**วันนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังลุ้นตัวโก่ง ตัวงอ กับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขัดต่อมาตรา 68 หรือไม่ การบริหารประเทศ การงานทุกอย่างหยุดแทบหมดสิ้น โปรเจกต์ใหญ่ๆ ไม่ต้องพูดถึง เงียบหายมานานแล้ว ตอนนี้แม้แต่เรื่องทั่วไปยังไม่ค่อยมีให้พูดถึง..
ฝ่ายความมั่นคงก็ใจจดใจจ่อกับการเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดเหตุรุนแรงสืบเนื่องจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะคนเสื้อแดง ตั้งป้อมจะนัดมาชุมนุมกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ แม้ปากจะพร่ำบอกว่า ไม่ใช่เป็นการกดดัน กระนั้นจะให้คนเขาเชื่อว่ามาทำอะไร..
เจ้าหน้าที่เป็นห่วงเรื่องของการสร้างสถานการณ์ หรือ มีมือที่ 3 และพยายามแยกม็อบ 2 ฝ่ายให้อยู่ห่างจากกัน หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพราะไม่ว่าผลออกมาทางไหน ย่อมมีฝ่ายไม่พอใจ หากปะหน้ากัน ย่อมง่ายต่อการห้ำหั่น และยังต้องจับตาหลังจากนั้นเป็นระยะ เพราะจะเกิดผลกระทบกระเทือนตามมาอีกเยอะแน่
ขึ้นชื่อว่า “ม็อบอันธพาล” มีหรือจะยอมรามือไปง่ายๆ เรียกว่าทุกองคาพยพต้องใจจดใจจ่อกับการตัดสินคดีประวัติศาสตร์แห่งปี ซึ่งจะเป็นจุดชี้เป็น ชี้ตาย ประเทศอีกคำรบหนึ่ง
ยามนี้ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะคนเสื้อแดง เดินเลยธงแห่งความพอดีมาไกลพอสมควร เมื่อฝ่ายตัวเองเข้าสู่อำนาจ ก็เร่งเกมเร็ว หาประโยชน์ให้ฝ่ายตัวเองมาอย่างย่ามใจหลายครั้งหลายหน แต่เมื่อเจอเบรกเกมชนิดหัวทิ่ม หัวตำ ก็กระฟัดกระเฟียด จ้องจะถล่มคนขวางทางให้รู้แล้วรู้รอด
ทว่า งานนี้เจอกระดูกชิ้นโต เล่นกับศาล ใครก็รู้ว่าไม่ง่าย ต้องฟาดฟัน ชิงไหวชิงพริบกันด้วยข้อกฎหมาย และดูเหมือนจะยอมรับกลายๆ ว่า อาจจำต้องเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ จึงออกมาเดินเกมรุก กดดันศาลด้วยวิธี ถ่อย เถื่อน ตามถนัด เตรียมกำหนดรูปแบบเคลื่อนไหวทันที หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินออกมาเป็นลบต่อฝ่ายตัวเอง
พรรคเพื่อไทย และ คนเสื้อแดง ประเมินแล้วว่าเป็นไปได้ยากมาก ที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะปล่อยผ่านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โอกาสที่ศาลจะบอกว่า การแก้ไขไม่ขัดรัฐธรรมนูญน้อยมาก เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ออกตัวแรงมารับเรื่องเองไว้ตั้งแต่แรก จึงประเมินสถานการณ์และวางแผนกันไว้แล้ว
** ล่าสุด มีการโหมโรงสถานการณ์ให้ดูรุนแรง ตื่นเต้น สร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้าน แนะนำให้เบิกเงินสด ตุนน้ำ ตุนยา หยุดการลงทุน หยุดงาน บอกครอบครัวให้เตรียมรับมือสถานการณ์ เลวร้ายอย่างที่สุดแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สั่งคนเสื้อแดงทุกคน เตรียมลุยแตกหัก ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันก็จะใช้ปฏิบัติการตีโต้ แจ้งดำเนินคดีศาลรัฐธรรมนูญข้อหากบฏ !!
พร้อมจินตนาการขั้นเลวร้ายว่า ท้ายที่สุดอาจเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร เนื่องเพราะสถานการณ์ความวุ่นวายจนควบคุมไม่อยู่ บ้านเมืองโกลาหล ซึ่งตรงนี้มันก็น่าแปลก คิดไปคิดมา ปฐมเหตุที่น่าจะเกิดขึ้นจากกรณีนี้ ก็น่าจะมาจากคนเสื้อแดงเองนั่นแหละ ที่เป็นคนจุดชนวน ตอนนี้ก็ออกอาการ จนปกปิดไว้ไม่มิดแล้ว
นอกจากนี้ ยังออกมาเล่นเกมปูดข่าว เปิดชื่อย่อตามถนัด เมื่อ แดงสายฮาร์ดคอร์ อย่าง วรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ออกมาซัดโทงๆ ว่า มีขบวนการล้มล้างรัฐบาลด้วยระดมทุน 6 พันล้านบาท มีตัวการเป็นนักการเมืองปักษ์ใต้อักษรย่อ “ส” นักการเมืองในภาคอีสาน อักษรย่อ “น” และ กลุ่มทุนธุรกิจน้ำเมา กดดันศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเพื่อไทย หรือปฏิบัติการสร้างความวุ่นวาย กวักมือเรียกกองทัพ ทำการยึดอำนาจรัฐบาล
สารพัดจะจินตนาการทางร้าย ให้คนเสื้อแดงหวาดกลัว สิ่งที่อาจเกิดขึ้นตรงหน้า นัยหนึ่งก็เพื่อเป็นการปลุกระดม ความฮึกเหิมก่อนวันดีเดย์ หากเกิดเหตุการณ์ที่เป็นผลร้ายกับตัวเองจริงๆ ก็ไม่ต้องปลุกระดมกันมาก พร้อมลุยแนวอันธพาลกันเลย ทันทีทันใด..
สิ่งที่พลพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง กังวล และรับไม่ได้อย่างยิ่ง คือ การสูญเสียอำนาจให้ฝ่ายตรงข้าม หรือการพลิกขั้วให้พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง พาลมีความคิดฝังอยู่ในหัวตลอดมา ว่าฝ่ายอำมาตย์ ต้องการให้กระดานการเมืองพลิกกลับไปเป็นรูปนี้อีกครั้ง
เหตุนี้ ก็จะเป็นตัวจุดเชื้อความแค้นให้พลพรรคคนเสื้อแดงได้อีกไม่น้อย ดีไม่ดีถ้าเกิดอาละวาด ถล่มศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สาแก่ใจ อาจเลยเถิดถึงขั้นบุกไปถล่มที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเลยก็ได้ ข้อหาหมั่นไส้ เป็นไม้เบื่อไม้เมา ศัตรูคู่อาฆาตตลอดกาล และระยะหลัง คนเสื้อแดง มองว่าทำตัวยียวนกวนส้นเท้า เล่นลีลาโวหารจนรำคาญหู
** อย่างไรก็ตาม การที่พรรคประชาธิปัตย์จะฝันหวานก้าวขึ้นสู่อำนาจด้วยวิธีการพิเศษอีกครั้ง มันก็ไม่ง่ายนักหรอก ลำพังแค่การเมืองในสภาหากรัฐบาลถูกล้มไป เสียงส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เองก็มีแค่ร้อยกว่าเสียง ไม่เพียงพอจัดตั้งรัฐบาล เงื่อนไขงูเห่า งูจงอาง พลิกขั้วกลับมาก็เยอะแยะ จนมองแล้วแทบไร้ความเป็นไปได้
ขณะเดียวกัน ต้องชั่งใจฝ่ายอำมาตย์ด้วยว่าจะเลือกใช้บริการของพรรคประชาธิปัตย์อีกกระนั้นหรือ?? เพราะงวดที่แล้วก็เห็นชัดเจนว่าบ้านเมืองภายใต้การบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ก็ป่นปี้ เหลวเป๋ว ไม่แพ้กัน บริหารกันเหมือนสากกะเบือทิ่มครก บ้านเมืองไม่ก้าวหน้า เล่นแต่เกมการเมือง ไม่เห็นจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้พูดถึงสักเท่าไหร่ หนำซ้ำภาวะข้าวยากหมากแพงก็ระบาดทั่วเมือง ทุจริตก็เห็นกันเนืองๆ บริหารกันเละเทะ เลอะเทอะ ทุจริตบานงานไม่ก้าวหน้า คิดแล้วก็น่าตลก บริหารกันแบบนี้ยังจะกล้าขันอาสามาบริหารประเทศอีก เลือกตั้งประชาชน ก็สั่งสอนไปแล้วว่าต้องกลับไปทบทวนตัวเองกันมั่ง แต่แล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิม กลับมาเล่นการเมืองรูปแบบเดิม ใช้ปากทำงาน ระรานคนอื่นไปทั่ว เห็นแล้วก็ว้าเหว่.. แทนประเทศไทย
**วันนี้ถ้าหากจะมีใคร หรือฝ่ายไหน ที่มีอำนาจล้างบาง ล้างกระดานการเมืองในประเทศไทยกันใหม่ เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากฝากความหวังไว้กับพรรคประชาธิปัตย์ อีกแล้ว
คงต้องเลือกหาวิธีล้างกันใหม่ให้หมดจด หรือตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลมาดีกว่าจะฝากความหวังไว้กับนักการเมืองที่อยู่บนสนามยามนี้ เอาหน้าใหม่ๆ มาเทกระโถนกดชักโครกนักการเมืองชั้นเลว ให้หลงหลุมคอห่านไปให้หมด แล้วก็นับหนึ่งประเทศไทยอย่างจริงจัง.. หลุดพ้นวงจรอุบาทว์
**ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าจมปลักอยู่กับกองอาจม...
ฝ่ายความมั่นคงก็ใจจดใจจ่อกับการเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดเหตุรุนแรงสืบเนื่องจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะคนเสื้อแดง ตั้งป้อมจะนัดมาชุมนุมกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ แม้ปากจะพร่ำบอกว่า ไม่ใช่เป็นการกดดัน กระนั้นจะให้คนเขาเชื่อว่ามาทำอะไร..
เจ้าหน้าที่เป็นห่วงเรื่องของการสร้างสถานการณ์ หรือ มีมือที่ 3 และพยายามแยกม็อบ 2 ฝ่ายให้อยู่ห่างจากกัน หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพราะไม่ว่าผลออกมาทางไหน ย่อมมีฝ่ายไม่พอใจ หากปะหน้ากัน ย่อมง่ายต่อการห้ำหั่น และยังต้องจับตาหลังจากนั้นเป็นระยะ เพราะจะเกิดผลกระทบกระเทือนตามมาอีกเยอะแน่
ขึ้นชื่อว่า “ม็อบอันธพาล” มีหรือจะยอมรามือไปง่ายๆ เรียกว่าทุกองคาพยพต้องใจจดใจจ่อกับการตัดสินคดีประวัติศาสตร์แห่งปี ซึ่งจะเป็นจุดชี้เป็น ชี้ตาย ประเทศอีกคำรบหนึ่ง
ยามนี้ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะคนเสื้อแดง เดินเลยธงแห่งความพอดีมาไกลพอสมควร เมื่อฝ่ายตัวเองเข้าสู่อำนาจ ก็เร่งเกมเร็ว หาประโยชน์ให้ฝ่ายตัวเองมาอย่างย่ามใจหลายครั้งหลายหน แต่เมื่อเจอเบรกเกมชนิดหัวทิ่ม หัวตำ ก็กระฟัดกระเฟียด จ้องจะถล่มคนขวางทางให้รู้แล้วรู้รอด
ทว่า งานนี้เจอกระดูกชิ้นโต เล่นกับศาล ใครก็รู้ว่าไม่ง่าย ต้องฟาดฟัน ชิงไหวชิงพริบกันด้วยข้อกฎหมาย และดูเหมือนจะยอมรับกลายๆ ว่า อาจจำต้องเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ จึงออกมาเดินเกมรุก กดดันศาลด้วยวิธี ถ่อย เถื่อน ตามถนัด เตรียมกำหนดรูปแบบเคลื่อนไหวทันที หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินออกมาเป็นลบต่อฝ่ายตัวเอง
พรรคเพื่อไทย และ คนเสื้อแดง ประเมินแล้วว่าเป็นไปได้ยากมาก ที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะปล่อยผ่านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โอกาสที่ศาลจะบอกว่า การแก้ไขไม่ขัดรัฐธรรมนูญน้อยมาก เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ออกตัวแรงมารับเรื่องเองไว้ตั้งแต่แรก จึงประเมินสถานการณ์และวางแผนกันไว้แล้ว
** ล่าสุด มีการโหมโรงสถานการณ์ให้ดูรุนแรง ตื่นเต้น สร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้าน แนะนำให้เบิกเงินสด ตุนน้ำ ตุนยา หยุดการลงทุน หยุดงาน บอกครอบครัวให้เตรียมรับมือสถานการณ์ เลวร้ายอย่างที่สุดแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สั่งคนเสื้อแดงทุกคน เตรียมลุยแตกหัก ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันก็จะใช้ปฏิบัติการตีโต้ แจ้งดำเนินคดีศาลรัฐธรรมนูญข้อหากบฏ !!
พร้อมจินตนาการขั้นเลวร้ายว่า ท้ายที่สุดอาจเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร เนื่องเพราะสถานการณ์ความวุ่นวายจนควบคุมไม่อยู่ บ้านเมืองโกลาหล ซึ่งตรงนี้มันก็น่าแปลก คิดไปคิดมา ปฐมเหตุที่น่าจะเกิดขึ้นจากกรณีนี้ ก็น่าจะมาจากคนเสื้อแดงเองนั่นแหละ ที่เป็นคนจุดชนวน ตอนนี้ก็ออกอาการ จนปกปิดไว้ไม่มิดแล้ว
นอกจากนี้ ยังออกมาเล่นเกมปูดข่าว เปิดชื่อย่อตามถนัด เมื่อ แดงสายฮาร์ดคอร์ อย่าง วรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ออกมาซัดโทงๆ ว่า มีขบวนการล้มล้างรัฐบาลด้วยระดมทุน 6 พันล้านบาท มีตัวการเป็นนักการเมืองปักษ์ใต้อักษรย่อ “ส” นักการเมืองในภาคอีสาน อักษรย่อ “น” และ กลุ่มทุนธุรกิจน้ำเมา กดดันศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเพื่อไทย หรือปฏิบัติการสร้างความวุ่นวาย กวักมือเรียกกองทัพ ทำการยึดอำนาจรัฐบาล
สารพัดจะจินตนาการทางร้าย ให้คนเสื้อแดงหวาดกลัว สิ่งที่อาจเกิดขึ้นตรงหน้า นัยหนึ่งก็เพื่อเป็นการปลุกระดม ความฮึกเหิมก่อนวันดีเดย์ หากเกิดเหตุการณ์ที่เป็นผลร้ายกับตัวเองจริงๆ ก็ไม่ต้องปลุกระดมกันมาก พร้อมลุยแนวอันธพาลกันเลย ทันทีทันใด..
สิ่งที่พลพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง กังวล และรับไม่ได้อย่างยิ่ง คือ การสูญเสียอำนาจให้ฝ่ายตรงข้าม หรือการพลิกขั้วให้พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง พาลมีความคิดฝังอยู่ในหัวตลอดมา ว่าฝ่ายอำมาตย์ ต้องการให้กระดานการเมืองพลิกกลับไปเป็นรูปนี้อีกครั้ง
เหตุนี้ ก็จะเป็นตัวจุดเชื้อความแค้นให้พลพรรคคนเสื้อแดงได้อีกไม่น้อย ดีไม่ดีถ้าเกิดอาละวาด ถล่มศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สาแก่ใจ อาจเลยเถิดถึงขั้นบุกไปถล่มที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเลยก็ได้ ข้อหาหมั่นไส้ เป็นไม้เบื่อไม้เมา ศัตรูคู่อาฆาตตลอดกาล และระยะหลัง คนเสื้อแดง มองว่าทำตัวยียวนกวนส้นเท้า เล่นลีลาโวหารจนรำคาญหู
** อย่างไรก็ตาม การที่พรรคประชาธิปัตย์จะฝันหวานก้าวขึ้นสู่อำนาจด้วยวิธีการพิเศษอีกครั้ง มันก็ไม่ง่ายนักหรอก ลำพังแค่การเมืองในสภาหากรัฐบาลถูกล้มไป เสียงส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เองก็มีแค่ร้อยกว่าเสียง ไม่เพียงพอจัดตั้งรัฐบาล เงื่อนไขงูเห่า งูจงอาง พลิกขั้วกลับมาก็เยอะแยะ จนมองแล้วแทบไร้ความเป็นไปได้
ขณะเดียวกัน ต้องชั่งใจฝ่ายอำมาตย์ด้วยว่าจะเลือกใช้บริการของพรรคประชาธิปัตย์อีกกระนั้นหรือ?? เพราะงวดที่แล้วก็เห็นชัดเจนว่าบ้านเมืองภายใต้การบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ก็ป่นปี้ เหลวเป๋ว ไม่แพ้กัน บริหารกันเหมือนสากกะเบือทิ่มครก บ้านเมืองไม่ก้าวหน้า เล่นแต่เกมการเมือง ไม่เห็นจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้พูดถึงสักเท่าไหร่ หนำซ้ำภาวะข้าวยากหมากแพงก็ระบาดทั่วเมือง ทุจริตก็เห็นกันเนืองๆ บริหารกันเละเทะ เลอะเทอะ ทุจริตบานงานไม่ก้าวหน้า คิดแล้วก็น่าตลก บริหารกันแบบนี้ยังจะกล้าขันอาสามาบริหารประเทศอีก เลือกตั้งประชาชน ก็สั่งสอนไปแล้วว่าต้องกลับไปทบทวนตัวเองกันมั่ง แต่แล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิม กลับมาเล่นการเมืองรูปแบบเดิม ใช้ปากทำงาน ระรานคนอื่นไปทั่ว เห็นแล้วก็ว้าเหว่.. แทนประเทศไทย
**วันนี้ถ้าหากจะมีใคร หรือฝ่ายไหน ที่มีอำนาจล้างบาง ล้างกระดานการเมืองในประเทศไทยกันใหม่ เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากฝากความหวังไว้กับพรรคประชาธิปัตย์ อีกแล้ว
คงต้องเลือกหาวิธีล้างกันใหม่ให้หมดจด หรือตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลมาดีกว่าจะฝากความหวังไว้กับนักการเมืองที่อยู่บนสนามยามนี้ เอาหน้าใหม่ๆ มาเทกระโถนกดชักโครกนักการเมืองชั้นเลว ให้หลงหลุมคอห่านไปให้หมด แล้วก็นับหนึ่งประเทศไทยอย่างจริงจัง.. หลุดพ้นวงจรอุบาทว์
**ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าจมปลักอยู่กับกองอาจม...