ฃผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้ลงนาม
ซื้อเครื่องตรวจมวลสารและตรวจวัตถุระเบิด “Fido-XT” จำนวน 4 เครื่อง รวม 15 ล้านบาท มาใช้ทดแทนเครื่อง จีที 200 และเตรียมจัดซื้อเครื่องแบบพกพา “Spectrex” จำนวน 40 ชุด รวมงบประมาณกองทัพบก กว่า40 ล้านบาทจากสหรัฐอเมริกา มาให้ในราชการทหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด โดยพล.อ.ประยุทธ์ ขอให้เร่งรายงานผลการใช้ โดยอาจจัดซื้อเพิ่มอีก
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดจีที 200 ใช้ไม่ได้จริงและไม่มีประสิทธิภาพนั้น ตั้งแต่ปี 2553 ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างและมีการทดสอบทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่า เครื่องจีที 200 ไม่สามารถใช้งานได้จริง ทำให้ทางหน่วยงานที่ทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ยกเลิกใช้เครื่องจีที 200 ตั้งแต่ ณ บัดนั้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีทหารบางส่วนที่ยังคงใช้เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดจีที 200 อยู่ เนื่องจากมีความมั่นใจว่า จีที 200 สามารถตรวจหาระเบิดได้จริง และเห็นว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีอุปกรณ์ใดมาทดแทนด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพบกได้อนุมัติการจัดซื้อเครื่องตรวจมวลสารและตรวจวัตถุระเบิด Fido-XT อีก4 เครื่องรวม15ล. และเตรียมจะซื้อแบบพกพา Spectrex 40ชุดรวมงบประมาณ40 ล้านบาทจากอเมริกา เพื่อให้ทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาใช้ทดแทนจีที 200
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 ว่า ไม่มีประสิทธิภาพนั้น ตั้งแต่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องดังกล่าว ทางหน่วยทหารในพื้นที่ก็ไม่ได้มีการนำเครื่องจีที 200 มาใช้อีก
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ทางกองทัพบกจะมีการจัดหาเครื่องตรวจวัตถุระเบิด Fido-XTและ Spectrex มาทดแทนจีที 200 นั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ คงต้องรอให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ชี้แจง แต่คิดว่า ถ้าได้อุปกรณ์มาเสริมในการทำงานในพื้นที่ก็น่าจะเป็นเรื่องดี ทั้งนี้ภายหลังจากที่เราเลิกใช้เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด จีที 200 ก็ยังไม่มีเครื่องมือใดมาทดแทน นอกจากเราจะต้องใช้ความสามารถของทหารในการตรวจหาเท่านั้นa
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่อง จีที 200 นั้น ทหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้ตรวจระเบิดมาตลอด 2 ปี เป็นในลักษณ์ใช้โดยไม่เปิดเผย อีกทั้งกองทัพบกก็ไม่มีคำสั่งห้ามใช้แต่อย่างใด
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ในวันที่ 25-28 พ.ย.นี้ จะมีการประชุมประชาคมนิติวิทยาศาสตร์อาเซียน ซึ่งจะขอหารือถึงความร่วมมือด้านการตรวจหาระเบิดในระยะไกล เนื่องจากจากประเทศไทยถือเป็นประเทศเดียวในกลุ่มอาเซียนที่พบปัญหาการลอบวางระเบิดอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ยังไม่มีเครื่องมือตรวจสอบวัตถุระเบิดระยะไกล เนื่องจากเครื่องจีที 200 ถูกสั่งยกเลิกการใช้งาน ทำให้พบว่าระยะหลังสถิติเหตุระเบิดเพิ่มมากขึ้น เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมาสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ใช้เครื่องจีที 200 ในการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจำกัดพื้นที่ให้แคบลง ไม่ใช่การตรวจหาวัตถุระเบิดโดยตรง โดยยอมรับว่าครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงไม่ควรมีตัวแปรมาก แต่เครื่องจีที 200 กลับพบว่ามีตัวแปรมากไม่ตรงกับหลักทางวิทยาศาสตร์
“เมื่อไม่มีเครื่องมือในการตรวจสอบระเบิดในระยะไกล ทำให้ผู้ก่อเหตุวางระเบิดมากขึ้น แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ปรับตัวโดยเพิ่มความระมัดระวัง ผู้ก่อเหตุจึงเปลี่ยนวิธีจากการลอบวางระเบิดระยะไกล มาใช้วิธีวางอย่างเร่งด่วน โดยจะอาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนผ่านไปแล้วจึงจะวางระเบิด เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดที่อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส” พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าว
มีรายงานว่าก่อนหน้านั้น ผศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นถึงกรณีมีการเสนอให้นำ เครื่องตรวจสารระเบิดไฟโด้ (Fido) และ เครื่องเซเบอร์ 4000 (Sabre4000) มาใช้แทน เครื่องจีที 200 ว่า ก่อนหน้านี้เคยเสนอให้เครื่องมือทั้ง 2 ชนิด มาใช้แทน เครื่องจีที 200 แต่มีใครสนใจ เพราะเครื่องทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ เช่น เครื่องไฟโด้ หลักการทำงานจะอาศัยเซ็นเซอร์ตรวจจับสารระเหยด้วยโพลิเมอร์เรืองแสง ใช้ในการดมสารระเหยที่ปล่อยมาจากวัตถุระเบิด อาทิ ไนโตรเจน ฯลฯ เครื่องชนิดนี้จะเหมาะกับการตรวจจับวัตถุระเบิดที่เห็นชัดเจน ไม่มีการปนเปื้อนวัตถุอื่นใด ราคาราว 4 ล้านบาท
"ส่วนเครื่องเซเบอร์ 4000 จะใช้หลักการทำงานด้วยประจุไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า ไอออน โดยจะยิงไอออนกระทบกับวัตถุต้องสงสัยจนเกิดการแตกตัว จากนั้นจะทำการวัดค่าการแตกตัวของไอออนว่า ตรวจพบสารระเบิดหรือไม่ เครื่องนี้จะเหมาะกับการตรวจจับสารระเบิดที่ปนเปื้อนวัตถุต่าง ๆ ราคาราว 2.5 ล้านบาท ซึ่งเครื่องทั้งสองชนิดได้รับการยอมรับ และนำไปใช้ในกองทัพของนานาประเทศ อีกทั้งเครื่องไฟโด้ ยังได้รับรางวัลนวัตกรรมของกองทัพประจำปี 2548 จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ เอ็มไอที (MIT) ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องดังกล่าวเหมือนกับ เครื่องจีที 200 แต่หากจะตรวจสอบก็ไม่ยาก เพียงแต่ไม่สามารถใช้วิธีเดิม คือ Double Blind Test ได้ เนื่องจากเครื่องไฟโด้และเซเบอร์ เป็นเครื่องตรวจระยะใกล้ ไม่ใช่เครื่องจีที 200 ที่อวดอ้างว่าตรวจระเบิดในระยะไกล ซึ่งไม่มีในโลกนี้" ผศ.เจษฎา กล่าว
จุดด้อยของเครื่องทั้ง 2 ชนิด คือต้องใช้ตรวจสอบวัตถุในระยะประชิด แต่ที่ผ่านมามีการดัดแปลง โดยนำสำลี หรือคัตเตอร์บัดไปป้ายวัตถุต้องสงสัย และนำมาให้เครื่องตรวจสอบ ซึ่งสามารถทำได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการนำเครื่องไปประยุกต์เข้ากับหุ่นยนต์ เพื่อใช้ตรวจสอบหาวัตถุระเบิดในบางพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ ประเทศไทยก็สามารถทำได้ โดยการนำหุ่นยนต์กู้ภัยฝีมือเด็กไทยที่ได้รับรางวัลมาประยุกต์ใช้ จะได้เกิดประโยชน์คุ้มค่าที่สุด โดยไม่ต้องเกี่ยงว่าใช้กับวัตถุระยะไกลไม่ได้
อุปกรณ์ไฮเทคตัวใหม่ ที่เสริมเข้ามาในการตรวจหาวัตถุระเบิด หรือ เครื่องฟีโด้เอ็กที เป็นเครื่องตรวจและค้นหา ซึ่งได้นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา เครื่อง FIDO XT สามารถตรวจหาสารตั้งต้นในการผลิตระเบิด ได้แก่ สารคาร์บอนด์วัตถุระเบิด สารอิออนวัตถุระเบิด เครื่องตรวจชิ้นนี้มีความชัดเจนและแน่นอนในการตรวจมากขึ้น
โดยมีการเรียกชื่อนี้ว่า “เครื่องดมกลิ่นระเบิดอิเล็กทรอนิกส์”
ซื้อเครื่องตรวจมวลสารและตรวจวัตถุระเบิด “Fido-XT” จำนวน 4 เครื่อง รวม 15 ล้านบาท มาใช้ทดแทนเครื่อง จีที 200 และเตรียมจัดซื้อเครื่องแบบพกพา “Spectrex” จำนวน 40 ชุด รวมงบประมาณกองทัพบก กว่า40 ล้านบาทจากสหรัฐอเมริกา มาให้ในราชการทหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด โดยพล.อ.ประยุทธ์ ขอให้เร่งรายงานผลการใช้ โดยอาจจัดซื้อเพิ่มอีก
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดจีที 200 ใช้ไม่ได้จริงและไม่มีประสิทธิภาพนั้น ตั้งแต่ปี 2553 ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างและมีการทดสอบทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่า เครื่องจีที 200 ไม่สามารถใช้งานได้จริง ทำให้ทางหน่วยงานที่ทำงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ยกเลิกใช้เครื่องจีที 200 ตั้งแต่ ณ บัดนั้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีทหารบางส่วนที่ยังคงใช้เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดจีที 200 อยู่ เนื่องจากมีความมั่นใจว่า จีที 200 สามารถตรวจหาระเบิดได้จริง และเห็นว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีอุปกรณ์ใดมาทดแทนด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพบกได้อนุมัติการจัดซื้อเครื่องตรวจมวลสารและตรวจวัตถุระเบิด Fido-XT อีก4 เครื่องรวม15ล. และเตรียมจะซื้อแบบพกพา Spectrex 40ชุดรวมงบประมาณ40 ล้านบาทจากอเมริกา เพื่อให้ทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาใช้ทดแทนจีที 200
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 ว่า ไม่มีประสิทธิภาพนั้น ตั้งแต่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องดังกล่าว ทางหน่วยทหารในพื้นที่ก็ไม่ได้มีการนำเครื่องจีที 200 มาใช้อีก
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ทางกองทัพบกจะมีการจัดหาเครื่องตรวจวัตถุระเบิด Fido-XTและ Spectrex มาทดแทนจีที 200 นั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ คงต้องรอให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ชี้แจง แต่คิดว่า ถ้าได้อุปกรณ์มาเสริมในการทำงานในพื้นที่ก็น่าจะเป็นเรื่องดี ทั้งนี้ภายหลังจากที่เราเลิกใช้เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด จีที 200 ก็ยังไม่มีเครื่องมือใดมาทดแทน นอกจากเราจะต้องใช้ความสามารถของทหารในการตรวจหาเท่านั้นa
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่อง จีที 200 นั้น ทหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้ตรวจระเบิดมาตลอด 2 ปี เป็นในลักษณ์ใช้โดยไม่เปิดเผย อีกทั้งกองทัพบกก็ไม่มีคำสั่งห้ามใช้แต่อย่างใด
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ในวันที่ 25-28 พ.ย.นี้ จะมีการประชุมประชาคมนิติวิทยาศาสตร์อาเซียน ซึ่งจะขอหารือถึงความร่วมมือด้านการตรวจหาระเบิดในระยะไกล เนื่องจากจากประเทศไทยถือเป็นประเทศเดียวในกลุ่มอาเซียนที่พบปัญหาการลอบวางระเบิดอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ยังไม่มีเครื่องมือตรวจสอบวัตถุระเบิดระยะไกล เนื่องจากเครื่องจีที 200 ถูกสั่งยกเลิกการใช้งาน ทำให้พบว่าระยะหลังสถิติเหตุระเบิดเพิ่มมากขึ้น เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมาสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ใช้เครื่องจีที 200 ในการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจำกัดพื้นที่ให้แคบลง ไม่ใช่การตรวจหาวัตถุระเบิดโดยตรง โดยยอมรับว่าครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงไม่ควรมีตัวแปรมาก แต่เครื่องจีที 200 กลับพบว่ามีตัวแปรมากไม่ตรงกับหลักทางวิทยาศาสตร์
“เมื่อไม่มีเครื่องมือในการตรวจสอบระเบิดในระยะไกล ทำให้ผู้ก่อเหตุวางระเบิดมากขึ้น แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ปรับตัวโดยเพิ่มความระมัดระวัง ผู้ก่อเหตุจึงเปลี่ยนวิธีจากการลอบวางระเบิดระยะไกล มาใช้วิธีวางอย่างเร่งด่วน โดยจะอาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนผ่านไปแล้วจึงจะวางระเบิด เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดที่อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส” พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าว
มีรายงานว่าก่อนหน้านั้น ผศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นถึงกรณีมีการเสนอให้นำ เครื่องตรวจสารระเบิดไฟโด้ (Fido) และ เครื่องเซเบอร์ 4000 (Sabre4000) มาใช้แทน เครื่องจีที 200 ว่า ก่อนหน้านี้เคยเสนอให้เครื่องมือทั้ง 2 ชนิด มาใช้แทน เครื่องจีที 200 แต่มีใครสนใจ เพราะเครื่องทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ เช่น เครื่องไฟโด้ หลักการทำงานจะอาศัยเซ็นเซอร์ตรวจจับสารระเหยด้วยโพลิเมอร์เรืองแสง ใช้ในการดมสารระเหยที่ปล่อยมาจากวัตถุระเบิด อาทิ ไนโตรเจน ฯลฯ เครื่องชนิดนี้จะเหมาะกับการตรวจจับวัตถุระเบิดที่เห็นชัดเจน ไม่มีการปนเปื้อนวัตถุอื่นใด ราคาราว 4 ล้านบาท
"ส่วนเครื่องเซเบอร์ 4000 จะใช้หลักการทำงานด้วยประจุไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า ไอออน โดยจะยิงไอออนกระทบกับวัตถุต้องสงสัยจนเกิดการแตกตัว จากนั้นจะทำการวัดค่าการแตกตัวของไอออนว่า ตรวจพบสารระเบิดหรือไม่ เครื่องนี้จะเหมาะกับการตรวจจับสารระเบิดที่ปนเปื้อนวัตถุต่าง ๆ ราคาราว 2.5 ล้านบาท ซึ่งเครื่องทั้งสองชนิดได้รับการยอมรับ และนำไปใช้ในกองทัพของนานาประเทศ อีกทั้งเครื่องไฟโด้ ยังได้รับรางวัลนวัตกรรมของกองทัพประจำปี 2548 จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ เอ็มไอที (MIT) ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องดังกล่าวเหมือนกับ เครื่องจีที 200 แต่หากจะตรวจสอบก็ไม่ยาก เพียงแต่ไม่สามารถใช้วิธีเดิม คือ Double Blind Test ได้ เนื่องจากเครื่องไฟโด้และเซเบอร์ เป็นเครื่องตรวจระยะใกล้ ไม่ใช่เครื่องจีที 200 ที่อวดอ้างว่าตรวจระเบิดในระยะไกล ซึ่งไม่มีในโลกนี้" ผศ.เจษฎา กล่าว
จุดด้อยของเครื่องทั้ง 2 ชนิด คือต้องใช้ตรวจสอบวัตถุในระยะประชิด แต่ที่ผ่านมามีการดัดแปลง โดยนำสำลี หรือคัตเตอร์บัดไปป้ายวัตถุต้องสงสัย และนำมาให้เครื่องตรวจสอบ ซึ่งสามารถทำได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการนำเครื่องไปประยุกต์เข้ากับหุ่นยนต์ เพื่อใช้ตรวจสอบหาวัตถุระเบิดในบางพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ ประเทศไทยก็สามารถทำได้ โดยการนำหุ่นยนต์กู้ภัยฝีมือเด็กไทยที่ได้รับรางวัลมาประยุกต์ใช้ จะได้เกิดประโยชน์คุ้มค่าที่สุด โดยไม่ต้องเกี่ยงว่าใช้กับวัตถุระยะไกลไม่ได้
อุปกรณ์ไฮเทคตัวใหม่ ที่เสริมเข้ามาในการตรวจหาวัตถุระเบิด หรือ เครื่องฟีโด้เอ็กที เป็นเครื่องตรวจและค้นหา ซึ่งได้นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา เครื่อง FIDO XT สามารถตรวจหาสารตั้งต้นในการผลิตระเบิด ได้แก่ สารคาร์บอนด์วัตถุระเบิด สารอิออนวัตถุระเบิด เครื่องตรวจชิ้นนี้มีความชัดเจนและแน่นอนในการตรวจมากขึ้น
โดยมีการเรียกชื่อนี้ว่า “เครื่องดมกลิ่นระเบิดอิเล็กทรอนิกส์”
