆ ก็ผิด ม็อบมันเล่นแน่นอนไม่ต้องห่วง แล้วมันจะอ้างตรงที่ละเมิดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญลงวาระ 3 ถือว่าเป็นโมฆะ รัฐธรรมนูญเป็นโมฆะ นายกฯ ต้องถอนเรื่องรัฐธรรมนูญออกไป ถ้านำขึ้นทูลเกล้าฯ ถือว่าเป็นเรื่องรบกวนพระยุคคลบาท หาว่าไม่จงรักภักดี เจออย่างนี้จะทำอย่างไร”

“ถอดเรื่องออกไปก็ถือว่าผิดนะครับ รธน.บอกว่าให้เดินหน้าไม่เกิน 20 วัน ผมถึงถามไปว่าคิดอย่างไรถึงมาแย่งเผือกร้อนไปจากมือผมไป ปลายสายเงียบกริบ แล้วถึงบอกว่างั้นหารือพวกเราดู ผมโทรหาคุณแดงเยาวภา ก่อนหน้านั้นผมคุยกับนายกสมชาย ผมคุยกับนายกสมชายจนสุดท้ายเห็นด้วยกับผม แล้วบอกว่าท่านนายกต้องช่วยผมพูดนะ ท่านสมชายพูดกับผมว่าไงครับ ท่านประธานผมเป็นโรคแพ้ทักษิณ ผมพูดไปประโยคเดียวก็พูดอะไรไม่ได้แล้ว สรุปแล้วท่านประธานนั้นแหละพูดดีแล้ว ผมกระหยิ่มใจนึกว่ามีพวกแล้ว สุดท้ายคิดในใจว่าสุดท้ายก็กูอีกใช่ไหม”

“ก็เลยยกหูหาคุณแดงเยาวภา พี่แดง พรุ่งนี้ของนัดหน่อย คุยเรื่องนี้ ผมจึงเล่ารายละเอียดให้ฟัง มีเหตุผลหลายข้อที่ผมไม่เห็นด้วยที่จะให้เร่งลงวาระ 3 แต่เหตุผลทั้งหมดผมไว้พูดพรุ่งนี้ แล้วผมก็อธิบายเหมือนที่อธิบายให้พวกเราได้ฟัง แค่นั้นละครับ พอรุ่งขึ้นผมก็ไปพบ มีนายกสมชาย คุณแดงเยาวภา คุณแดงเยาวภาพูดกับผมว่าไงรู้ไหมครับ ท่านประธาน เมื่อคืนคุยกับท่านประธานเสร็จแล้ว แดงนอนไม่หลับ ไม่รู้จะทำอย่างไร คิดไปคิดมา นอนไม่หลับ เลยคิดได้ว่าเออ ลองปรึกษาเจ้าตัวเค้าสิ ก็เลยตัดสินใจโทรศัพท์หานายกแล้วก็เล่าให้นายกฟังอย่างที่ท่านประธานเล่าให้แดงฟังเมื่อคืน ท่านนายกฟังแล้วเห็นด้วยกับท่านประธาน เปลี่ยนใจไม่เอาเผือกร้อนไปจากมือผมแล้ว”

“สรุปแล้วยังไม่พูดอะไรเลยครับ เอาด้วยแล้ว นายกฯ สมชายเอาด้วยแล้ว คุณแดงเยาวภาเอาด้วยแล้ว นายกฯ ปูเอาด้วยแล้ว ตกลงว่าไงที่ผมคุยเมื่อคืน โทรศัพท์ติดต่อคุยกันให้ผมเคลียร์ สรุป เอาด้วย ทั้งหมดนายกฯ เอาด้วยกับผมหมดเลย เสร็จแล้วขอร้องให้ผม พรุ่งนี้ไปประชุมร่วมกับกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค หมายถึงให้ผมไปทำความเข้าใจ ว่างั้น”

“โดยนายกฯ สมชายเรียกประชุม นายกสมชายนั่งหัวโต๊ะ เสร็จแล้วกรรมการยุทธศาสตร์บิ๊กๆ ทั้งนั้น โภคิน วันนอร์ แล้วก็อะไรนะ ชาลีเครือ แล้วก็มีจาตุรนต์ ภูมิธรรม นพดล ปัทมะ บิ๊กๆ ทั้งนั้น รวมทั้ง อ.ชูศักดิ์ เสร็จแล้วในที่ประชุมปรากฏว่า โดนรุมกินโต๊ะครับ โภคินพูดจบผมเห็นแย้ง วันนอร์พูดจบผมเห็นแย้ง จาตุรนต์พูดจบผมเห็นแย้ง ภูมิธรรมพูดจบผมเห็นแย้ง สภาพอยู่อย่างนี้ครับ”

“พอพูดจบ นายกฯ สมชายมากระซิบบอก ผมฟังแล้วผมก็เห็นด้วยกับท่านประธานเหมือนเดิม แล้วก็หันมาพูดกับที่ประชุมสรุปอย่างนี้นะครับ จะนำความเห็นทั้งหมดเสนอทางไกล ทางไกลตัดสินใจอย่างไรเราก็ว่าตามนั้นนะครับ ปรากฏว่านายกฯ สมชายไม่กล้าสรุปเพราะโดนกินเยอะเหลือเกิน ก็เลยจะนำเสนอ”

“แล้วปรากฏว่าเย็นวันนั้น นายกฯ สมชายโทร.กลับมาหาผมอีก บอกผมว่าอย่างนี้ครับ บอกว่าท่านทักษิณบอกผมว่าที่ประชุมกรรมการยุทธศาสตร์เห็นอย่างไรให้นำเสนอท่านประธานสมศักดิ์ ถ้าท่านประธานสมศักดิ์เห็นด้วย ก็เอาเลย แต่ถ้าท่านประธานสมศักดิ์ไม่เห็นด้วย ให้เอาตามท่านประธานสมศักดิ์ พรรคเพื่อไทย 111 กำลังจะโชว์เพาฯ อยากเป็นรัฐมนตรี กำลังจะโชว์เพาฯ ปรากฏว่านกกระจอกยังไม่ทันจะกินน้ำ โดนน็อคหมดเลยทั้งเข่ง”

“แล้วหลังจากนั้นอีก 1-2 ชั่วโมง นายกฯ สมชายโทร.มาอีกที ท่านพรุ่งนี้ว่างมั้ย 10.30 น. อยากประชุมร่วมกรรมการยุทธศาสตร์ ท่านทักษิณจะสไกป์มา ไม่สบายใจอยากพูดเอง ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น 10.30 น.ในที่ประชุมบรรยากาศคนละเรื่องกับบรรยากาศเมื่อวาน เมื่อวานผมโดนรุมกินโต๊ะ แต่วันนี้ผมไม่ได้พูดอะไรเลย ปรากฏว่าคนทางไกลพูดแทนผมหมดเลย เอาเหตุผลที่ผมล้มล้างความคิดของท่านนั้นแหละ เอาเหตุผลมาล้มล้างกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคทั้งหมด หลังจากนั้นหงอกันหมดเลย เหลือจาตุรนต์คนเดียว จาตุรนต์คนเดียวยังไม่เห็นด้วย ยังเห็นว่าต้องรีบลงวาระ 3 แต่พวกขุนศึกทั้งหลายเงียบ”

“แล้วยังไม่จบนะครับ วันรุ่งขึ้นกรรมการยุทธศาสตร์ประชุมกันอีกรอบหนึ่ง แล้วมีมติบอกว่าวาระ 3 ไม่ลงก็ไม่ลง แต่สมัยประชุมอย่าเพิ่งปิด ง้างเอาไว้ก่อน ปรากฏว่าคนทางไกลเห็นด้วย แต่นายกปูไม่เห็นด้วย พี่น้องเห็นต่าง คนสนิทโทร.มารายงานผม บอกว่าให้พี่น้องเขาคุยกัน ได้ผลอย่างไร เดี่ยวผมจะรายงานท่านประธานอีกที พูดยังไม่จบครับ เสียงโทรศัพท์เรียกซ้อนเข้ามา พอวางสายจากตรงนั้นมาดู ทางไกลโทร.มา ผมรับสายต่อเลย น้องปรึกษาหน่อยสิ มันมีคนเสนอว่าวาระ 3 ยังไม่ต้องลง แต่สมัยประชุมอย่างเพิ่งปิดง้างเอาไว้ก่อน น้องเห็นว่าอย่างไร”

“ผมตอบว่าไงรู้มั้ยครับ ผมตอบว่าหัวหน้าครับ ปกติเรื่องที่จะต้องหารือกัน ตัดสินใจแล้วต้องมีส่วนได้ส่วนเสีย มันถึงต้องหารือกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ทำแล้วไม่มีได้เลย มีแต่เสียมันไม่จำเป็นต้องหารือเลยนะครับ อย่างกรณีเรื่องนี้ง้างไว้ก่อน ผมเห็นว่าง้างแล้วจะได้อะไร ไม่ได้อะไรสักอย่างเลยนะครับ ศาลรัฐธรรมนูญมันก็เล่นเราได้เหมือนเดิมทุกประการ ไม่เห็นมีส่วนได้เลยแม้แต่อย่างเดียว มีแต่เสียครับ จะไปคุยกับเขาไม่ใช่เหรอ แล้วถ้าง้างเอาไว้จะไปคุยกับเขาได้อย่างไร เขาก็ระแวงสิ มันจะเป็นผลเสียของเราเอง คุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ”

“....อ๋อ เอาแบบดาวพระศุกร์ใช่ไหม ครับ มันเห็นตรงกันตามนี้นะ เดี๋ยวผมโทรคุยกับพวกเขา กลายเป็นศิราณีไปแล้วครับ เห็นไหมครับ ณ นาทีนั้น ก่อนที่จะลงวาระ 3 หรือไม่ลง 3 วันครับ ตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงวันนี้ ยุทธศาสตร์การเมืองของประเทศไทยเดินตามผมหมดเลยครับ แล้วจะไม่ให้ภูมิใจได้ยังไงล่ะครับ ที่หนึ่งเดียวคนนี้สามารถควบคุมเกมในสภา สามารถกำหนดทิศทางการเมืองในสภา ใช้ความนิ่งสยบการเคลื่อนไหวใช้ความนิ่งสยบพรรคประชาธิปัตย์จนล่อนจ้อน ไม่เหลือแม้แต่ความเป็นพรรคการเมืองครับ แล้วยังไม่พอ ยังใช้ศักยภาพหนึ่งเดียวลุยเดี่ยวครับ กำหนดทิศทางของประเทศไทยครับ นอกสภาครับ ปุ่มนี้ไม่มีใครรู้ครับ ส.ส.ในพรรคก็ไม่รู้ครับ”

“ภาระหน้าที่ต่อไปคืออะไรครับ ไม่เห็นด้วยที่จะเอา พ.ร.บ.ปรองดองมาพิจารณาในสภา แล้วใจของพรรคเพื่อไทยท่องไว้เลย ผมพูดเป็นหมื่นที เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองผมก็พูดกับท่านไปหมื่นที ผมบอกว่าทนลำบากมาตั้ง 5 ปี แล้วจะลำบากต่ออีก 3 เดือน 6 เดือนมันจะเป็นอะไร พี่น้องครับ ตอนนี้เขาอยากให้ประชาเสวนา ประชาธิปัตย์อยากให้ประชาเสวนา เสื้อเหลืองให้ประชาเสวนา ก็เอาไปประชาเสวนาไม่เห็นเป็นอะไร เอาไปให้คนไทยทั้งประเทศทุกตารางนิ้ว ให้มันรู้สิอะไรเป็นอะไร เราเป็นฝ่ายถูกต้องนี่ครับ จะไปกลัวว่าประชาชนจะรู้ทำไม มันต่างหากที่ต้องกลัว มันเลือดร้อน....เข้าทางเราแล้ว”

“เพราะฉะนั้นถอนเรื่องเปิดสภา 1 สิงหาฯ นี้ครับ ถอน พ.ร.บ.ปรองดองออกไป แล้วไปประชาเสวนาหาทางออกจริงทุกตารางนิ้วทั่วประเทศไทย แล้วใช้สื่อของรัฐโหมประโคมความจริงวันนี้ แล้วอาศัยประชาชนเป็นกำแพงพิงฮะ เราต้องการความเป็นธรรมใช่ไหมเราเป็นฝ่ายถูกกระทำใช่ไหม เราเป็นฝ่ายไม่ได้รับความชอบธรรมใช่ไหม ก็เอาตรงนี้ไปล่อให้ประชาชนทั้งประเทศเขารู้สิ เขาจะได้เป็นผู้ที่คืนความชอบธรรมให้กับเราไง”

“ผมไม่เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศ จะสรุปออกมาว่าต้องคืนความเป็นธรรมให้ทุกคนยกเว้นทักษิณผมไม่เชื่อ คืนความเป็นธรรมให้ทุกคนยกเว้นทักษิณ มีแต่เสื้อเหลืองกับประชาธิปัตย์เท่านั้นแหละ แต่ถ้าประชาชนทั้งประเทศรู้ความจริง เป็นไปไม่ได้ที่ประชาชน จะไม่คืนความเป็นธรรมให้กับทักษิณ มีแต่จะเห็นใจมีแต่จะเมตตามีแต่จะคืนความเป็นธรรมแล้วประชาชนทั้งประเทศจะเป็นเกราะคุ้มกันให้เราได้อย่างดีครับ”

“แล้วถึงเวลานั้นใช้เวลา 3 เดือน 6 เดือน ถึงเวลานั้นเอา พ.ร.บ.ปรองดองกลับเข้ามา ประชาธิปัตย์มึงจะเอายังไง แล้วเสื้อเหลืองมึงจะเอายังไง สรุปแล้วครับ ทนลำบากมา 5 ปีแล้ว ลำบากต่ออีกซัก 6 เดือนจะเป็นอะไรครับ”

“เอาเนียนๆ เอาให้เนียนๆ เราไม่จำเป็นต้องเอาเต็มร้อย เอาห้าสิบก็พอ ไอ้ที่ออกมาเย้วๆ นี่ เย้วเอาอะไรครับ เย้วเพื่อต่อรอง ไม่มีอะไรหรอกออกมาต่อรอง ก็อ่อนให้เขามั่งแบ่งให้เขามั่ง”

“หัวใจสำคัญของพรรคเพื่อไทยนาทีนี้ ผมพูดกับผู้บริหารพรรคกับกรรมการยุทธศาสตร์ พูดกับคนทางไกลนับครั้งไม่ถ้วน ผมบอกว่าท่องไว้เป็นคาถาเลย หัวใจสำคัญของพรรคเพื่อไทย คือ การบริหารชัยชนะให้เป็นชัยชนะที่ยั่งยืน รักษาอำนาจรัฐเอาไว้ครับ”

“เราค่อยๆ คืบ คืบ คืบ เดี๋ยวเกลี้ยงครับ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเอาขุนมาเสี่ยงครับ ถ้าเอาขุนออกมาเสี่ยงลงวาระ 3 .........แล้วก็ ทั้ง 2 ฝ่ายนั่นแหละครับ ไผแพ้ บ่มีแนวเหลือครับ เป็นทางเลือกสุดท้าย ถ้าจะเป็น จำเป็นต้องเป็น ให้ฝ่ายเขาเป็นคนประกาศสงครามสิ เราอย่าไปประกาศสงคราม เรารักษาอำนาจรัฐ บริหารรัฐอำนาจอยู่ในมือแล้วค่อยๆ คืบ คืบ คืบสุดท้ายเกลี้ยงครับ นี่คือทางออกที่จะทำให้ คนไทยมีความสุข ที่จะให้คนไทยบ่ฆ่ากันตายครับ ต้องทำนี่บ่แม่นครับ อายคนครับ ผมพูดให้ฟังแล้ว ผมจะไม่ลงมติวาระ 3 นอนเกยหน้าผาก ไม่กินพวกเดียวกันเอง....”


กำลังโหลดความคิดเห็น