xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.สมเกียรติ” ฉะ “สายล่อฟ้า” รายการขยะ - กังขา “บลูสกาย” เช่าดาวเทียมนอกเลี่ยงกฎหมาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บทความ “สายล่อฟ้า” Blue Sky Channel ฟ้าผ่าหัวใจประชาธิปัตย์ ในเฟซบุ้คของนายสมเกียรติ อ่อนวิมล
สื่อมวลชนอาวุโส ฉะ พิธีกรสายล่อฟ้า “ชวนนท์-เทพไท-ศิริโชค” พูดจาไม่มีหูรูด ชี้นำ “ยิ่งลักษณ์” เข้า รร.โฟร์ซีซั่นส์ เพื่อมีเซ็กซ์กับผู้ชายโดยไร้หลักฐาน แถมใช้ถ้อยคำ-ภาพประกอบหยาบโลน แทนที่จะตรวจสอบหาความจริงเป็นระบบ ชี้ ทำ ปชป.ตกต่ำ กังขาทีวีสีน้ำเงิน เลี่ยงกฎหมายเช่าดาวเทียมนอก หนีระบบ กสทช.ลั่นจะไม่เลือก ปชป.เหมือนที่ไม่เลือกเพื่อไทย

วันที่ 19 ก.พ. แฟนเพจเฟซบุ๊กของ นายสมเกียรติ อ่อนวิมล สื่อมวลชนอาวุโสและอดีตผู้บริหารบริษัท แปซิฟิคฯ ได้มีเผยแพร่ข้อเขียนเรื่อง “สายล่อฟ้า” Blue Sky Channel ฟ้าผ่าหัวใจประชาธิปัตย์ โดยกล่าวถึงกรณีที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ จัดรายการสายล่อฟ้า ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกายแชนแนล ร่วมกับ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในการจัดรายการเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้กล่าวถึงกรณีอื้อฉาว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทิ้งงานราชการไปปฏิบัติภารกิจลับที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กลับพบว่า ในรายการผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 ได้พูดถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในเชิงสองแง่สองง่าม ทำให้ นายสมเกียรติ มองว่าไม่เหมาะสม

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ตนทราบจากชาวพรรคประชาธิปัตย์ ว่า จะมีสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องใหม่ คือ บลูสกายแชนแนล และสงสัยจะเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ตนก็ไม่สบายใจ เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง จะเป็นอันตราย และจะเกิดความเสียหายต่อพรรคประชาธิปัตย์ โดยความเชื่อในหลักการที่ว่า พรรคการเมืองเป็นผู้เป็นข่าว ไม่ใช่ผู้ทำข่าว ไม่ควรทำข่าวของตนเอง หรือทำข่าววิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น เพราะจะขาดความเป็นกลาง ไม่น่าเชื่อถือ และจะเป็นที่มาของความขัดแย้งระยะยาว

“ผมไม่ได้ติดตั้งจานรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อรับชม Blue Sky Channel แต่ได้ชมรายการ “สายล่อฟ้า” ผ่าน You Tube หลังจากได้รับแจ้งผ่านเพื่อนทาง Facebook ผมได้ดูช่วงแรกของรายการที่เป็นปัญหาให้ถกเถียงกัน ณ ที่นี้ ความยาว 31:49 นาที ดูจบแล้วผมก็เห็นความตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์ในอนาคตได้อย่างแจ่มชัด หากไม่มีการแก้ไข หากไม่ยกเลิก Blue Sky Channel หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยุติกิจกรรมทำลายความน่าเชื่อถือของพรรค ผ่าน Blue Sky Channel ผมก็จะไม่ลงคะแนนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ในสมัยเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ ได้กล่าวถึงรายการสายล่อฟ้า ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา อีกว่า ผู้ดำเนินรายการขาดความสำรวม คุยกันเชิงเสียดสี กล่าวหาทางอ้อมต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยตลอดเวลาของรายการ ผู้ร่วมรายการพยายามคุยให้เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ น่าจะไปมีอะไรกับใครก็ไม่รู้ที่ชั้น 7 ของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ และอะไรที่ว่านั้นน่าจะเป็นเรื่องการไปมีเพศสัมพันธ์กันกับผู้ชายคนหนึ่ง โดยทั้ง 3 คนไม่เคยพูดอะไรตรงๆ ให้ชัดเจน ไม่แสดงหลักฐานอะไร แต่ก็พยายามพูดวกวนไปมาเกี่ยวกับเรื่องที่มีความหมายเชิงเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ ยังนำภาพแผ่นป้ายแขวนที่ประตูห้องโรงแรม ซึ่งปกติมีคำว่า “Do not disturb” แล้วเปลี่ยนเป็นภาพป้ายแขวนที่เดิม แต่มีข้อความใหม่ว่า “เอาอยู่” ซึ่งเป็นช่วงหยาบโลน กักขฬะ หยาบคาย ไร้สมบัติผู้แทนราษฎรผู้ดีอย่างที่สุด

สื่อมวลชนอาวุโส เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ท่าจะเอาตัวเองไม่อยู่แล้ว หากจะให้อยู่ในร่องในรอยของความเป็นพรรคการเมืองระดับชาติ ที่มีประวัติอันยาวนานกว่าพรรคใดต่อไป ต้องหยุดทำในสิ่งที่ไม่พึงกระทำเช่นนี้ทันที ซึ่งพฤติกรรมของสมาชิกพรรคระดับแนวหน้าหยาบคาย หยาบโลน ไร้สติ สิ้นจริยธรรม ดังปรากฏในรายการสายล่อฟ้านี้ ถ้าเป็นนักการเมืองที่ดี จะพูดโดยไม่รับผิดชอบเช่นนี้ไม่ได้ นักการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน จะขาดจริยธรรม ไร้กิริยามารยาท ขาดความเป็นผู้มีสมบัติผู้ดีในการพูดในที่สาธารณะเช่นนี้ไม่ได้

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นความลึกลับที่ประชาชนอยากรู้นั้นแน่นอน และนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่ตอบให้หายสงสัย จึงมีเหตุผลชอบธรรมที่จะตั้งข้อสงสัยต่อไป อย่างน้อยสองเรื่อง คือ เรื่องชู้สาวคาวโลกีย์ กับเรื่องธุรกิจส่วนตัวที่นายกฯ ไม่ต้องการบอกใคร หากทั้งสองเรื่องนี้หรือเรื่องหนึ่งเรื่องใดที่สังคมสงสัย จะมีผลกระทบต่อบ้านเมือง ไม่ว่าในทางเศรษฐกิจ การเมือง หรือศีลธรรมและจริยธรรมของผู้นำประเทศ ถือเป็นหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้วที่จะต้องติดตามค้นหาความจริง แล้วนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชน แต่การสืบหาความจริงต้องทำเป็นระบบ เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นเหตุเป็นผล พรรคประชาธิปัตย์ต้องตามล่าหาความจริง ด้วยกระบวนการสืบสวนสอบสวน ทั้งทางลับและทางการ โดยใช้กลไกของพรรคและกลไกของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมาย

“พรรคการเมืองไม่ใช่สื่อสารมวลชน และนักการเมืองก็ไม่ใช่สื่อมวลชน ผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 เป็นนักการเมือง ซึ่งควรมีบทบาทเป็นผู้ถูกสื่อมวลชนสัมภาษณ์ มิควรมาเป็นสื่อมวลชนเสียเอง หากมาเป็นสื่อมวลชนเสียเองในไม่ช้าก็จะไม่มีใครมาสัมภาษณ์ เมื่อไม่คุ้นเคยกับงานสื่อสารมวลชน เวลามาทำหน้าที่สื่อมวลชนจึงเกิดความผิดพลาดเสียหาย เพราะจัดรายการก็ไม่เป็น ดำเนินรายการก็ไม่ถูก บทที่ควรจะมีก็ไม่มี ข้อมูลที่ควรจะสืบค้นก็ไม่สืบหา กล้องโทรทัศน์ที่ควรจะไปถ่ายทำผลิตภาพก็ไม่ทำ รายการโทรทัศน์ที่ยาวนานเป็นชั่วโมงจึงต้องพึ่งการพูดแบบไม่มีหูรูดกันเต็มเวลา ศิลปะการผลิต และสร้างสรรค์รายการโทรทัศน์ที่ดีก็ไม่มีฝีมืออะไรให้เห็น รายการสายล่อฟ้า คือ ขยะตั้งแต่ต้นจนจบรายการ” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ ยังกล่าวถึงองค์ประกอบของสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชนแนล พบว่า คล้ายจะเป็นสถานีโทรทัศน์ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ไม่มีหลักฐานชัดแจ้งว่าใครเป็นเจ้าของ จากข่าวที่พอสืบได้ พอทราบว่า นายเถกิง สมทรัพย์ เป็นผู้บริหารสถานี และทราบว่า เคยช่วยงานในทีมสื่อประชาสัมพันธ์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีสมัยก่อนหน้านี้ ชื่อช่องก็สีฟ้า สีของพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ทำรายการจำนวนมากในผังรายการ ก็คนจากพรรคหรือเพื่อนของพรรคประชาธิปัตย์ ใช้ดาวเทียมของบริษัท SES บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ฝรั่งเศส และลักเซมเบิร์ก ให้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียมสื่อสารและโทรคมนาคมทั่วโลก

“ใครก็ตามที่เป็นเจ้าของ Blue Sky Channel จะเป็นพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ก็ตาม ถือได้ว่าทำธุรกิจออกอากาศรายการโทรทัศน์นอกการกำกับดูแลของกฎหมายไทย และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.โดยเหตุที่มิได้ใช้ชื่อดาวเทียมไทยคมของเราเอง แม้ในโลกที่การสื่อสารเสรีมากจนไม่จำเป็นที่นักธุรกิจสื่อสารมวลชนไทยจะต้องทำธุรกิจออกอากาศรายการโทรทัศน์ภายใต้กรอบจำกัดของกฎหมายไทย แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองของประเทศไทย ควรที่จะทำตนเป็นแบบอย่าง ไม่ทำสิ่งที่ไม่สมควรหรือไม่ถูกต้องตามกรอบจริยธรรมของพรรคการเมือง และนักการเมือง และต้องไม่ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายไทย” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนในฐานะที่มีประวัติชีวิตการลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์มามากกว่าพรรคอื่นใดตั้งแต่อายุ 18 จนถึงอายุ 64 ในปีนี้ รู้สึกผิดหวังในบุคคลชั้นนำทั้ง 3 คนของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างยิ่ง ความต่ำคุณภาพของสมาชิกพรรคทั้ง 3 อาจสะท้อนถึงคุณภาพโดยรวมของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย หากไม่แก้ไขตามที่ใจปรารถนา ตนจะไม่ลงคะแนนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในสมัยเลือกตั้งหน้าอย่างแน่นอน พรรคเพื่อไทย ตนก็จะไม่เลือกเช่นกัน หากนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่ปรับปรุงตัวเอง และหากไม่ชี้แจงให้ผมกระจ่างในเรื่องเกิดขึ้นบนชั้น 7 ของโรงแรม Four Seasons และหากไม่เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีคุณภาพให้ผมภูมิใจได้ พรรคประชาธิปัตย์ ตนก็จะไม่เลือก พรรคเพื่อไทย ตนก็จะไม่เลือก ตนจะอยู่เป็นพลเมืองไทยที่ไร้รัฐบาลไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต
นายศิริโชค โสภา, นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต และนายเทพไท เสนพงศ์ ขณะจัดรายการสายล่อฟ้าทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกายแชนแนล
กำลังโหลดความคิดเห็น