xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

รันเวย์สุวรรณภูมิพัง! คอร์รัปชั่น...ฝันร้าย.. รุมหลอนท่าอากาศยานเถื่อน?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- สนามบินสุวรรณภูมิ มีเรื่องที่ให้กล่าวถึงตลอดเวลา ช่วงก่อสร้างมีเรื่องทุจริต คอร์รัปชั่น ช่วงชิงส่วนแบ่งจากค่าก่อสร้าง 1.2 แสนล้านบาท หลังเปิดให้บริการวันที่ 28 กันยายน 2549 ปัญหาก็เพิ่มขึ้น เรียกว่า ชี้ไปตรงไหนก็เจอปัญหา ตั้งแต่หลังคารั่ว แอร์ไม่เย็น ปัญหาการจราจรเข้าสู่สนามบิน สายพานรับส่งกระเป๋าล่าช้า และกระเป๋าหาย ห้องน้ำไม่พอ รถเข็นกระเป๋าไม่พอ พื้นทางวิ่ง-ทางขับ (Taxi Way) ทรุด จำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่พอ พนักงานและเจ้าหน้าที่หญิงที่ถูกคุกคาม ความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารที่เต็มไปด้วยร้านค้า ปิดบังทางหนีไฟ กระทบต่อมาตรฐานความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ

ปี 2555 เป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 ที่เปิดให้บริการ ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น เริ่มจากคิวตรวจหนังสือเดินทาง (ตม.) ยาวเหยียด ผู้โดยสารยืนกันขาแข็งเป็นชั่วโมงกว่าจะผ่านได้ ไม่นานเรดาร์หอบังคับการบินเกิดจอดับกะทันหัน ตามด้วยรันเวย์ชำรุด เล่นเอา ผู้โดยสาร สายการบิน บ่นกันระงม

ที่หนักสุดๆ เห็นจะเป็นเรื่องเรดาร์จอดับกับรันเวย์ชำรุดเพราะทำให้หลายเที่ยวบินต้องบินวนกันหลายสิบนาที บางลำเป็นชั่วโมง และบางลำต้อง DIVERT ไปท่าอากาศยานอื่น เสียทั้งเวลาและเสียทั้งเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและ ค่าใช้บริการท่าอากาศยานอื่น แบบไม่ได้ตั้งใจ...

ผู้บริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า โดยปกติสุวรรณภูมิจะใช้รันเวย์ด้านตะวันออก สำหรับเครื่องบินขึ้น (Take off) และลงทางรันเวย์ตะวันตก ซึ่งเป็นการลดผลกระทบทางเสียงกับพื้นที่โดยรอบโดยเฉพาะสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งตั้งอยู่ด้านเหนือของสนามบิน ส่วนฤดูหนาวประมาณ 2-3 เดือนของทุกปีจะปรับมาขึ้นทางรันเวย์ตะวันตกและลงทางรันเวย์ตะวันออกแทนเพราะลมมาทางเหนือต้องลงสวนทางลม

โดยตามหลักวิชาการ รันเวย์ที่เป็นผิวแอสฟัลท์ (ยางมะตอย) จะมีอายุใช้งาน 5 ปี ต้องทำการ Overlay คือซ่อมใหญ่โดยการขูดผิวยางมะตอยเดิมออกแล้วปูใหม่ ซึ่งรันเวย์สุวรรณภูมิก่อสร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2548 และเริ่มทดสอบปี 2549 เท่ากับปี 2553 อายุใช้งานจะครบ 5 ปี โดยช่วงเปิดสนามบินจุดที่ชำรุดบ่อยคือ ทางขับ (แท็กซี่เวย์) เนื่องจากเครื่องบินจะวิ่งช้าจึงถูกกดทับด้วยน้ำหนัก ทั้งหมดโดยเฉพาะวงเลี้ยวจะถูกเสียดสีทำให้ผิวชำรุดมาก โดยในการทำงาน หากพบจุดใดมีการชำรุด จะซ่อมทันที โดยแต่ละครั้งใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ในช่วงที่มีเที่ยวบินน้อย เพื่อให้กระทบเที่ยวบินน้อยที่สุด และยังติดปมการตรวจสอบหาสาเหตุรันเวย์ชำรุดเพื่อเรียกค่าเสียหาย จากกลุ่ม บริษัท IOT Joint Venture ผู้รับเหมา ทำให้ต้องซ่อมแบบชั่วคราว

ทอท.ระบุว่า ปี 2553 มีแผนที่จะซ่อมรันเวย์ครั้งใหญ่ถึงฐานราก เนื่องจากเริ่มมีการชำรุดบ่อย โดยเสนอของบประมาณปี 2554 กำหนดซ่อมหลังสงกรานต์ ที่เข้าช่วง Low Season และฝนน้อยซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดเพราะกระทบต่อเที่ยวบินน้อยที่สุด แต่ไม่ได้รับอนุมัติ เนื่องจาก นายศรีสุข จันทรางศุ อดีตประธานคณะกรรมการบริษัทการท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.)ซึ่งในสมัยนั้นมีนายโสภณ ซารัมย์ เป็นรมว.คมนาคมแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาเครือข่ายการขนส่งทางอากาศ นำเรื่องไปพิจารณา และไม่เห็นด้วย และให้กรมทางหลวงเข้าขุดเจาะฐานรากรันเวย์พิสูจน์ว่าชำรุดหรือไม่ ปรากฏว่าไม่พบปัญหาอะไร จึงให้ซ่อมแซมทั่วไป แต่กว่าจะตัดสินใจกันได้ ก็ล่าช้าไปจนซ่อมในปีนั้นไม่ได้ เพราะกำลังจะเข้าช่วงหน้าฝนและต่อด้วย High Season ต้องเลื่อนเป็นปี 2555 ซึ่งได้มีการแจ้งไปยังสายการบินให้ทราบและเตรียมความพร้อมสำหรับการซ่อมรันเวย์แล้ว

“ทอท.แจ้งสายการบินให้ทราบตั้งแต่ปี 2554 ว่าจะมีการซ่อมรันเวย์ฝั่งตะวันออกด้านทิศเหนือ ระยะทาง 1,620 เมตรและแจ้งอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคม 2555 ว่าจะดำเนินการตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน -21 มิถุนายน 2555 (รวม 60 วัน) ต่อมาปรับแผนเป็น วันที่ 11 มิถุนายน - 9 สิงหาคม 2555 เพื่อไม่ให้กระทบต่อการประชุม World Economic Forum on East Asia หรือ WEF ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ที่สายการบินออกมาบอกว่า ทอท.แจ้งก่อนแค่ 3 เดือนไม่ถูกต้อง”

โดยก่อนจะซ่อมรันเวย์ตะวันออกประมาณ 60 วัน ได้มีการปรับปรุงผิวรันเวย์ด้านตะวันตกและระบบไฟต่างๆ เพื่อรองรับการใช้งานที่หนักขึ้นในระหว่างที่ฝั่งตะวันออกซ่อม แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีโอกาสเกิดการชำรุดเลย ซึ่งโดยปกติจะมีเจ้าหน้าที่ออกตรวจความเรียบร้อยของรันเวย์ วันละ 6 ครั้ง และยังมีเรดาร์ตรวจจับสิ่งแปลกปลอม (FOD)บนรันเวย์คอยจับสัญญาณอยู่ตลอดเวลาด้วย หากพบชำรุดทีมจะเข้าซ่อมเร่งด่วนใน 30 นาทีซึ่งเหตุการณ์วันที่ 5 กรกฎาคมนั้น มีการตรวจพบผิวรันเวย์ดานตะวันตกหลุดร่อนลึก 5 เซนติเมตร ขนาด ขนาด 60X60 เซนติเมตร เดิมจะซ่อมช่วงตี3 แต่ทางหอบังคับการบินแจ้งว่า ควรดำเนินการก่อนประมาณ 3 ทุ่ม ไม่เช่นนั้นเครื่องบินขนาดใหญ่ เส้นทางข้ามทวีปจะขึ้นไม่ได้ ใช้เวลาซ่อม 25 นาที แต่หลังจากมีการตรวจความพร้อมอีกรอบ เกิดพบการชำรุดของผิวรันเวย์อีกจุด ทำให้เสียเวลา50 นาทีเพื่อซ่อมทั้ง 2 จุด

ผู้บริหารทอท.ระบุอีกว่า รันเวย์กว้าง 70 เมตร ซึ่งการซ่อมครั้งนี้บริเวณกลางรันเวย์ที่เป็นร่องล้อซึ่งกว้างประมาณ40 เมตร จะใช้ผิวแอสฟัลท์ผสมโพลิเมอร์ ซึ่งจะแข็งเหนียวเป็นพิเศษ ส่วนไหล่ทางจะใช้แอสฟัลท์ธรรมดา และตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมนี้ รันเวย์ฝั่งตะวันออกจะซ่อมเสร็จ 870 เมตร ทำให้ระยะวิ่งเป็น3,000 เมตร เครื่องบินทุกรุ่น (ยกเว้นเครื่องบิน A380)
สามารถทำการบินขึ้น-ลงได้ การใช้งานฝั่งตะวันตกจะลดจาก 85% ของเที่ยวบินทั้งหมดเหลือ 55% เหมือนปกติ และจะลดปัญหาบินวนรอ ยกเว้นมีปัญหาสภาพอากาศ

ยังไง...งานนี้ ทอท. ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ แม้จะมีแผนเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี เพราะประเทศเสียหายยับเยินไปแล้ว อีกมุมหนึ่ง ปมเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิล้วนเป็นผลมาจากการทุจริต คอร์รัปชั่นของกลุ่มนักการเมือง กลุ่มธุรกิจ ผู้รับเหมา ที่รุมทึ้งผลประโยชน์บนแผ่นดินผืนนี้กันแบบไม่ลืมหูลืมตา

แต่เหตุการณ์เรดาร์ดับ รันเวย์พังพร้อมกันทั้ง 2 เส้นโดยมิได้นัดหมาย คนทำงานในสุวรรณภูมิพูดกันว่า อาจเป็นเพราะ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ จู่ๆ ก็ให้เครื่องบินไปใช้เลย ยังผิดธรรมเนียมประเพณี เลยต้องตกอยู่ในสภาพท่าอากาศยานเถื่อน ต้องอยู่กับฝันร้าย...หลอนกันไม่จบไม่สิ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น