นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ไพร่ที่ยกฐานะขึ้นเป็นอำมาตย์ มีพรสวรรค์พิเศษ พูดถึงสถานการณ์การเมืองเมื่อไหร่ ใครฟังแล้วเป็นต้องหมั่นไส้ ล่าสุดก็ทำให้เกิดความหมั่นไส้ขึ้นอีก เมื่อพูดถึงการพิจารณาไต่สวน ถอนประกันนายจตุพร พรหมพันธุ์ เพื่อนแกนนำคนเสื้อแดงด้วยกัน
สำหรับศาลรัฐธรรมนูญ นายณัฐวุฒิสับแหลกเช่นเดียวกับหัวโจกเสื้อแดงทั้งหลาย แต่สำหรับศาลอาญา นายณัฐวุฒิยังไม่บังอาจ เพราะรู้ตัวดีว่า ขืนทำเป็นกร่างจะต้องกลับเข้าคุกทันที แต่ก็ไม่วายใช้ท่าทีลักษณะกดดันและเหน็บแนม
นายณัฐวุฒิกล่าวถึงการไต่สวนถอนประกันนายจตุพร ว่า ศาลคงจะอำนวยความยุติธรรมให้แกนนำคนเสื้อแดง โดยอ้างว่า การออกมาเคลื่อนไหวปลุกระดมกดดันศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมาย
และยังระบุว่า คนเสื้อแดงต้องเจียมเนื้อเจียมตัว เดินตัวรีบตัวงอกันไปหมดเพราะถูกไล่ล่า ถูกดำเนินคดีจับกุมคุมขัง
การพิจารณาจะถอนประกันแกนนำคนเสื้อแดงหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล และไม่ควรมีใครชี้นำใดๆ แต่นายณัฐวุฒิก็ยังปากอยู่ไม่สุข รวมทั้งแสดงท่าทีกดดันกลายๆ ก็ได้
ส่วนการกล่าวอ้างว่า คนเสื้อแดงต้องเจียมเนื้อเจียมตัว เดินตัวรีบตัวงอนั้น อาจเป็นการพูดประชดศาล แต่ไอ้ที่พูดมา มันตรงกันข้ามกับข้อเท็จจริง
เพราะวันนี้คนเสื้อแดงกร่างกันเต็มที่ โตคับบ้านคับเมือง วางก้ามเป็นอันธพาลครองเมืองไปแล้ว แม้แต่กระบวนการยุติธรรมยังไม่เคารพ และมุ่งจะโค่นล้ม
แต่นายณัฐวุฒิจะเห่าอะไรก็ไม่มีนัย เพราะชะตากรรมของ 24 แกนนำคนเสื้อแดงอยู่ที่คำสั่งของศาลสถิตยุติธรรม ซึ่งจะตัดสินในวันที่ 9 สิงหาคมนี้
คางคกที่เตรียมจะได้ขึ้นวอ กลับเตรียมที่จะต้องกลับเข้ากรงอีกครั้ง
แกนนำคนเสื้อแดงไม่แตกต่างจากขี้กลากขี้เกลื้อน ถ้าปล่อยไว้จะลาม และพฤติกรรมก็ลามปามหนักขึ้นทุกที
ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย คำร้องการแก้รัฐธรรมนูญเป็นความผิดล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ แกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 24 คน ออกมาปลุกระดมมวลชน คุกคาม ข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอย่างรุนแรง
บางคนประกาศให้มวลชนจับตัวตุลาการบางคนนำเบอร์โทรศัพท์ครอบครัวของศาลรัฐธรรมนูญประกาศบนเวทีชุมนุม และปลุกระดมให้คนเสื้อแดงโทรศัพท์ไปป่วน บางคนตะโกนแจกของลับ โดยไม่นับรวมคำพูดถ่อยสถุลต่างๆ
การอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือแกนนำคนเสื้อแดง ศาลวางเงื่อนไขไว้ชัดเจนแล้ว ห้ามเคลื่อนไหวปลุกระดม สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย แต่แกนนำ นปช.ละเมิดเงื่อนไขซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อำนาจฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติถูกครอบงำด้วยระบอบทักษิณหมดแล้ว แกนนำ นปช.จึงเหิมเกริมกันเต็มที่ จนลืมไปว่า ประเทศนี้ยังมีฝ่ายตุลาการ และไม่ได้อยู่ภายใต้การบงการของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ถ้าไม่มีฝ่ายตุลาการ นายณัฐวุฒิและสมัครพรรคพวกคงจะเหิมเกริมยิ่งกว่านี้ เพราะแม้ยังมีฝ่ายตุลาการ ยังทำตัวกร่างเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปร
การได้รับประกันตัว ถือว่าศาลได้มีเมตตาแล้ว แต่แกนนำคนเสื้อแดงกลับไม่สำนึกในความเมตตา ไม่รู้สึกหลาบจำ และก่อพฤติกรรมผิดซ้ำซาก ปลุกระดม ยุยงส่งเสริมให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย จึงสมควรที่จะได้รับการลงโทษให้เข็ดหลาบ
เพราะปล่อยตัวออกมา สังคมก็ไร้ความสงบสุข และมีแต่ความปั่นป่วนวุ่นวายไม่สิ้นสุด
พฤติกรรมคุกคามข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้แกนนำ นปช.ทั้ง 24 คน กลับเข้าไปนอนในคุกได้
และสังคมกำลังภาวนามือท่วมหัว ขอให้แกนนำ นปช.ถูกส่งกลับไปอยู่ในกรงตามเดิมเถอะ เพราะเอือมต่อพฤตกิรรมก่อการร้ายในสังคมเต็มทีแล้ว
สุดจะทนต่อการคุมคามข่มขู่ใครต่อใครแล้ว
อย่างไรก็ตาม คำสั่งที่จะให้ 24 แกนนำ นปช.กลับเข้ากรง หรือเดินกร่างเที่ยวคุกคามใครต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลซึ่งจะตัดสินชี้ชะตาในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ และต้องปล่อยให้มีอิสระอย่างเต็มที่ ไม่ควรมีฝ่ายใดก้าวก่ายชี้นำ
แม้สังคมอยากจะชี้นำ ขอให้ศาลส่งกลับเข้าคุกก็ตาม
มีความกังวลกันว่า คำสั่งถอนประกันอาจนำไปสู่สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง ทำให้ศาลมีแรงกดดันในการใช้ดุลพินิจ จนหัวโจกเสื้อแดงรอดก็ได้
แต่จะเป็นความกังวลที่เกินเหตุไปหรือไม่ เพราะหากปล่อยให้ 24 แกนนำ นปช.ลอยนวล ปล่อยให้เหิมเกริมต่อไป ปล่อยให้แสดงความเถื่อนจนเหลิง เที่ยวคุกคามข่มขู่ใครต่อใครไม่เลิก ความวุ่นวายทางการเมืองก็ไม่ยุติเสียที ซึ่งศาลก็คงใช้ดุลพินิจประเด็นนี้เหมือนกัน
ถ้าส่ง 24 หัวโจกเสื้อแดงกลับเข้าคุก บ้านเมืองกลับสู่ความสงบ ศาลก็อาจอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งถูกกลุ่มคนเสื้อแดงรังควานอยู่
สั่งถอนประกัน คืนความเป็นธรรมให้ศาลรัฐธรรมนูญ กระบวนการทำลายล้างฝ่ายตุลาการจะแหยงกันไปบ้าง
สำหรับศาลรัฐธรรมนูญ นายณัฐวุฒิสับแหลกเช่นเดียวกับหัวโจกเสื้อแดงทั้งหลาย แต่สำหรับศาลอาญา นายณัฐวุฒิยังไม่บังอาจ เพราะรู้ตัวดีว่า ขืนทำเป็นกร่างจะต้องกลับเข้าคุกทันที แต่ก็ไม่วายใช้ท่าทีลักษณะกดดันและเหน็บแนม
นายณัฐวุฒิกล่าวถึงการไต่สวนถอนประกันนายจตุพร ว่า ศาลคงจะอำนวยความยุติธรรมให้แกนนำคนเสื้อแดง โดยอ้างว่า การออกมาเคลื่อนไหวปลุกระดมกดดันศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมาย
และยังระบุว่า คนเสื้อแดงต้องเจียมเนื้อเจียมตัว เดินตัวรีบตัวงอกันไปหมดเพราะถูกไล่ล่า ถูกดำเนินคดีจับกุมคุมขัง
การพิจารณาจะถอนประกันแกนนำคนเสื้อแดงหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล และไม่ควรมีใครชี้นำใดๆ แต่นายณัฐวุฒิก็ยังปากอยู่ไม่สุข รวมทั้งแสดงท่าทีกดดันกลายๆ ก็ได้
ส่วนการกล่าวอ้างว่า คนเสื้อแดงต้องเจียมเนื้อเจียมตัว เดินตัวรีบตัวงอนั้น อาจเป็นการพูดประชดศาล แต่ไอ้ที่พูดมา มันตรงกันข้ามกับข้อเท็จจริง
เพราะวันนี้คนเสื้อแดงกร่างกันเต็มที่ โตคับบ้านคับเมือง วางก้ามเป็นอันธพาลครองเมืองไปแล้ว แม้แต่กระบวนการยุติธรรมยังไม่เคารพ และมุ่งจะโค่นล้ม
แต่นายณัฐวุฒิจะเห่าอะไรก็ไม่มีนัย เพราะชะตากรรมของ 24 แกนนำคนเสื้อแดงอยู่ที่คำสั่งของศาลสถิตยุติธรรม ซึ่งจะตัดสินในวันที่ 9 สิงหาคมนี้
คางคกที่เตรียมจะได้ขึ้นวอ กลับเตรียมที่จะต้องกลับเข้ากรงอีกครั้ง
แกนนำคนเสื้อแดงไม่แตกต่างจากขี้กลากขี้เกลื้อน ถ้าปล่อยไว้จะลาม และพฤติกรรมก็ลามปามหนักขึ้นทุกที
ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย คำร้องการแก้รัฐธรรมนูญเป็นความผิดล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ แกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 24 คน ออกมาปลุกระดมมวลชน คุกคาม ข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอย่างรุนแรง
บางคนประกาศให้มวลชนจับตัวตุลาการบางคนนำเบอร์โทรศัพท์ครอบครัวของศาลรัฐธรรมนูญประกาศบนเวทีชุมนุม และปลุกระดมให้คนเสื้อแดงโทรศัพท์ไปป่วน บางคนตะโกนแจกของลับ โดยไม่นับรวมคำพูดถ่อยสถุลต่างๆ
การอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือแกนนำคนเสื้อแดง ศาลวางเงื่อนไขไว้ชัดเจนแล้ว ห้ามเคลื่อนไหวปลุกระดม สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย แต่แกนนำ นปช.ละเมิดเงื่อนไขซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อำนาจฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติถูกครอบงำด้วยระบอบทักษิณหมดแล้ว แกนนำ นปช.จึงเหิมเกริมกันเต็มที่ จนลืมไปว่า ประเทศนี้ยังมีฝ่ายตุลาการ และไม่ได้อยู่ภายใต้การบงการของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ถ้าไม่มีฝ่ายตุลาการ นายณัฐวุฒิและสมัครพรรคพวกคงจะเหิมเกริมยิ่งกว่านี้ เพราะแม้ยังมีฝ่ายตุลาการ ยังทำตัวกร่างเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปร
การได้รับประกันตัว ถือว่าศาลได้มีเมตตาแล้ว แต่แกนนำคนเสื้อแดงกลับไม่สำนึกในความเมตตา ไม่รู้สึกหลาบจำ และก่อพฤติกรรมผิดซ้ำซาก ปลุกระดม ยุยงส่งเสริมให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย จึงสมควรที่จะได้รับการลงโทษให้เข็ดหลาบ
เพราะปล่อยตัวออกมา สังคมก็ไร้ความสงบสุข และมีแต่ความปั่นป่วนวุ่นวายไม่สิ้นสุด
พฤติกรรมคุกคามข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้แกนนำ นปช.ทั้ง 24 คน กลับเข้าไปนอนในคุกได้
และสังคมกำลังภาวนามือท่วมหัว ขอให้แกนนำ นปช.ถูกส่งกลับไปอยู่ในกรงตามเดิมเถอะ เพราะเอือมต่อพฤตกิรรมก่อการร้ายในสังคมเต็มทีแล้ว
สุดจะทนต่อการคุมคามข่มขู่ใครต่อใครแล้ว
อย่างไรก็ตาม คำสั่งที่จะให้ 24 แกนนำ นปช.กลับเข้ากรง หรือเดินกร่างเที่ยวคุกคามใครต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลซึ่งจะตัดสินชี้ชะตาในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ และต้องปล่อยให้มีอิสระอย่างเต็มที่ ไม่ควรมีฝ่ายใดก้าวก่ายชี้นำ
แม้สังคมอยากจะชี้นำ ขอให้ศาลส่งกลับเข้าคุกก็ตาม
มีความกังวลกันว่า คำสั่งถอนประกันอาจนำไปสู่สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง ทำให้ศาลมีแรงกดดันในการใช้ดุลพินิจ จนหัวโจกเสื้อแดงรอดก็ได้
แต่จะเป็นความกังวลที่เกินเหตุไปหรือไม่ เพราะหากปล่อยให้ 24 แกนนำ นปช.ลอยนวล ปล่อยให้เหิมเกริมต่อไป ปล่อยให้แสดงความเถื่อนจนเหลิง เที่ยวคุกคามข่มขู่ใครต่อใครไม่เลิก ความวุ่นวายทางการเมืองก็ไม่ยุติเสียที ซึ่งศาลก็คงใช้ดุลพินิจประเด็นนี้เหมือนกัน
ถ้าส่ง 24 หัวโจกเสื้อแดงกลับเข้าคุก บ้านเมืองกลับสู่ความสงบ ศาลก็อาจอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งถูกกลุ่มคนเสื้อแดงรังควานอยู่
สั่งถอนประกัน คืนความเป็นธรรมให้ศาลรัฐธรรมนูญ กระบวนการทำลายล้างฝ่ายตุลาการจะแหยงกันไปบ้าง