**สมุนลิ่วล้อนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร จับเครื่องบินตบเท้ากันไปเหยียบแผ่นดินฮ่องกง กันอุตลุด เครือข่ายพรรคเพื่อไทย ทั้งแกนนำ แกนตาม ใครไม่ไปถือว่าตกขบวน ไม่ต้องไปเช็คชื่อให้เสียเวลาว่าใครไปบ้าง ไล่เช็คชื่อคนที่ไม่ไปจะง่ายกว่า ??
งานนี้ นักโทษทักษิณ เตรียมจัดงานคล้ายวันเกิด 63 ปี 26 กรกฎาคม ใหญ่โตมโหระทึก สำรองเก้าอี้เกือบ 500 ที่นั่ง เพราะไม่เพียงนักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ไปกันครบเซ็ต ล่าสุดพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ก็จับเครื่องบินไปกับเขาด้วย แบบไม่มีอาการเหนียมอาย ใครจะว่า เหมาะไม่เหมาะอย่างไรก็ช่าง ถูกค่อนขอดว่าเป็นถึง ผบ.ตร. แต่ละเลยที่จะไปจับกุมนักโทษหลบหนีคดี ซ้ำยังไปพินอบพิเทา อย่างไร้สำนึก
**มีอย่างที่ไหนตำรวต้องไปจับโจร แต่นี่ดันไปกราบโจร..
บรรดารัฐมนตรีใหญ่ๆ ก็ไปกันตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เหตุผลไม่มีอะไรสำคัญเหนือกว่าการไปรักษาสถานภาพเก้าอี้ใน ครม.
ขณะเดียวกันแคนดิเดตรัฐมนตรี ก็เดินทางกันไปเพื่อหาที่นั่งเก้าอี้ในครม. ไม่ว่าจะเป็น พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช มีทั้งพวกรักษา และพวกแสวงหาเก้าอี้ นายใหญ่ต้อนรับแขกกันแทบไม่ทัน
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีน้องสาวนักโทษหนีคดีทุจริต คงได้แต่มองค้อน ด้วยอาการเซ็งๆ เป็นนายกฯเมืองไทย มีอำนาจนั่งหัวโด่อยู่นี่แท้ๆ กลับไม่สนใจ หันไปหาแต่นายใหญ่ ณ ต่างแดน ไม่แน่อาจได้เห็นมาตรการ เชือดไก่ให้ลิงดู ปูปรี๊ดแตกเมื่อไหร่ คงได้มีอาการหนาวๆ ร้อนๆ กันมั่ง
**อารมณ์ผู้หญิงบางจังหวะก็เดายาก ยิ่งวันนี้อำนาจเริ่มขยายตึงมือ กล้าหือ กล้าฟัดพี่ชาย คงต้องจับตาดูกัน !!
คิดไปก็ให้สงสารประดารัฐมนตรีที่นั่งอยู่บนอำนาจยามนี้ ต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อยื้อเก้าอี้ไว้กับทวารให้ได้ โดยเฉพาะเกมวิ่งเต้นเส้นสาย แทบไม่มีใครใช้ผลการทำงานเป็นเครื่องการันตี เพราะ แต่ละคนจะว่าไปแล้วล้วนไม่ได้เรื่อง ไม่สามารถเอาผลงานที่จับต้องได้ไปอวดอ้างโพนทะนา ประกอบด้วยวัฒนธรรมการเมืองของเครือข่ายพรรคนายใหญ่ ที่ยึดหลักสมบัติผลัดกันชม เป็นรัฐมนตรีปี ครึ่งปี ก็ให้คนอื่นมานั่งแทนมั่ง ไม่ค่อยยึดหลักผลงานเชิงประจักษ์สักเท่าไร
ชั่วโมงนี้ จึงต้องทำงานเข้มแข็งให้ยิ่งลักษณ์เห็น ทั้งยังต้องเสนอหน้าไปให้นายใหญ่ระลึกได้ ถึงต่างแดน ไม่ต้องแปลกใจหากจะเห็นสภาพรัฐมนตรีช่วงนี้ ตาโหลๆ เหมือนคนอดนอน เพราะงานหนักกว่าเดิมหลายเท่าตัว
และให้บังเอิญวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ดีเดย์วันเกิดนายใหญ่ ยิ่งลักษณ์ ดันนัดประชุมเวิร์กช็อป ครม.ทั้งคณะ ปลัดกระทรวงทั้งหมด เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น ทำเอารัฐมนตรีหลายราย "เก๊กซิม" สับสนกับชีวิต ไม่รู้จะจัดการอย่างไร
**ทางนี้ก็นายหญิง ทางนู้นก็นายใหญ่ แว่วว่า "ยิ่งลักษณ์" จะเช็กชื่อด้วย ไม่อยากให้ไปพบนายใหญ่กันมากนัก เพราะนอกจากภาพลักษณ์ ครม. จะไม่สวยแล้ว ยังทำให้ตัวเองดูด้อยค่าลงไปด้วย
ทำให้รัฐมนตรีหลายคน ต้องวางแผนแบ่งเวลาไปร่วมประชุมในช่วงเช้า ก่อนแวบไปพบนายใหญ่ ร่วมฉลองวันเกิดในช่วงบ่าย เรียกว่าต้องไปทั้ง 2 งาน ขาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เพราะชั่วโมงนี้ ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้าย โผครม. ก็อยู่ที่ พี่ชาย และน้องสาว 2 คนนี้แหละ
กระนั้นก็ดี งานวันเกิดที่นัดจัดยิ่งใหญ่ วางคิวไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเลื่อนหรือเปลี่ยนกำหนดการอะไรหรือไม่ เพราะมีพายุเข้ากะทันหัน.. ไม่รู้จะเป็นปรากฏการณ์ ฝนตกขี้หมูไหล หรือไม่ หลายคนก็หนาวๆ ร้อนๆ กลัวฝนฟ้าพายุจะพัดหอบกันไปตายโหงทั้งคณะ !!
อย่างไรก็ดี น.ช.แม้ว ต้องถือโอกาสนี้หารือสะสางเกมการเมืองในประเทศไทย ถึงเวลาสั่งเสียหมากกระดานเกมเสี่ยงๆ ลุยแบบแตกหักเป็นแน่แท้ หลังอดทนตั้งตารอการกลับประเทศมานานหลายปี พร้อมส่งสัญญาณมาเนืองๆ ว่า จะกลับบ้านวันนั้น วันนี้ กลับอย่างเท่ๆ แต่ก็ทำอย่างที่คุยโตโออ้วดไม่ได้เสียที เสียรังวัดไปบาน
ดังนั้น ก็จะถือโอกาสสั่งการเดินเกมการเมืองซ่อนเล่ห์ครั้งใหม่ หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญติดดิสก์เบรก เกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะว่าไปแล้วการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ใช่เป้าหมายหลักที่แท้จริงของนายใหญ่ เพราะชั่งตวงวัดแล้ว การแก้ไขต้องใช้เวลายาวนานกว่าจะสัมฤทธิ์ผล
**เกมที่นักโทษชายวางไว้ตั้งแต่ต้นก็คือ พ.ร.บ.ปรองดอง
เพียงแต่ที่ผ่านมา เกิดอาการผิดคิว ฝากผีฝากไข้เรื่องสำคัญไว้กับคนมือไม่ถึง ไปตัดนิดเติมหน่อยจนสาระสำคัญเพี้ยนไป เช่น วัฒนา เมืองสุข นั่นก็มีชนักปักหลัง เรื่องรถ-เรือดับเพลิง แอบสอดไส้ให้ตัวเองพ้นผิด จนถูกจับได้ไล่ทัน หนำซ้ำยังเขียนสุ่มเสี่ยง เป็นประเด็นให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบจับมาเล่นจนงอมพระราม ไปไม่เป็น เดินต่อไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องการคืนเงิน ที่ถูกยึดไปให้นายใหญ่ กลายเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ ร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ต้องติดกับดัก
ระหว่างนี้จึงอยู่ในระยะทำการคิดอ่านเปลี่ยนแผนการใหม่ ให้แนบเนียน พร้อมเดินเกมสานเสวนาคู่ขนาน ตามที่เคยระบุไว้ตั้งแต่ต้น ลดโทนกระแสต่อต้าน สร้างแนวร่วมครั้งใหม่ เพื่อเอาไปแอบอ้างอย่างเนียนๆ
เป้าหมายไม่เปลี่ยน แต่วิธีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ เหมือนการทำธุรกิจตามแบบฉบับ ที่นายใหญ่ถนัด คลุกคลีมาทั้งชีวิต เมื่อทางสายหลักมันตัน ก็เลี้ยวไปทางน้อย ทางลัด แต่ไปสู่ปลายทางเหมือนกัน อาจจะช้าหน่อย อ้อมหน่อย ก็ไม่เป็นไร เพราะเข้าใจดีว่า อุปสรรค กับดักมันเยอะ
แต่ผลสัมฤทธิ์ที่ต้องการไม่เคยเลี้ยวออกนอกเส้นทางไปไหน คือ การกลับประเทศมาสร้างอาณาจักรทักษิณอีกครั้ง ยิ่งชั่วโมงนี้ อำนาจการเมืองอยู่ในมือน้องสาว และลิ่วล้อสมุนฝ่ายตัวเอง ยิ่งจำต้องนั่งคิดนอนคิดทุกคืนวัน หาทุกหนทางที่จะประสบผลสำเร็จ เพราะโอกาสดีๆ แบบนี้ ไม่มีอีกแล้ว..
หลายครั้งหลายหนที่ผ่านมา น.ช.แม้ว จึงมีความคิด ตรรกะ บนความเชื่อที่ว่า ประเทศนี้เป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว คิดจะทำอะไรก็ทำ แล้วผลก็ตามมาอย่างที่เห็น ถูกเครือข่ายคนรู้ทันทักษิณ ผนึกกำลังขึ้นมาต่อต้าน ขัดขวาง หมากเกมการเมืองที่ซ่อนเล่ห์เพทุบาย ด้วยความคิด มโนภาพที่ตรงกัน ไม่อยากเห็นนักโทษหลบหนีคดีนาม "ทักษิณ ชินวัตร" กลับมาบ่อนเซาะ ทำลายประเทศไทย
**ล้มล้างระบอบ เปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่เสื่อมทราม ด้วยระบบทุนนิยมสามานย์ คอร์รัปชัน เต็มบ้านเต็มเมือง โปรยเศษเงินเศษทาน ที่เหลือจากการโกงกิน มองประชาชนเยี่ยงทาส เยี่ยงหมู หมา เหมือนเช่นอดีตอีก !!
งานนี้ นักโทษทักษิณ เตรียมจัดงานคล้ายวันเกิด 63 ปี 26 กรกฎาคม ใหญ่โตมโหระทึก สำรองเก้าอี้เกือบ 500 ที่นั่ง เพราะไม่เพียงนักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ไปกันครบเซ็ต ล่าสุดพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ก็จับเครื่องบินไปกับเขาด้วย แบบไม่มีอาการเหนียมอาย ใครจะว่า เหมาะไม่เหมาะอย่างไรก็ช่าง ถูกค่อนขอดว่าเป็นถึง ผบ.ตร. แต่ละเลยที่จะไปจับกุมนักโทษหลบหนีคดี ซ้ำยังไปพินอบพิเทา อย่างไร้สำนึก
**มีอย่างที่ไหนตำรวต้องไปจับโจร แต่นี่ดันไปกราบโจร..
บรรดารัฐมนตรีใหญ่ๆ ก็ไปกันตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เหตุผลไม่มีอะไรสำคัญเหนือกว่าการไปรักษาสถานภาพเก้าอี้ใน ครม.
ขณะเดียวกันแคนดิเดตรัฐมนตรี ก็เดินทางกันไปเพื่อหาที่นั่งเก้าอี้ในครม. ไม่ว่าจะเป็น พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช มีทั้งพวกรักษา และพวกแสวงหาเก้าอี้ นายใหญ่ต้อนรับแขกกันแทบไม่ทัน
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีน้องสาวนักโทษหนีคดีทุจริต คงได้แต่มองค้อน ด้วยอาการเซ็งๆ เป็นนายกฯเมืองไทย มีอำนาจนั่งหัวโด่อยู่นี่แท้ๆ กลับไม่สนใจ หันไปหาแต่นายใหญ่ ณ ต่างแดน ไม่แน่อาจได้เห็นมาตรการ เชือดไก่ให้ลิงดู ปูปรี๊ดแตกเมื่อไหร่ คงได้มีอาการหนาวๆ ร้อนๆ กันมั่ง
**อารมณ์ผู้หญิงบางจังหวะก็เดายาก ยิ่งวันนี้อำนาจเริ่มขยายตึงมือ กล้าหือ กล้าฟัดพี่ชาย คงต้องจับตาดูกัน !!
คิดไปก็ให้สงสารประดารัฐมนตรีที่นั่งอยู่บนอำนาจยามนี้ ต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อยื้อเก้าอี้ไว้กับทวารให้ได้ โดยเฉพาะเกมวิ่งเต้นเส้นสาย แทบไม่มีใครใช้ผลการทำงานเป็นเครื่องการันตี เพราะ แต่ละคนจะว่าไปแล้วล้วนไม่ได้เรื่อง ไม่สามารถเอาผลงานที่จับต้องได้ไปอวดอ้างโพนทะนา ประกอบด้วยวัฒนธรรมการเมืองของเครือข่ายพรรคนายใหญ่ ที่ยึดหลักสมบัติผลัดกันชม เป็นรัฐมนตรีปี ครึ่งปี ก็ให้คนอื่นมานั่งแทนมั่ง ไม่ค่อยยึดหลักผลงานเชิงประจักษ์สักเท่าไร
ชั่วโมงนี้ จึงต้องทำงานเข้มแข็งให้ยิ่งลักษณ์เห็น ทั้งยังต้องเสนอหน้าไปให้นายใหญ่ระลึกได้ ถึงต่างแดน ไม่ต้องแปลกใจหากจะเห็นสภาพรัฐมนตรีช่วงนี้ ตาโหลๆ เหมือนคนอดนอน เพราะงานหนักกว่าเดิมหลายเท่าตัว
และให้บังเอิญวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ดีเดย์วันเกิดนายใหญ่ ยิ่งลักษณ์ ดันนัดประชุมเวิร์กช็อป ครม.ทั้งคณะ ปลัดกระทรวงทั้งหมด เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น ทำเอารัฐมนตรีหลายราย "เก๊กซิม" สับสนกับชีวิต ไม่รู้จะจัดการอย่างไร
**ทางนี้ก็นายหญิง ทางนู้นก็นายใหญ่ แว่วว่า "ยิ่งลักษณ์" จะเช็กชื่อด้วย ไม่อยากให้ไปพบนายใหญ่กันมากนัก เพราะนอกจากภาพลักษณ์ ครม. จะไม่สวยแล้ว ยังทำให้ตัวเองดูด้อยค่าลงไปด้วย
ทำให้รัฐมนตรีหลายคน ต้องวางแผนแบ่งเวลาไปร่วมประชุมในช่วงเช้า ก่อนแวบไปพบนายใหญ่ ร่วมฉลองวันเกิดในช่วงบ่าย เรียกว่าต้องไปทั้ง 2 งาน ขาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เพราะชั่วโมงนี้ ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้าย โผครม. ก็อยู่ที่ พี่ชาย และน้องสาว 2 คนนี้แหละ
กระนั้นก็ดี งานวันเกิดที่นัดจัดยิ่งใหญ่ วางคิวไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเลื่อนหรือเปลี่ยนกำหนดการอะไรหรือไม่ เพราะมีพายุเข้ากะทันหัน.. ไม่รู้จะเป็นปรากฏการณ์ ฝนตกขี้หมูไหล หรือไม่ หลายคนก็หนาวๆ ร้อนๆ กลัวฝนฟ้าพายุจะพัดหอบกันไปตายโหงทั้งคณะ !!
อย่างไรก็ดี น.ช.แม้ว ต้องถือโอกาสนี้หารือสะสางเกมการเมืองในประเทศไทย ถึงเวลาสั่งเสียหมากกระดานเกมเสี่ยงๆ ลุยแบบแตกหักเป็นแน่แท้ หลังอดทนตั้งตารอการกลับประเทศมานานหลายปี พร้อมส่งสัญญาณมาเนืองๆ ว่า จะกลับบ้านวันนั้น วันนี้ กลับอย่างเท่ๆ แต่ก็ทำอย่างที่คุยโตโออ้วดไม่ได้เสียที เสียรังวัดไปบาน
ดังนั้น ก็จะถือโอกาสสั่งการเดินเกมการเมืองซ่อนเล่ห์ครั้งใหม่ หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญติดดิสก์เบรก เกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะว่าไปแล้วการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ใช่เป้าหมายหลักที่แท้จริงของนายใหญ่ เพราะชั่งตวงวัดแล้ว การแก้ไขต้องใช้เวลายาวนานกว่าจะสัมฤทธิ์ผล
**เกมที่นักโทษชายวางไว้ตั้งแต่ต้นก็คือ พ.ร.บ.ปรองดอง
เพียงแต่ที่ผ่านมา เกิดอาการผิดคิว ฝากผีฝากไข้เรื่องสำคัญไว้กับคนมือไม่ถึง ไปตัดนิดเติมหน่อยจนสาระสำคัญเพี้ยนไป เช่น วัฒนา เมืองสุข นั่นก็มีชนักปักหลัง เรื่องรถ-เรือดับเพลิง แอบสอดไส้ให้ตัวเองพ้นผิด จนถูกจับได้ไล่ทัน หนำซ้ำยังเขียนสุ่มเสี่ยง เป็นประเด็นให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบจับมาเล่นจนงอมพระราม ไปไม่เป็น เดินต่อไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องการคืนเงิน ที่ถูกยึดไปให้นายใหญ่ กลายเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ ร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ต้องติดกับดัก
ระหว่างนี้จึงอยู่ในระยะทำการคิดอ่านเปลี่ยนแผนการใหม่ ให้แนบเนียน พร้อมเดินเกมสานเสวนาคู่ขนาน ตามที่เคยระบุไว้ตั้งแต่ต้น ลดโทนกระแสต่อต้าน สร้างแนวร่วมครั้งใหม่ เพื่อเอาไปแอบอ้างอย่างเนียนๆ
เป้าหมายไม่เปลี่ยน แต่วิธีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ เหมือนการทำธุรกิจตามแบบฉบับ ที่นายใหญ่ถนัด คลุกคลีมาทั้งชีวิต เมื่อทางสายหลักมันตัน ก็เลี้ยวไปทางน้อย ทางลัด แต่ไปสู่ปลายทางเหมือนกัน อาจจะช้าหน่อย อ้อมหน่อย ก็ไม่เป็นไร เพราะเข้าใจดีว่า อุปสรรค กับดักมันเยอะ
แต่ผลสัมฤทธิ์ที่ต้องการไม่เคยเลี้ยวออกนอกเส้นทางไปไหน คือ การกลับประเทศมาสร้างอาณาจักรทักษิณอีกครั้ง ยิ่งชั่วโมงนี้ อำนาจการเมืองอยู่ในมือน้องสาว และลิ่วล้อสมุนฝ่ายตัวเอง ยิ่งจำต้องนั่งคิดนอนคิดทุกคืนวัน หาทุกหนทางที่จะประสบผลสำเร็จ เพราะโอกาสดีๆ แบบนี้ ไม่มีอีกแล้ว..
หลายครั้งหลายหนที่ผ่านมา น.ช.แม้ว จึงมีความคิด ตรรกะ บนความเชื่อที่ว่า ประเทศนี้เป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว คิดจะทำอะไรก็ทำ แล้วผลก็ตามมาอย่างที่เห็น ถูกเครือข่ายคนรู้ทันทักษิณ ผนึกกำลังขึ้นมาต่อต้าน ขัดขวาง หมากเกมการเมืองที่ซ่อนเล่ห์เพทุบาย ด้วยความคิด มโนภาพที่ตรงกัน ไม่อยากเห็นนักโทษหลบหนีคดีนาม "ทักษิณ ชินวัตร" กลับมาบ่อนเซาะ ทำลายประเทศไทย
**ล้มล้างระบอบ เปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่เสื่อมทราม ด้วยระบบทุนนิยมสามานย์ คอร์รัปชัน เต็มบ้านเต็มเมือง โปรยเศษเงินเศษทาน ที่เหลือจากการโกงกิน มองประชาชนเยี่ยงทาส เยี่ยงหมู หมา เหมือนเช่นอดีตอีก !!