“ประยุทธ์” เข้มปัญหาใต้ต่างชาติห้ามจุ้น รับแก๊งยาเสพติด-ค้าของเถื่อนเกี่ยวข้องโจรใต้ ระบุการกวาดล้างยาเสพติดในช่วงนี้ทำสถานการณ์แรงขึ้น หงุดหงิดถูกสื่อจี้ถาม พ.ร.บ.ปรองดอง นิรโทษกรรมให้ “นช.แม้ว” ยันไม่รู้เรื่อง ส่วนการแก้ พ.ร.บ.กลาโหมก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (14 มี.ค.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าคดีความมั่นคง แผนพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมอบนโยบาย โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 รายงานสถานการณ์
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ขยายเวลาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 3 เดือนว่าว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังมีความจำเป็นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารมีความเสี่ยงในการปฏิบัติหน้าที่ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมยืนยันว่า ยุทธศาสตร์การปฏิบัติงานภาคใต้นั้น มีความครบถ้วน แต่หลายหน่วยงานขับเคลื่อนไปไม่พร้อมเพรียงกัน จึงต้องทำความเข้าใจ และหารือร่วมกันเพื่อกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน
พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่า ปัญหาชายแดนภาคใต้จะไม่ยอมให้ประเทศอื่นเข้ามาแทรกแซงโดยเด็ดขาด กองทัพต้องปกป้องประเทศอย่างดีที่สุด
ผู้บัญชาการทหารบกยอมรับด้วยว่า ปัญหายาเสพติดและค้าของเถื่อน เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รุนแรงขึ้น การโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐอย่างหนักในช่วงนี้ สืบเนื่องมาจากการกวาดล้างจับกุมยาเสพติด
“ไม่ต้องระบุว่าขบวนการค้าเสพติดเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อความไม่สงบมากน้อยแค่ไหน แต่ทั้งสองอย่างมีความเกี่ยวข้อยึดโยงกัน และทำให้การแก้ไขปัญหาไฟใต้มีความยากขึ้น”
ผู้สื่อข่าวพยายามถามความเห็นเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และได้กลับประเทศโดยไม่ต้องถูกลงโทษ พล.อ.ประยุทธ์ตอบอย่างมีอารมณ์ว่า ไม่ทราบเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองและการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สื่อมวลชนเขียนกันไปเอง และมาถามตนมากเกินไป และทหารก็ไม่มีอำนาจเช่นนั้น และหากทุกฝ่ายยอมรับกฎหมาย บ้านเมืองก็จะสงบ ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหมนั้น ทุกอย่างทำตามกระบวนการ ซึ่งตนก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด