อุบลราชธานี - กลุ่มผู้บริหารมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีชุดเก่าที่หมดวาระก่อคลื่นใต้น้ำขับอธิการบดีคนใหม่ อ้างบริหารงานผิดพลาด ทำมหาวิทยาลัยเสียประโยชน์หลายอย่าง ขณะเดียวกันอธิการบดีคนใหม่เปิดโต๊ะแถลงข่าวสวนกลับทันควัน เหตุบุคลากรไม่พอใจเพราะถูกติดตามไล่จับการทุจริตจนมีผู้ถูกลงโทษไล่ออกและปลดออกไปแล้ว 4 ราย เกรงภัยจะมาถึงตัว เลยรวมตัวหวังไล่ให้พ้นตำแหน่งเพื่อยุติตามขุดคุ้ยการทุจริตที่ทำอยู่
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ผศ.ดร.กังวาน ธรรมแสง อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย พร้อมบุคลากรของมหาวิทยาลัยประมาณ 10 คน ยื่นหนังสือให้สภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานีมีมติปลด รศ.ดร.นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข อธิการบดีคนปัจจุบันออกจากตำแหน่ง
โดยกล่าวหาการบริหารงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำความเสียหายให้ทางมหาวิทยาลัยอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดผลกระทบด้านจิตใจแก่บุคลากรของมหาวิทยาลัยหลายกลุ่ม ไม่สนับสนุนการเปิดหลักสูตรหลายสาขาวิชา และยังสั่งปิดการเรียนการสอนอีกหลายสาขา ส่งผลกระทบต่อการรับนักศึกษาเข้าเรียนต่อ และมีการเรียกเงินค่าใช้จ่ายจากคณะต่างๆ คืนจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการในระบบการศึกษา
นอกจากนี้ได้เปลี่ยนแปลงการสนับสนุนให้บุคลากรที่ไปเรียนต่อต้องจ่ายคืนเป็นเงินสดแทนการทำงานชดใช้ ส่งผลกระทบต่อบุคลากรที่กำลังศึกษาต่ออยู่ขณะนี้ นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งไล่ออกและปลดออกบุคลากรถึง 4 คน ทั้งที่ประธานกรรมการสอบสวนความผิดให้ความเห็นเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง รวมทั้งได้ลิดรอนสิทธิในการแต่งกายของนักศึกษา
โดยบังคับให้นักศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 ต้องซื้อชุดที่เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย ที่จัดจำหน่ายโดยสำนักบริหารทรัพย์สิน ไม่เช่นนั้นจะไม่ให้เข้าเรียน จึงเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของนักศึกษา
ด้วยมูลเหตุหลายประการทำให้ต้องยื่นหนังสือให้สภามหาวิทยาลัยถอดถอนออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้มหาวิทยาลัยเสียหายไปมากกว่านี้ ซึ่งผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้ออกมารับหนังสือ และจะส่งเรื่องให้สภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานีรับพิจารณาตามที่ร้องเรียนมา
ขณะเดียวกัน รศ.ดร.นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เปิดแถลงข่าวชี้แจงการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้บริหารชุดเก่าที่ต้องการขับไล่ให้พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของมหาวิทยาลัย เช่น การนำเงินของมหาวิทยาลัยจำนวน 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินทดรองจ่ายของอธิการบดีเปิดบัญชีส่วนตัว ไม่มีการควบคุมการใช้จ่ายตามระเบียบของราชการ ใช้จ่ายเงินสนับสนุนการบริการด้านวิชาการและพัฒนามหาวิทยาลัย โดยไม่นำมาอยู่ในความดูแลของกองคลัง ไม่มีการจัดทำรายงานการใช้จ่ายทางบัญชี
แต่มีการนำออกไปใช้มากกว่า 34 ล้านบาท รวมทั้งมีการปลอมแปลงลายมือชื่อในเช็คสั่งจ่ายถึง 17 ครั้ง ไม่นำเงินส่งคืนกว่า 4 ล้านบาท เมื่อปี 2548 ทำสัญญาก่อสร้างหอพักนักศึกษา 4 หลัง โดยสัญญาเสียเปรียบให้เอกชนเพราะไม่มีการประเมินราคากลาง แต่ให้เอกชนเป็นผู้กำหนดราคาเพียงฝ่ายเดียว
จากเหตุการณ์ต่างๆ หลัง รศ.ดร.นงนิตย์เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 2553 จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนและให้ติดตามเงินมาคืน โดยมีการไล่และปลดออกบุคลากรระดับสูงที่พบการกระทำความผิดชัดเจนไปแล้ว 4 ราย การออกมายื่นถอดถอนตนออกจากตำแหน่ง เพราะหวังว่าเมื่อขับไล่ตนไปได้แล้วกระบวนการสอบสวนและติดตามผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัยที่เสียไปคืนต้องหยุดชะงักล้มเลิกไป จึงเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ที่ออกมาคัดค้านการทำหน้าที่ของตน
“ขอยืนยันว่าได้กระทำการไปตามอำนาจหน้าที่ และเห็นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ และกระบวนการตรวจสอบการทุจริตภายในมหาวิทยาลัยต้องดำเนินการต่อไป”อธิการบดีรายนี้กล่าว