ASTVผู้จัดการออนไลน์ - “ศิริโชค” แฉกรมสอบสวนคดีพิเศษย่องเบา ส่งลูกน้องทำหนังสือถึงเจ้าของอาคารบางกอกทาวเวอร์ ขอข้อมูลเช่าอาคารให้ “บลูสกาย แชนแนล” ทีวีประชาธิปัตย์ ฉะกำลังคุกคามสื่อ “เถกิง” ผอ.สถานีชี้ดีเอสไอทำเกินกว่าเหตุ ไปยุ่งกับบริษัทเอกชนให้เช่าอาคาร ยืนยันจ่ายค่าเช่าตามมาตรฐานมานาน 5-6 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีท่าทีใดๆ จนกว่าส่อจะถูกคุกคามให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ
วานนี้ (10 พ.ค.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำหนังสือจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ส่งถึงกรรมการผู้จัดการบริษัท กรุงเทพ ทาวเวอร์ (1999) จำกัด เจ้าของอาคารบางกอกทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มาแสดงในรายการสายล่อฟ้า ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชนแนล โดยกล่าวว่า ดีเอสไอกำลังกดดันบริษัทที่มาสปอนเซอร์ และบริษัทที่ให้สถานีโทรทัศน์บลูสกายเช่าพื้นที่ ซึ่งถือว่าคุกคามสื่ออยู่แล้ว ซึ่งทั้งหมดพยายามโยงว่าเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพวกตนมาจัดรายการกัน ซึ่งเดิมกล่าวหาว่าตนเป็นเจ้าของ และเห็นว่ารัฐบาลคุกคามและไม่มีความเป็นอิสระเสรีต่อสื่อมวลชน
ขณะเดียวกัน นายศิริโชคได้โพสต์ภาพหนังสือที่กรมสอบสวนคดีพิเศษส่งถึงกรรมการผู้จัดการบริษัท กรุงเทพ ทาวเวอร์ (1999) จำกัด เพื่อขอรายละเอียดข้อมูลการเช่าอาคาร ผ่านทางเฟซบุ๊ก “Sirichok Sopha” ระบุว่า ตามที่ท่านได้มอบสัญญาการเช่าพื้นที่อาคารของบริษัท บลูสกาย แชนแนล จำกัดนั้น ทางการสืบสวนคณะทำงานสืบสวนตามคำสั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ 173/2555 จำเป็นต้องทำการตรวจสอบข้อมูลการชำระเงินค่าเช่าพื้นที่ของบริษัท บลูสกาย แชนแนล จำกัด และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อประโยชน์ในการแสวงหาพยานหลักฐาน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 23/1 แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2550 และระเบียบ กคพ.ว่าด้วยการสืบสวนคดีความผิดทางอาญา เพื่อเสนอ กคพ.มีมติให้เป็นคดีพิเศษ พ.ศ. 2551 จึงเรียนมายังท่านเพื่อขอข้อมูลการชำระค่าเช้าพื้นที่ของบริษัท บลูสกาย แชนแนล จำกัด และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และขอความกรุณาท่านรับรองเอกสาร เพื่อนำมาประกอบการสืบสวนต่อไป ขอแสดงความนับถือ ลงชื่อ พันตำรวจเอกประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภายหลังผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการออนไลน์ได้สอบถาม นายเถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชนแนล เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติม นายเถกิงกล่าวว่า ดีเอสไอน่าจะทำเกินกว่าเหตุ ในกรณีที่ไปยุ่งกับบริษัทเอกชนที่ให้เช่าอาคาร ซึ่งเป็นการทำธุรกิจธรรมดา และบริษัทฯ ก็จ่ายค่าเช่าตามอัตรามาตรฐานของอาคารมา 5-6 เดือนแล้ว ในส่วนของสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชนแนลนั้นยังไม่มีท่าทีใดๆ ต่อกรณีนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงบริหารจัดการสถานี แต่ถ้ามีกรณีที่ส่อแววว่าจะถูกคุกคาม ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมายที่จะแนะนำว่าควรทำอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบค้นข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท กรุงเทพ ทาวเวอร์ (1999) จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2532 มีกรรมการบริษัท 5 คน คือ นายสมบัติ สังข์รังสรรค์, นางศิริพร เลขยะวิจิตร, นายเฉลิมพล กำเนิดศิริกุล, นางศิริวรรณ วงศ์อริยะกวี และนางชัยลดา ตันติเวชกุล โดยมีทุนจดทะเบียน 519 ล้านบาท ระบุวัตถุประสงค์ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียม สำนักงาน ซึ่งบริษัทนี้เดิมชื่อ บริษัท มอนเทอเรย์ แลนด์ดีเวลลอพเม้นท์ จำกัด ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2542
ส่วนบริษัท บลูสกาย แชนแนล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 ต.ค.2554 มีกรรมการบริษัท 5 คน คือ นายวิทเยนทร์ มุตตามระ, นายเถกิง สมทรัพย์, นายบุรฤทธิ์ ศิริวิชัย, นายภูษิต ถ้ำจันทร์ และนายรักเกียรติ รัตนมณี โดยมีนายวิทเยนทร์ นายเถกิง และนายบุรฤทธิ์ เป็นกรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัท โดยมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ระบุวัตถุประสงค์รับทำการถ่ายวีดีโอ เทปบันทึกภาพ ภาพนิ่ง ซึ่งบริษัท บลู สกาย แชนแนลฯ ได้ขอเช่าพื้นที่ชั้นที่ 8 ของอาคารบางกอกทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่เป็นสำนักงานและห้องส่ง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบลูสกายแชนแนลถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้เป็นช่องทางเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เนื่องจากรูปแบบการผลิตรายการมีการใช้โทนสีฟ้า ซึ่งเป็นสีประจำพรรคประชาธิปัตย์ และผู้ดำเนินรายการส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดรายการ ฟ้าวันใหม่กับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แม้นายเถกิงจะเคยออกมายืนยันก่อนหน้านี้ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างใด เพราะมีตนและทีมงานเป็นผู้ก่อตั้งสถานีดังกล่าว