xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ควง “บิ๊กอ๊อด” ลงใต้สั่งล้างบางยาเสพติดแก้ปัญหาภัยแทรกซ้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - ผบ.ทบ.และรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่ประชุมติดตามการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งภัยแทรกซ้อนต่างๆ และปัญหายาเสพติด

เวลา 10.45 น.วันนี้ (14 มี.ค.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ประชุมติดตามการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้, ติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัญหายาเสพติด น้ำมันเถื่อน สินค้าหนีภาษี ที่เป็นภัยแทรกซ้อน

โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) นายประมุข ละมุล รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รองเลขาธิการ ศอ.บต.) แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ที่มี่สวนเกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับและเข้าร่วมในการประชุม

สำหรับการประชุมห้ามบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ สื่อมวลชนเข้าไปรับฟังเนื้อหาของการประชุม ซึ่งภายหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) พร้อมคณะ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยม และพบปะชาวบ้านในพื้นที่ ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ต่อไป ก่อนที่จะเดินทางกลับในช่วงบ่าย

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) กล่าวว่า ตนเอง พร้อมคณะ เดินทางลงมาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 สำหรับในเรื่องที่มีการประชุมในครั้งนี้ ทางผู้บัญชาการทหารบกได้พูดถึงภัยแทรกซ้อนต่างๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และตนเองก็ได้มีการติดตามในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งตนเองก็ได้เน้นย้ำกับทุกๆ ฝ่าย ให้มีการติดตามในเรื่องนี้เป็นกรณีเศษ และให้มีการตรวจสอบข้อมูลในเรื่องนี้ให้มีความชัดเจน และตนเองก็ได้สั่งการไปยังผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ดำเนินการในเรื่องของภัยแทรกซ้อนให้ชัดเจน

ซึ่งทางผู้บัญชาการทหารบก ก็ได้ชี้เป้าหมายสำคัญๆ ให้ทางตำรวจ ได้รับทราบข้อมูลว่าในแต่ละพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาของยาเสพติด หรือกลุ่มที่เชื่อมโยงกับยาเสพติด อยู่ตรงไหน อย่างไร และให้มีการดำเนินการได้ทันที ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีการหารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า จะมีการดำเนินการกวาดล้างยาเสพติดกันอย่างเต็มที่ ควบคู่กับการดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาภัยแทรกซ้อนต่างๆ

สำหรับปัญหาภัยแทรกซ้อนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีความเชื่อมโยงกับต่างประเทศหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ล้วงลึกถึงต่างประเทศ ต้องรอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ก่อน แต่ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็รู้ว่าในประเทศอยู่ตรงจุดไหน อย่างไร ตนเองก็ขอให้ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ได้เข้าไปดำเนินการในส่วนนี้ก่อน

ส่วนในเรื่องเงินสนับสนุนที่นำมาใช้ในการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมาจากต่างประเทศหรือไม่นั้น ยังไม่มีการพูดถึงในเรื่องนี้ ในส่วนผู้ที่มีอิทธิพล หรือนักการเมือง ในพื้นที่เข้าไปมีส่วนร่วมในขบวนการต่างๆ ไม่ว่าการก่อเหตุรุนแรง หรือ ยาเสพติด ในเรื่องนี้เองทางตำรวจก็มีข้อมูลต่างๆ อยู่แล้ว ว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ในระดับแกนนำ ได้รับการสนับสนุนจากบุคลที่ค้ายาเสพติด เป็นใครอย่างไร ซึ่งทางตำรวจก็จะได้มีการดำเนินการเชิงรุกในการปฏิบัติการต่อไปหลังจากนี้

ส่วนในเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ขณะนี้มีการต่ออายุการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปอีก 3 เดือน ซึ่งจากการประชุมของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไม่มีหน่วยงานไหน ที่จะขอให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ได้ใช้ยุทธศาสตร์ใหม่ในการดำเนินการใหม่ในพื้นที่ภาคใต้ โดนการบูรณาการทุกหน่วยงาน รวมทั้งใช้ยุทธศาสตร์ให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะฉะนั้นเมื่อมีการเริ่มใช้ยุทธ์ศาสตร์แล้ว พระราชกำหนดจะมีความหมายมาก หลังจาก 3 เดือนนี้ไป ก็ต้องมีการพิจารณากันอีกครั้ง ว่า เมื่อใช้ยุทธ์ศาสตร์ในพระราชกำหนดแล้ว จะได้ผลอย่างไรบ้าง จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นหรือไม่อย่างไร


พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง)

กำลังโหลดความคิดเห็น