xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเกมใต้ดินแซะเก้าอี้รมต. เป้าหมายกระทรวงเกรดเอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ย่างเข้าสู่ช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ใครบางคน “ปักหมุด” ไว้ว่า จะถือฤกษดีเริ่มเขย่าขวดสลับเก้าอี้ปรับครม. กันอีกหน แต่เมื่อมี “วาระร้อน” อย่างเรื่อง “นาซา-อู่ตะเภา” เข้ามาแทรกกลางคัน จนเบียดบังลดกระแสข่าวการปรับ“ครม.ปู 3” ไป
แต่จนถึงวันนี้ก็ยังจับสัญญาณได้ไม่ชัดว่า ใครจะอยู่-ใครจะไป จะมีหน้าใหม่คนนอกเข้ามากี่คน รวมทั้งพวกบ้านเลขที่ 111 ที่หายใจรดต้นคอ หวังสอดแทรกเข้ามาใน ครม.ปู 3 ขยับเข้าซองมานั่งเป็นรัฐมนตรีตัวจริงเสียงจริง สลัดทิ้งตำแหน่ง “รมต.สั่งการ” ที่นั่งแช่มาหลายปี
ยิ่งเมื่อพวกบ้าน 111 ทรนงตัวว่าตัวเองเป็น “เกรดเอ” ของจริง ที่ต้องการเข้ามาหยิบจับช่วยงานเสริมแกร่งให้ “ปูนิ่ม” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังจากปล่อยให้ “ทีมบี-ทีมซี” ประคับประคองกันมาแบบแทบเอาตัวไม่รอด
ส่วนตัวรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ที่นั่งกันหน้าสลอน ก็ไม่ได้มองตัวเองเป็น “ตัวสำรอง” อีกต่อไป เมื่อขึ้นชั้นเสนาบดี ต่างคนก็ยกระดับตัวเองขึ้นมายืนเป็น“แถวหน้า” การจะยอมให้พวกที่อวดตัวว่าเป็น “เกรดเอ” มาทวงเก้าอี้ไปง่ายๆ ก็ใช่เรื่อง
ที่ดูจะไร้ปัญหาก็คงเป็นบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ที่จุดพลุเปิดเกมขอปรับ ครม.ตั้งแต่ก่อน 30 พ.ค.ด้วยซ้ำ ทั้งพรรคพลังชล-ชาติพัฒนา ที่ต้องยอมรับว่า จำเป็นต้องมีการขยับปรับเปลี่ยน เพื่อให้ตัวจริงเสียงจริงเข้ามาลงสนามเอง
ทั้งหัวขบวนพลังชล “สนธยา คุณปลื้ม” ที่ตัดสูทรอเข้ามานั่งคุมงานวัฒนธรรม แทนที่ศรีภรรยาอย่าง “กุสุมล คุณปลื้ม” ด้าน ส.โคราช “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ที่อาจจะออกโรงหวนคืนมานั่งว่าการอุตสาหกรรม เหมือนเคยนั่งมาแล้วเมื่อสมัยรัฐบาลชวน 2 แต่รอบนี้มีของแถมเป็นเก้าอี้รองนายกฯ เพื่อให้สมกับฐานะความอาวุโสทางการเมือง
หรือแม้แต่ พรรคชาติไทยพัฒนา ที่แม้จะไม่ได้มีผลอะไรจากวันพ้นโทษของบ้าน 111 เพราะแกนนำพรรคยังติดอยู่ในบ้านเลขที่ 109 แต่ก็เตรียมเปลี่ยนตัว รมว.เกษตรฯ ในโควต้าของพรรค ด้วยสาเหตุเรื่องสุขภาพของรัฐมนตรี
เป็นความจำนงที่ 3 พรรคร่วมฯ ส่งเข้าไปถึงรัฐบาล แต่ก็ยังต้องคอยสัญญาณเคาะโต๊ะจาก “ยิ่งลักษณ์” ผู้มีอำนาจเต็มในการปรับครม. รวมทั้ง “ไฟเขียว” จาก “คนเมืองนอก” ที่อยู่ระหว่างชั่งใจ รอจังหวะเดินหมากทางการเมือง หลังจากที่ยังฉุนไม่หายที่พ่ายเกมในสภาฯ จน “แผนปรองดอง” ที่วางไว้ต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด
แว่วว่า “นายใหญ่ – น้องสาว” สไกป์คุยกันนานแล้ว แต่ยังไม่ลงตัว เพราะกลัวจะเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นในพรรค ช่วงนี้จึงประวิงเวลาเตะถ่วงการปรับ ครม.ปู 3 ออกไปก่อน และหากไม่มีเหตุทับซ้อน อาจจะลากยาวไปอีกอย่างน้อย 2 - 3 เดือน อย่างกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนัดแรก ในวันที่ 5 - 6 ก.ค.นี้เสียก่อน
สวนทางกับ “คลื่นใต้น้ำ” จาก เสือ สิงห์ กระทิง แรด ภายในพรรคเพื่อไทย ที่ยิ่งเวลางวดเข้าไปเท่าไร ก็ยิ่งกระเพื่อมหนักออกอาการปล่อยข่าวสร้างเรื่องอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์ที่นิยมที่สุดก็คือการส่งเครือข่ายของตัวเองออกมาเลื่อยขาแซะเก้าอี้คนที่อยู่ในตำแหน่งตอนนี้ ที่นับวันจะเริ่มถี่ยิบมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่มี “ตัวเร่ง” อย่างสมาชิกบ้าน 111 ที่หลุดพ้นพ้นคุกการเมืองออกมา
** ทำท่าว่า “ศึกใน” หนนี้จะบานปลายแบบ “คนใน” ไม่อยากออก แต่ “คนนอก” กระสันอยากเข้าใจจะขาด
จึงเห็นได้ว่ารัฐมนตรีหลายคนเริ่มตกเป็น “เป้าหมาย” ถูกกระหน่ำไล่ทุบ หวังกระชากลงจากเก้าอี้ โดยเฉพาะกระทรวงเกรดเอ งบประมาณมาก ที่ชัดเจนที่สุดคือ กระทรวงที่มีงบประมาณเป็นอันดับ 1 “กระทรวงศึกษาธิการ” ที่มีแนวโน้มต้องรื้อยกแผงกันอีกหน
ไล่ตั้งแต่ “เสมา 1” สุชาติ ธาราดำรงเวช รัฐมนตรีว่าการ ที่ถูกขับไสไล่ส่ง ในที่ประชุมพรรคไม่เว้นแต่ละสัปดาห์ สาเหตุก็มาจาก ส.ส.ในพรรคเข้าไม่ถึง เข้าพบที่กระทรวงยาก ต่างจากกระทรวงอื่นที่ ส.ส.เข้าออกเป็นว่าเล่น
ล่าสุด “สุชาติ” ยังปากเปราะ ออกมาวิจารณ์ว่า “รัฐนาวายิ่งลักษณ์” ท่าจะอยู่พ้นปีนี้ยาก เพราะเจอวิกฤตกระหน่ำซ้ำเติม
**ไม่ต่างจากจุดไฟเผาพรรค จึงไม่แปลกที่ ส.ส.จะไม่ไว้หน้าออกมาตอกหน้าว่า “เฮงซวย” ต้องเปลี่ยนตัว
รวมทั้ง ศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการ ที่ทำท่าจะไปไม่รอดเหมือนกัน หลังผิดคิวจากกรณีการตรวจสอบโครงการจัดซื้อ จัดจ้าง ครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ภายใต้แผนปฏิบัติการโครงการไทยเข้มแข็ง 2555 จนถูกปลัดกระทรวงฟ้องเอาผิดทางอาญา ส่วน “กุนซือรัฐมนตรี” ที่มาจากพรรคเดียวกัน ก็ชิงไขก๊อกลาออกจากตำแหน่งไปก่อน
ถัดมาที่เห็นคงจะเป็นที่ “กระทรวงสาธารณสุข” ที่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติของ “ชมรมแพทย์ชนบท” ออกมาเคลื่อนไหวโจมตีรัฐมนตรีรายวัน ไล่ตั้งแต่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบทคนปัจจุบัน ที่จู่ๆ ก็ออกมาทวงงบประมาณปฏิบัติการโครงการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 3,426 ล้านบาท ซึ่งเป็นในส่วนของการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ โดยจัดเป็นแพ็คเกจใหญ่ ยื่นเรื่องต่อ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน – วุฒิสภา – ป.ป.ช.” ให้สอบสวนพฤติกรรมของ “วิทยา บุรณศิริ” รมว.สาธารณสุข และนพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ถัดมาอีกวันก็เป็นคิวของ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท ก็ออกมากระทุ้ง โจมตีเพิ่มเติมว่า มีขบวนการเขมือบงบประมาณในกระทรวงมากถึง 800 ล้านบาท ต่อเนื่องด้วยการตั้งข้อสังเกตว่า โรงพยาบาลในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ของ “วิทยา” ได้งบประมาณชดเชยครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างที่ได้รับความเสียหายจากมหาอุทกภัยเมื่อปีกลายมากกว่าจังหวัดอื่นๆ
กลายเป็นเรื่องร้อนที่ “เจ้ากระทรวง” ไม่ทันตั้งตัว เพราะเรื่องงบไทยเข้มแข็งนั้น ที่ประชุมครม. มีมติชัดเจนว่า ให้ขยายกรอบการจัดซื้อจัดจ้างออกไป จนถึงเดือน ก.ย.ปีหน้า ก็เพื่อให้มีการดำเนินการที่โปร่งใส ในขณะที่เรื่องงบประมาณชดเชย ที่โรงพยาบาลในอยุธยาได้รับนั้น ก็เป็นเพราะได้ความเสียหายมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นมติของครม. ไม่ใช่งบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ด้วยซ้ำ
**จึงไม่แปลกที่ “วิทยา” ต้องจะออกมาชี้แจง แบบงงๆ
เพราะหลายครั้ง “ชมรมแพทย์ชนบท” ก็มักออกมาทวงถามถึงงบประมาณ เมื่อได้ตามที่เรียกร้องแล้ว ก็จะกลับไปอยู่ในที่ตั้ง แต่การเลือกที่จะออกมาเคลื่อนไหวในห้วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของการปรับ ครม.เช่นนี้ ก็คงอดที่มองไม่ได้ว่ามี “นัยซ่อนเร้น” จากคนที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนตัว “วิทยา”
**หรือพูดแบบชาวบ้าน ก็เชื่อว่า “มีงาน”
เพราะรู้ดีว่า ย่อมส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเจ้าของเก้าอี้รัฐมนตรี นอกจากนี้ยังเคยมีเหตุที่ทำให้ “วิทยา” กับชมรมแพทย์ชนบทต้อง “ขบเกลียว” กันเมื่อครั้งที่มีการสังคายนาลดอำนาจของชมรมแพทย์ชนบท ใน คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบอร์ด สปสช. มาก่อนหน้านี้
ตรงนี้เป็นเพียง 2 ตัวอย่างในกระทรวงใหญ่ ที่เชื่อว่า “โมเดล” ที่กำลังเขย่าเก้าอี้ “รมว.ศึกษาฯ-สาธารณสุข” อยู่นี้ จะขยายวงไปตามกระทรวงต่างๆ ที่เป็นเป้าหมายของผู้ที่ต้องการเข้ามากุมบังเหียน โดยเฉพาะในกระทรวงเกรดเอ งบประมาณเยอะ
**สุดท้ายก็แค่ “เกมใต้ดิน” หวังแซะเก้าอี้ รมต.ในช่วงที่กลิ่นปรับ ครม.โชยมาเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น