ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นไทยรูด 23 จุด จากความกังวลวิกฤตหนี้สเปนปะทุ ดันบาทอ่อนค่าตามยูโร อีกทั้งเจอแรงขายเก็งกำไรจากหุ้นกลุ่มแบงก์ โบรกเกอร์ชี้ต้องจับตาสถานการณ์ หากยังเลวร้ายการรีบาวด์ของดัชนี โอกาสเกิดขึ้นได้ยาก
จากกระแสข่าวเมืองบาเลนเซีย อาจต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลกลางของสเปน และมีผลให้ต้องปรับลดเป้าการเติบโตของจีดีพทั้งในปีและปีหน้า สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก ต่างเทขายหุ้นที่ถืออกมา รวมถึงตลาดหุ้นไทยวานนี้ (23ก.ค.) ปิดที่ระดับ 1,185.11 จุด ลดลง 23.44 จุด หรือ-1.94% มูลค่าการซื้อขาย 28,428 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,194.02จุด และต่ำสุดที่ 1,183.63 จุด
หลักทรัพย์ที่มการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 155 หลักทรัพย์ ลดลง 448 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 109 หลักทรัพย์ โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,096.08 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 1.50 บาท PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,590.71 ล้านบาท ปิดที่ 58.00 บาท ลดลง 2.75 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,540.77 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท ลดลง 14.00 บาท PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,241.73 ล้านบาท ปิดที่ 157.50 บาท ลดลง 8.00 บาท และ SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,068.42 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค พบว่า ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลง 161.55 จุด หรือ 1.86% ปิดที่ 8,508.32 จุด , ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงร่วง 587.33 จุด หรือ 2.99%มาปิดที่ 19,053.5 จุด
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะปรับฐานระยะสั้น เพราะถูกผลกระทบจากปัจจัยลบทั้งในและนอกประเทศ เริ่มตั้งแต่ความกังวลวิกฤตหนี้สเปนปะทุขึ้นอีกครั้ง จึงมีผลต่อตลาดหุ้นในเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทย รวมถึงปัจจัยในประเทศหลังกลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/55 ไปแล้ว จึงเกิดแรงขายระยะสั้นออกมา
ภาพรวม แนวโน้มวันนี้ (24ก.ค.) ประเมินว่า ช่วงสั้นมีโอกาสไซด์เวย์ ยกเว้นกรณีเดียวความกังวลฟากยุโรปคลี่คลายลงได้ ก็อาจทำให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกรีบาวน์ขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตามโดกาสดังกล่าวยังมีน้อย โดยให้แนวรับทีค่ 1,180 จุดเมื่อใกล้บริเวณนี้น่าจะเห็นโอกาสรีบาวน์
ด้าน นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย รายงานว่า เงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 31.76/78 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 31.73/75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับค่าเงินยูโร สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศที่สำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 78.06/08 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับ 78.30/35 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2109/1.2112 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 1.2128/1.2130 ดอลลาร์/ยูโร
จากกระแสข่าวเมืองบาเลนเซีย อาจต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลกลางของสเปน และมีผลให้ต้องปรับลดเป้าการเติบโตของจีดีพทั้งในปีและปีหน้า สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก ต่างเทขายหุ้นที่ถืออกมา รวมถึงตลาดหุ้นไทยวานนี้ (23ก.ค.) ปิดที่ระดับ 1,185.11 จุด ลดลง 23.44 จุด หรือ-1.94% มูลค่าการซื้อขาย 28,428 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,194.02จุด และต่ำสุดที่ 1,183.63 จุด
หลักทรัพย์ที่มการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 155 หลักทรัพย์ ลดลง 448 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 109 หลักทรัพย์ โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,096.08 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 1.50 บาท PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,590.71 ล้านบาท ปิดที่ 58.00 บาท ลดลง 2.75 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,540.77 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท ลดลง 14.00 บาท PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,241.73 ล้านบาท ปิดที่ 157.50 บาท ลดลง 8.00 บาท และ SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,068.42 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค พบว่า ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลง 161.55 จุด หรือ 1.86% ปิดที่ 8,508.32 จุด , ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงร่วง 587.33 จุด หรือ 2.99%มาปิดที่ 19,053.5 จุด
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะปรับฐานระยะสั้น เพราะถูกผลกระทบจากปัจจัยลบทั้งในและนอกประเทศ เริ่มตั้งแต่ความกังวลวิกฤตหนี้สเปนปะทุขึ้นอีกครั้ง จึงมีผลต่อตลาดหุ้นในเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทย รวมถึงปัจจัยในประเทศหลังกลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/55 ไปแล้ว จึงเกิดแรงขายระยะสั้นออกมา
ภาพรวม แนวโน้มวันนี้ (24ก.ค.) ประเมินว่า ช่วงสั้นมีโอกาสไซด์เวย์ ยกเว้นกรณีเดียวความกังวลฟากยุโรปคลี่คลายลงได้ ก็อาจทำให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกรีบาวน์ขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตามโดกาสดังกล่าวยังมีน้อย โดยให้แนวรับทีค่ 1,180 จุดเมื่อใกล้บริเวณนี้น่าจะเห็นโอกาสรีบาวน์
ด้าน นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย รายงานว่า เงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 31.76/78 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 31.73/75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับค่าเงินยูโร สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศที่สำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 78.06/08 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับ 78.30/35 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2109/1.2112 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 1.2128/1.2130 ดอลลาร์/ยูโร