วันก่อนผู้เฒ่าจิ๋วออกมาอ้อแอ้ เอ้ออ้า ให้ประชาชนรับรู้ว่าตัวเองยังเป็นซากปรักหักพังของการเมืองน้ำเน่า ประกาศอย่างหน้าซื่อว่าประเทศไทยยังไม่เคยมีประชาธิปไตยแท้จริงตั้งแต่ 2475! ที่เป็นมาคืออะไรก็ไม่รู้ ถูลู่ถูกังตามยถากรรม
เราหลอกตัวเองมาโดยตลอดว่าการเลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตย ประชาชนเป็นเจ้าของสิทธิเลือกผู้แทน และให้เลือกผู้บริหารจัดการรัฐบาล ไม่มีการเลือกตั้งผู้นำโดยตรง บางครั้งมีคนนอกเลือกผู้นำแบบยัดเยียดมาให้ด้วยซ้ำ
สิทธิเลือกตั้ง กาเบอร์ในคูหา เป็นเสียงที่ถูกนักเลือกตั้งใช้เงินซื้อ ตามอัตราการแข่งขันจนถึงคืนหมาหอน รู้กันชัดๆ แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีอำนาจตามกฎหมายกลับเป็นผู้รู้ช้า รู้น้อยที่สุด เมื่อรู้แล้วก็ทำปากว่าตาขยิบ ไม่ทำอะไร
ปล่อยนักการเมืองซื้อเสียงเข้าสภา สร้างปัญหาทุจริต คอร์รัปชันต่อเนื่อง!
การเมืองระบอบผู้แทนจึงล้มเหลว เสแสร้งยอมรับเมื่อไม่มีทางเลือก! ถ้าไม่เลือกตั้งก็เป็นรัฐบาลจากคณะรัฐประหาร โกงกินกันทุกยุค มากน้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับความโลภ! ความเข้มแข็งของผู้รักษากฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม
ประชาธิปไตยกำมะลอ ซื้อเสียงสะบั้นหั่นแหลก แหกตาประชาชน จึงเป็นไปตามอย่างที่ผู้เฒ่าจิ๋วว่าไว้ นั่นรวมถึงยุคตัวเองเป็นนายกฯ ลดค่าเงินบาทจนบ้านเมืองแทบพินาศล่มจม จากนั้นก็เซ้งพรรคให้เหลี่ยมเล่ห์เพิ่มดีกรีความอุบาทว์ในวงจรการเมืองน้ำเน่า เปิดช่องเข้าสู่ยุคของนโยบายการทุจริตแบบมีเชิงชั่วร้าย
นั่นเป็นยุคพี่ชาย มอบมรดกบาปให้แก่แผ่นดินด้านการขายทรัพย์สินให้ต่างชาติ เช่น วงโคจรดาวเทียม ธุรกิจสื่อสาร สัมปทานสำรวจและผลิตปิโตรเลียม มีมหกรรมโกงทั้งโคตรลือลั่นระดับหมื่นๆ ล้าน จนสิ้นอำนาจโดยการรัฐประหาร
มรดกอุบาทว์ที่สุดคือการสร้างกองกำลังมวลชนเผ่าเสื้อแดงจากกากเดนคนไร้ที่พึ่งทางใจ พวกหิวเงิน อ้างว่ามีเครือข่ายกระจายทั้งแผ่นดิน ทั้งๆ ที่มีไม่กี่หมื่นคน สร้างความน่ากลัวให้วิญญูชนผ่านอาชญากรรมปล้นสะดม เผาเมือง ฆ่าทหาร
ความเลวร้ายสารพัดไม่เคยเกิดในยุคใด ก็มีภายใต้อิทธิพลชั่วของเหลี่ยมร้าย ฝังลึกเครือข่ายในแทบทุกองค์กร วงการข้าราชการเหลือเพียงกองทัพ และตุลาการบางส่วน! ตำรวจ อัยการ และองค์กรอิสระกำมะลออยู่ใต้อำนาจเหลี่ยม
พฤติกรรมถ่อย เถื่อน สถุล ตามคำพรรณนาของผู้แทนชุดแดงในสภา นับแต่ละวันยิ่งยโสโอหัง ดิบ ไม่เคารพกฎหมาย ข่มขู่คุกคามประชาชนทั่วไป ลามไปถึงขั้นจะจับกุม เอาชีวิตตุลาการซึ่งตัดสินคดีความไม่ถูกใจแกนอักษะแห่งความชั่วร้าย ซึ่งมี 3 ขา คือพรรคเพื่อเหลี่ยม มวลชนเผ่าเสื้อแดง และกองกำลังติดอาวุธ
รัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าใน และสภาผู้แทนฯ ทำทุกอย่างเพื่อเหลี่ยมร้าย เป้าหมายหลักคือต้องให้เหลี่ยมกลับบ้านแบบเท่ๆ คืนทรัพย์สิน จากนั้นจะขอเป็นผู้ตัดสินอนาคตประเทศ อ้างคนกาเบอร์ 15 ล้านเสียงเป็นฐานคุยทับถมคนอื่นๆ
เอาเงินภาษีประชาชน เงินกู้ไปปรนเปรอช่วยเหลืออาชญากรให้พ้นจากการจองจำในคุก สภาผู้แทนฯ มีแต่ขี้คุก เดนตะราง พวกหลังลาย ผู้ทรงเกล็ด! การคุกคามห่ามเถื่อนของชนเผ่าเสื้อแดงไม่มีใครห้ามปราม แม่นางโพยทำบื้อตาใส
พร่ำท่องแต่ว่าทุกฝ่ายมีสิทธิแสดงออก แต่ไม่ต้องละเมิดสิทธิของผู้อื่น!
เมื่อตำรวจไม่ทำอะไร พวกแดงเถื่อนก็ยิ่งได้ใจ ข่มขู่ฝ่ายอื่นๆ ยิ่งไม่มีใครตอบโต้ ก็ยิ่งลำพอง นึกว่าขบวนการเสื้อแดงเป็นใหญ่ในแผ่นดิน! ผู้นำกองทัพพูดย้ำซ้ำซาก “การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง” แต่เพิกเฉยเมื่อสถาบันหลักถูกย่ำยี
เมื่อตำรวจไม่รักษากฎหมาย อัยการรับใช้อำนาจนอกระบบ กองทัพมีผู้นำบางส่วนอยู่ในประเภท “ไม่สู้แล้วรวย” ความเฮงซวยก็ตกอยู่กับบ้านเมืองใต้อำนาจเหลี่ยมร้าย ให้น้องสาวแอ๊บแบ๊วชอบโชว์ตัวเมืองนอกเป็นผู้นำกำมะลอ
เมื่อเราไม่เคยมีประชาธิปไตยแท้จริง แนวโน้มว่าเราเป็นอนาธิปไตยเกินครึ่งใบแล้วโดยพฤติกรรมเถื่อน ย่ำยีกฎหมายของขบวนการเสื้อแดง มีนักวิชาการพวกรับจ้างสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยดังเป็นแนวร่วมของความอุบาทว์วิปริต
เรากำลังก้าวสู่สภาพของอนาธิปไตย มีมิคสัญญีเป็นทางเลือก ก่อนเกิดสงครามกลางเมืองนองเลือด ถ้าไม่มีปัจจัยอะไรสกัดกั้นแนวโน้มของความเป็นรัฐล้มเหลวโดยสมบูรณ์ด้วยน้ำมือผู้นำกำมะลอ ใช้ความโง่หน้าด้านเป็นอาวุธสำคัญ
เราเห็นศาลรัฐธรรมนูญได้รับการคุ้มครองอย่างแข็งขันโดยกองกำลังพลซึ่งเป็นอดีตนักรบกองโจรของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ออกมาปกป้องสถาบันกษัตริย์ ขณะที่กองทัพไทยเพิกเฉย! แค่นี้ก็ทำให้ชาวบ้านรู้สึกสิ้นหวัง
เมื่อบรรยากาศของอนาธิปไตยเข้มข้น โดยมีพรรคเพื่อเหลี่ยม ขบวนการเสื้อแดงเป็นตัวเร่งในการทำลายศาล ล้มล้างรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไร ทางเลือกสุดท้ายคือประชาชนต้องพึ่งพาตนเอง ด้วยการจัดตั้งกองกำลังเช่นกัน
เราจะเป็นเหมือนฟิลิปปินส์ยุคมาร์กอส หรือประเทศในแอฟริกา ละตินอเมริกา ผู้มีอิทธิพลมีกองกำลัง กองทัพส่วนตัว อำนาจรัฐไร้ความหมาย
เมื่อนักการเมืองมุ่งเร่งขายชาติ เหมือนองค์กรอาชญากรรม ชาวบ้านย่อมมีสิทธิปกป้องตัวเองภายใต้กฎธรรมชาติ ไม่มีใครยอมใครอีกต่อไป! ทางเลือกของอนาคตประเทศคือ “ยอมให้เสื้อแดงข่มขู่ หรือร่วมมือกันต่อสู้ระบอบทักษิณ”
เราหลอกตัวเองมาโดยตลอดว่าการเลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตย ประชาชนเป็นเจ้าของสิทธิเลือกผู้แทน และให้เลือกผู้บริหารจัดการรัฐบาล ไม่มีการเลือกตั้งผู้นำโดยตรง บางครั้งมีคนนอกเลือกผู้นำแบบยัดเยียดมาให้ด้วยซ้ำ
สิทธิเลือกตั้ง กาเบอร์ในคูหา เป็นเสียงที่ถูกนักเลือกตั้งใช้เงินซื้อ ตามอัตราการแข่งขันจนถึงคืนหมาหอน รู้กันชัดๆ แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีอำนาจตามกฎหมายกลับเป็นผู้รู้ช้า รู้น้อยที่สุด เมื่อรู้แล้วก็ทำปากว่าตาขยิบ ไม่ทำอะไร
ปล่อยนักการเมืองซื้อเสียงเข้าสภา สร้างปัญหาทุจริต คอร์รัปชันต่อเนื่อง!
การเมืองระบอบผู้แทนจึงล้มเหลว เสแสร้งยอมรับเมื่อไม่มีทางเลือก! ถ้าไม่เลือกตั้งก็เป็นรัฐบาลจากคณะรัฐประหาร โกงกินกันทุกยุค มากน้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับความโลภ! ความเข้มแข็งของผู้รักษากฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม
ประชาธิปไตยกำมะลอ ซื้อเสียงสะบั้นหั่นแหลก แหกตาประชาชน จึงเป็นไปตามอย่างที่ผู้เฒ่าจิ๋วว่าไว้ นั่นรวมถึงยุคตัวเองเป็นนายกฯ ลดค่าเงินบาทจนบ้านเมืองแทบพินาศล่มจม จากนั้นก็เซ้งพรรคให้เหลี่ยมเล่ห์เพิ่มดีกรีความอุบาทว์ในวงจรการเมืองน้ำเน่า เปิดช่องเข้าสู่ยุคของนโยบายการทุจริตแบบมีเชิงชั่วร้าย
นั่นเป็นยุคพี่ชาย มอบมรดกบาปให้แก่แผ่นดินด้านการขายทรัพย์สินให้ต่างชาติ เช่น วงโคจรดาวเทียม ธุรกิจสื่อสาร สัมปทานสำรวจและผลิตปิโตรเลียม มีมหกรรมโกงทั้งโคตรลือลั่นระดับหมื่นๆ ล้าน จนสิ้นอำนาจโดยการรัฐประหาร
มรดกอุบาทว์ที่สุดคือการสร้างกองกำลังมวลชนเผ่าเสื้อแดงจากกากเดนคนไร้ที่พึ่งทางใจ พวกหิวเงิน อ้างว่ามีเครือข่ายกระจายทั้งแผ่นดิน ทั้งๆ ที่มีไม่กี่หมื่นคน สร้างความน่ากลัวให้วิญญูชนผ่านอาชญากรรมปล้นสะดม เผาเมือง ฆ่าทหาร
ความเลวร้ายสารพัดไม่เคยเกิดในยุคใด ก็มีภายใต้อิทธิพลชั่วของเหลี่ยมร้าย ฝังลึกเครือข่ายในแทบทุกองค์กร วงการข้าราชการเหลือเพียงกองทัพ และตุลาการบางส่วน! ตำรวจ อัยการ และองค์กรอิสระกำมะลออยู่ใต้อำนาจเหลี่ยม
พฤติกรรมถ่อย เถื่อน สถุล ตามคำพรรณนาของผู้แทนชุดแดงในสภา นับแต่ละวันยิ่งยโสโอหัง ดิบ ไม่เคารพกฎหมาย ข่มขู่คุกคามประชาชนทั่วไป ลามไปถึงขั้นจะจับกุม เอาชีวิตตุลาการซึ่งตัดสินคดีความไม่ถูกใจแกนอักษะแห่งความชั่วร้าย ซึ่งมี 3 ขา คือพรรคเพื่อเหลี่ยม มวลชนเผ่าเสื้อแดง และกองกำลังติดอาวุธ
รัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าใน และสภาผู้แทนฯ ทำทุกอย่างเพื่อเหลี่ยมร้าย เป้าหมายหลักคือต้องให้เหลี่ยมกลับบ้านแบบเท่ๆ คืนทรัพย์สิน จากนั้นจะขอเป็นผู้ตัดสินอนาคตประเทศ อ้างคนกาเบอร์ 15 ล้านเสียงเป็นฐานคุยทับถมคนอื่นๆ
เอาเงินภาษีประชาชน เงินกู้ไปปรนเปรอช่วยเหลืออาชญากรให้พ้นจากการจองจำในคุก สภาผู้แทนฯ มีแต่ขี้คุก เดนตะราง พวกหลังลาย ผู้ทรงเกล็ด! การคุกคามห่ามเถื่อนของชนเผ่าเสื้อแดงไม่มีใครห้ามปราม แม่นางโพยทำบื้อตาใส
พร่ำท่องแต่ว่าทุกฝ่ายมีสิทธิแสดงออก แต่ไม่ต้องละเมิดสิทธิของผู้อื่น!
เมื่อตำรวจไม่ทำอะไร พวกแดงเถื่อนก็ยิ่งได้ใจ ข่มขู่ฝ่ายอื่นๆ ยิ่งไม่มีใครตอบโต้ ก็ยิ่งลำพอง นึกว่าขบวนการเสื้อแดงเป็นใหญ่ในแผ่นดิน! ผู้นำกองทัพพูดย้ำซ้ำซาก “การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง” แต่เพิกเฉยเมื่อสถาบันหลักถูกย่ำยี
เมื่อตำรวจไม่รักษากฎหมาย อัยการรับใช้อำนาจนอกระบบ กองทัพมีผู้นำบางส่วนอยู่ในประเภท “ไม่สู้แล้วรวย” ความเฮงซวยก็ตกอยู่กับบ้านเมืองใต้อำนาจเหลี่ยมร้าย ให้น้องสาวแอ๊บแบ๊วชอบโชว์ตัวเมืองนอกเป็นผู้นำกำมะลอ
เมื่อเราไม่เคยมีประชาธิปไตยแท้จริง แนวโน้มว่าเราเป็นอนาธิปไตยเกินครึ่งใบแล้วโดยพฤติกรรมเถื่อน ย่ำยีกฎหมายของขบวนการเสื้อแดง มีนักวิชาการพวกรับจ้างสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยดังเป็นแนวร่วมของความอุบาทว์วิปริต
เรากำลังก้าวสู่สภาพของอนาธิปไตย มีมิคสัญญีเป็นทางเลือก ก่อนเกิดสงครามกลางเมืองนองเลือด ถ้าไม่มีปัจจัยอะไรสกัดกั้นแนวโน้มของความเป็นรัฐล้มเหลวโดยสมบูรณ์ด้วยน้ำมือผู้นำกำมะลอ ใช้ความโง่หน้าด้านเป็นอาวุธสำคัญ
เราเห็นศาลรัฐธรรมนูญได้รับการคุ้มครองอย่างแข็งขันโดยกองกำลังพลซึ่งเป็นอดีตนักรบกองโจรของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ออกมาปกป้องสถาบันกษัตริย์ ขณะที่กองทัพไทยเพิกเฉย! แค่นี้ก็ทำให้ชาวบ้านรู้สึกสิ้นหวัง
เมื่อบรรยากาศของอนาธิปไตยเข้มข้น โดยมีพรรคเพื่อเหลี่ยม ขบวนการเสื้อแดงเป็นตัวเร่งในการทำลายศาล ล้มล้างรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไร ทางเลือกสุดท้ายคือประชาชนต้องพึ่งพาตนเอง ด้วยการจัดตั้งกองกำลังเช่นกัน
เราจะเป็นเหมือนฟิลิปปินส์ยุคมาร์กอส หรือประเทศในแอฟริกา ละตินอเมริกา ผู้มีอิทธิพลมีกองกำลัง กองทัพส่วนตัว อำนาจรัฐไร้ความหมาย
เมื่อนักการเมืองมุ่งเร่งขายชาติ เหมือนองค์กรอาชญากรรม ชาวบ้านย่อมมีสิทธิปกป้องตัวเองภายใต้กฎธรรมชาติ ไม่มีใครยอมใครอีกต่อไป! ทางเลือกของอนาคตประเทศคือ “ยอมให้เสื้อแดงข่มขู่ หรือร่วมมือกันต่อสู้ระบอบทักษิณ”