ASTVผู้จัดการรายวัน -ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารธอส.เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย พบค่าดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่มจากไตรมาสแรก1.5 จากเดิมค่าดัชนี้55.8 ด้านดัชนี้ความคาดหวัง6เดือนข้างหน้า อยู่ที่67.9 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว0.9
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย จากจำนวน 166 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 30 บริษัท และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนจำนวน 136 บริษัท ประจำไตรมาส 2/55 โดยในค่ากลางของดัชนีเท่ากับ 50
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลฯ กล่าวว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในภาวะปัจจุบันมีค่าเท่ากับ 55.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 1.5 จากเดิมที่มีค่าดัชนีอยู่ที่ 54.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน พบว่าค่าดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5 เช่นกัน
สำหรับดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 67.9 ปรับเพิ่มจากไตรมาสที่แล้ว 0.9 จากเดิม 67.0 และปรับตัวลดลง 0.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 54 จากเดิมอยู่ที่ 68.1 โดยในส่วนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 73.5 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 1.8 จากเดิมอยู่ที่ 71.7 ในส่วนของบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มีค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 62.3 ซึ่งเท่ากับดัชนีของไตรมาส 1 ที่ผ่านมา
ส่วนค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า (ถึงเดือนธันวาคม 55 โดยเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน 55 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำแบบสำรวจความเชื่อมั่น) พบว่า ภาพรวมสูงกว่าค่ากลางและมีค่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความคาดหวังที่ดีขึ้นในอนาคต แต่ทั้งนี้ยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ การเมือง อุทกภัย ค่าแรงขั้นต่ำและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ส่งผลให้ผู้ประกอบส่วนมากหันมาใช้เทคโนโลยี Pre-cast เพิ่มมากขึ้น
นายสัมมา กล่าวอีกว่า ส่วนผลสำรวจดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 3 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ พบว่า ในช่วงครึ่งแรกปี 55 (เก็บข้อมูลครึ่งแรกปีในเดือนมีนาคม - เมษายน 55 ช่วงครึ่งหลังปีในเดือนกันยายนถึงตุลาคม โดยให้มีค่ากลางเท่ากับ 100) ได้ทำการสุ่มตัวอย่างของโครงการบ้านจัดสรรสร้างใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย จำนวน 245 ตัวอย่าง แบบเจาะจงบ้านเดี่ยว 2 ชั้นและทาวน์เฮาส์ 2-3 ชั้น พบว่า ในช่วงครึ่งแรกปี 55 ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลทั้ง 3 จังหวัด อยู่ที่ 107.28 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.22% จากเดิม 104.95 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.34% จากเดิม 103.82 โดยราคาบ้านเดี่ยวในเขตกรุงเทพฯปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.07% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 3.29% ด้านจังหวัดปริมณฑลอีก 3 จังหวัดราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.35% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 3.38%
ส่วนดัชนีราคาทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 3 จังหวัดอยู่ที่ 111.88 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.38% โดยราคาทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.84% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.89% ส่วนใน 3 จังหวัดปริมณฑล ราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.09% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.51%
ด้านดัชนีห้องชุดในทุกระดับราคาของครึ่งแรกปี 55 ภาพรวมมีการรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มราคา.
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย จากจำนวน 166 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 30 บริษัท และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนจำนวน 136 บริษัท ประจำไตรมาส 2/55 โดยในค่ากลางของดัชนีเท่ากับ 50
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลฯ กล่าวว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในภาวะปัจจุบันมีค่าเท่ากับ 55.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 1.5 จากเดิมที่มีค่าดัชนีอยู่ที่ 54.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน พบว่าค่าดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5 เช่นกัน
สำหรับดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 67.9 ปรับเพิ่มจากไตรมาสที่แล้ว 0.9 จากเดิม 67.0 และปรับตัวลดลง 0.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 54 จากเดิมอยู่ที่ 68.1 โดยในส่วนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 73.5 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 1.8 จากเดิมอยู่ที่ 71.7 ในส่วนของบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มีค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 62.3 ซึ่งเท่ากับดัชนีของไตรมาส 1 ที่ผ่านมา
ส่วนค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า (ถึงเดือนธันวาคม 55 โดยเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน 55 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำแบบสำรวจความเชื่อมั่น) พบว่า ภาพรวมสูงกว่าค่ากลางและมีค่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความคาดหวังที่ดีขึ้นในอนาคต แต่ทั้งนี้ยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ การเมือง อุทกภัย ค่าแรงขั้นต่ำและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ส่งผลให้ผู้ประกอบส่วนมากหันมาใช้เทคโนโลยี Pre-cast เพิ่มมากขึ้น
นายสัมมา กล่าวอีกว่า ส่วนผลสำรวจดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 3 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ พบว่า ในช่วงครึ่งแรกปี 55 (เก็บข้อมูลครึ่งแรกปีในเดือนมีนาคม - เมษายน 55 ช่วงครึ่งหลังปีในเดือนกันยายนถึงตุลาคม โดยให้มีค่ากลางเท่ากับ 100) ได้ทำการสุ่มตัวอย่างของโครงการบ้านจัดสรรสร้างใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย จำนวน 245 ตัวอย่าง แบบเจาะจงบ้านเดี่ยว 2 ชั้นและทาวน์เฮาส์ 2-3 ชั้น พบว่า ในช่วงครึ่งแรกปี 55 ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลทั้ง 3 จังหวัด อยู่ที่ 107.28 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.22% จากเดิม 104.95 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.34% จากเดิม 103.82 โดยราคาบ้านเดี่ยวในเขตกรุงเทพฯปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.07% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 3.29% ด้านจังหวัดปริมณฑลอีก 3 จังหวัดราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.35% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 3.38%
ส่วนดัชนีราคาทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 3 จังหวัดอยู่ที่ 111.88 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.38% โดยราคาทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.84% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.89% ส่วนใน 3 จังหวัดปริมณฑล ราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งหลังปี 54 ประมาณ 2.09% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.51%
ด้านดัชนีห้องชุดในทุกระดับราคาของครึ่งแรกปี 55 ภาพรวมมีการรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มราคา.
