xs
xsm
sm
md
lg

รองนายกฯกำชับ จนท.คุมเข้มโดยเฉพาะจุดโซนนิ่ง - ผบ.ทบ.ขอความร่วมมือชาวยะลาเป็นหูเป็นตาช่วย จนท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ควง ผบ.ทบ.ลงพื้นที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ยะลา พร้อมประชุมติดตามเหตุคาร์บอมบ์ 2 จุด ใจกลางเมืองยะลา วอนประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้มากกว่านี้ ส่วนคดีนั้น รู้ตัวคนร้ายแล้วว่าเป็นกลุ่มไหน

เวลา 14.00 น.วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อประชุมติดตามการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และติดตามความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ 2 จุด บริเวณถนนรวมมิตร ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา และ เหตุคาร์บอมบ์ บริเวณชั้นจอดรถ B3 ของโรงแรม ลี การ์เดนส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 31 มี.ค.55 ที่ผ่านมา

โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคภาคที่ 4 พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชุชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และข้าราชการฝ่ายพลเรือน ที่มีสวนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมในการประชุม ซึ่งบรรยากาศในการประชุมเป็นไปอย่างตึงเครียด โดยเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้คณะสื่อมวลชนเข้าไปรับฟังเนื้อหาของการประชุม

หลังจากนั้น เวลาประมาณ 15.30 น.พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ ได้เดินทางไปยังห้องไอ.ซี.ยู.และห้องศัลยกรรมชาย, ห้องศัลยกรรมหญิง เพื่อเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บ และให้กำลังใจแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุคาร์บอมบ์ 2 จุด ใจกลางเมืองยะลา เมื่อเที่ยงของวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ยังคงนอนพักรักษาตัว อีกจำนวน 27 ราย

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) ได้ให้สัมภาษณ์ หลังจากการประชุม ว่า ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวด ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ และร่วมสร้างความเป็นเอกภาพให้เกิดขึ้นในการร่วมกันกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเรื่องโซนนิ่ง ที่ทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกันเป็นพิเศษ รวมทั้งการจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว สามารถทำงานได้อย่างทันท่วงที เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นในแต่ละครั้ง

สำหรับในพื้นที่ของจังหวัดยะลา ด้านความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา จะมีการจัดงานประเพณีสงกรานต์ การทำบุญร่วมกันทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน ในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน หลังเกิดสถานการณ์

ส่วนด้านความมั่นคงในพื้นที่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า การดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยปกติจะมีการแบ่งหน้าที่ดูแลพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกันอย่างชัดเจน ทั้งในเขตเมือง และในเขตพื้นที่รอบนอก และทางเจ้าหน้าที่ได้มีการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดมาตลอดเวลา แต่ผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่พยามอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ เข้ามาสร้างสถานการณ์ความไม่สงบเพื่อก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ และพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ตลอดเวลา เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพ และความต้องการในการแบ่งแยกดินแดน การดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย ต้องมีความเข้มงวดเหมือนเดิม

“การที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ต้องการมีความเป็นอยู่อย่างเสรี และปลอดภัยในพื้นที่นั้น ต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และต้องช่วยกันในการสอดส่องดูแล ความผิดปกติ ซึ่งบางครั้งทางเจ้าหน้าที่นั้น ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง การเฝ้าระวัง การตรวจยานพาหนะ การขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นการป้องกันและลดความรุนแรงในพื้นที่ ในส่วนของคดีนั้น วันนี้ ทางเจ้าหน้าที่รู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้แล้วว่าเป็นใคร กลุ่มไหน ก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามความคืบหน้าของคดีตามกระบวนการกฎหมายต่อไป”

ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวต่ออีกว่า ส่วนกรณีการพูดคุยเจรจากับฝ่ายตรงข้ามนั้น ตามกระบวนการกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ไม่ให้มีการเปิดการเจราจาต่อรองระหว่างผู้ก่อการร้ายกับฝ่ายรัฐ ตามปกตินั้นการเจราจาต้องมีการต่อรอง จะเอาอะไรไปต่อรอง ทางฝ่ายตรงข้ามพยายามเรียกร้องการแบ่งแยกดินแดน เขตปกครองพิเศษ และสิ่งผิดกฎหมาย รัฐไม่สามารถที่จะให้ได้ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ดังนั้นวิธีการในการลดความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น คือการนำการพัฒนาเข้าไปยังพื้นที่ เพื่อก่อให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ การศึกษา และความอยู่ดีมีสุขของพี่น้องประชาชน






ยุคพี่แม้ว-น้องปูทำใต้มิคสัญญี !!
ยุคพี่แม้ว-น้องปูทำใต้มิคสัญญี !!
หากย้อนกลับไป เหมือนกับการบังเอิญว่า “ทั้งพี่ทั้งน้อง” ได้ทำลายภาคใต้จนย่อยยับ จากยุค ทักษิณ ชินวัตร ก็เกิดเหตุ “ปล้นค่ายทหาร” กองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อ 4 ม.ค.47 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแก้ปัญหาโจรใต้แบบใช้การตลาด “ขี้โม้แอ็กอาร์ต” นำหน้า เหมือนกับการทำสงครามยาเสพติดแบบเหวี่ยงแหเป็นข่าวสร้างคะแนนเสียง แต่สำหรับชายแดนใต้ที่ “อ่อนไหว” ซับซ้อน ยิ่งมาเจอคำว่า “โจรกระจอก” เข้าไปอีก มันก็พิสูจน์ให้เห็นเป็นตรงกันข้าม กลายเป็น ทักษิณ นั่นแหละ “โคตรกระจอก” ยิ่งกว่า และจากนั้นก็ “เละ” มาจนถึงทุกวันนี้ 00 มาถึงยุค “ปูนิ่ม” ผ่านมา 7-8 เดือนยิ่งเลวร้ายสุดๆ เพราะนอกจากเธอจะเป็นได้แค่ “พริตตี้” ที่แต่งตัวเฉิดฉายไปโชว์ตามงานอีเว้นท์แล้ว นอกนั้น “ห่วยแตก” ชนิดที่หาคำมาบรรยายเปรียบเทียบไม่ได้เลย ไม่เคยมีการมอบนโยบาย ไม่มีการประชุมเชิงยุทธศาสตร์ให้กับฝ่ายความมั่นคงในฐานะที่ตัวเองเป็น ผอ.กอ.รมน.โดยตำแหน่ง อีกทั้งไม่เคยเยื้องกรายลงไปในพื้นที่แม้แต่ครั้งเดียวหลังจากถูก “เชิด” เป็นนายกฯ และในที่สุดก็เกิดเหตุบอมบ์กลางเมืองหาดใหญ่จนพินาศยับในยุคนี้ซ้ำเติมเข้าไปอีก หากจะลำดับย้อนอดีตจนถึงปัจจุบัน จาก “พี่มาถึงน้อง” นาทีนี้ไม่รู้ว่าเคยจะเป็นคนสร้างความ “ฉิบหาย” ได้มากกว่ากัน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น