“สุกำพล” เปรียบน้ำกับน้ำมันเข้ากันไม่ได้ ก็เหมือน พท.จะร่วมงานกับ ปชป.ไม่ได้เช่นกัน ชี้ “เทพเทือก” ปล่อยข่าว หวังทำ “นช.แม้ว-ก๊กแดง” แตกแยก เหน็บ “รัฐบาลมาร์ค” ทหารช่วยเต็มที่ยังเอาตัวไม่รอด บอกอีกไม่นานการเมืองไทยจะเข้าตำราน้ำลดตอผุด ส่วนการปรับ ครม.ตั้ง “จตุพร” เป็น รมต.ต้องให้ “นายกฯ ปู” ตัดสินใจ
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งหญิง 2 คน ชาย 1 คนมาทาบทามให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า ถ้าทางวิทยาศาสตร์สามารถทำให้น้ำกับน้ำมันเข้ากันได้มันคงเป็นไปได้ ซึ่งความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ แต่เป็นความคิดของตนคนเดียวไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองใดๆ ส่วนวัตถุประสงค์ของนายสุเทพที่ออกมาพูดเรื่องนี้นั้น มองได้หลายแง่ ตนไม่อยากคิดเองเออเอง สิ่งที่ตนมองคือ อาจจะพยายามแยก พ.ต.ท.ทักษิณกับกลุ่มคนเสื้อแดงออกจากกันก็เป็นไปได้ สามารถมองได้หลายแง่ เขาทำทุกอย่างหว่านไป 100 อย่าง ได้สัก 1 อย่างก็ยังดี ถ้าตนเป็นนายสุเทพ และพ.ต.ท.ทักษิณ มาพบจริง ตนจะบอกสื่อภายใน 5 นาทีจะไม่เก็บเรื่องนี้ไว้นาน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนไม่ได้สอบถามไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง และพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เห็นเป็นเรื่องสำคัญจึงไม่ได้ตอบอะไรมา ส่วนคำพูดของนายสุเทพเป็นการกระทำเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือไม่ ตนตอบไม่ได้ต้องไปถามนายสุเทพเอง และตนตอบไม่ได้ว่า นายสุเทพโกหกหรือไม่ เพราะนายสุเทพพูดออกมาไม่หมด พูดเป็นปริศนาไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะเป็นเพื่อนเดาใจ พ.ต.ท.ทักษิณได้หรือไม่ว่า จะพูดคุยกับนายสุเทพหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ถ้าผสมน้ำกับน้ำมันได้ก็น่าจะเป็นไปได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์จะมาอยู่ด้วยกัน แล้วใครจะมาเป็นฝ่ายค้าน ถ้าเรามองสิ่งแวดล้อมจะรู้ว่าสิ่งที่พูดกันมาไม่น่าจะเป็นแบบนั้น นี่เป็นในมุมมองของตน หากคนอื่นมองว่า เป็นไปได้ก็มองกันไป เพราะคนเรามองไม่หเมือนกัน มีอยู่ไม่กี่คนที่พูดอย่างนี้ เห็นหน้าแล้วก็รู้ เมื่อถามว่า แนวทางที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เมืองไทยเรียบร้อยก็น่าจะกลับมา ซึ่งแนวทางลึกซึ้งเกินกว่าที่ตนจะตอบได้
ส่วนจะเป็นความพยายามสร้างกระแสให้รัฐบาลกับกลุ่มเสื้อแดงแตกคอกัน พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า อยู่สักพักก็จะรู้ และจะยิ่งทำให้รักกันมากขึ้นเพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้คิดว่า สถานการณ์การเมืองอยู่ไปอีกสักพักหนึ่งก็จะเริ่มโผล่ขึ้นมาว่าจะเป็นอย่างไร หรือเรียกว่าน้ำลดตอผุด รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ ทางทหารที่ตนดูแลอยู่ เขาก็พยายามทำตัวเป็นกลางอย่างที่ตนเคยพูดว่าทหารเขาเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ได้อยู่กับทางด้านโน้นและด้านนี้ ซึ่งได้เห็นแล้วว่าเป็นอย่างไร คราวที่แล้วที่ฝั่งโน้นเป็นรัฐบาลทางทหารช่วยเต็มที่ แต่ยังเอาตัวไม่รอดเลย คราวนี้โดนเต็มที่เลยแต่ยังกลับมาได้ เขาคงรู้ว่าการต้องการของประชาชนที่แท้จริงคืออะไร ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาทหารวางตังวเป็นกลางและเป็นเครื่องมือของรัฐบาลที่ถูกต้อง และตอนนี้ทางทหารทำตัวได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว ตนรู้ว่าทหารเป็นอุปกรณ์หนึ่งของรัฐบาล คือ เมื่อวางตัวอย่างนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ต่อข้อถามว่า โกรธหรือไม่ที่นายสุเทพโจมตีคำพูดของท่านที่ระบุว่าทหารเลือกข้างแล้ว และไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า คิดว่าดีนะ บอกไปอย่างนี้เขาจะได้รู้ ก็ดีเหมือนกันที่มีคนบอกอย่างนี้ ขอให้ไปคิดเอาเอง เมื่อถามว่า มีแนวโน้มจะมีการปรับครม.หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ขอให้ไปถามนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงคาดหวังให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดงขึ้นมาเป็นรัฐมนตรี แต่ขณะเดียวกันนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ถูกสำนักผู้ตรวจการแผ่นดินพูดถึงความไม่เหมาะสม พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว่า เรื่องนี้ทางนายกรัฐมนตรีต้องรับทราบแล้ว ท่านเป็นผู้ดูแลคณะรัฐมนตรี ต้องดูผลได้ ผลดี ผลเสียแล้ว และท่านเป็นผู้ตัดสินใจก็เป็นเรื่องของท่าน ทางทหารต้องเข้าใจว่า หากใครเป็นผู้บังคับบัญชาต้องให้เกียรติเขาและมีอำนาจหน้าที่แค่ไหน เช่น ตนเป็น รมว.กลาโหมให้อำนาจหน้าที่ผบ.เหล่าทัพได้แค่ไหน ต้องให้เกียรติเขาแค่ไหน ดังนั้นอยู่ที่ตัวคนเป็นนายที่ตัดสินใจภายใต้สิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เอาแต่ตัวเอง คนเป็นนายต้องดูตัวเองด้วย นายกรัฐมนตรีก็เช่นเดียวกันจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นเรื่องของท่านที่ต้องคิด เพราะท่านอยู่ในระดับประเทศ ท่านตัดสินใจอย่างไรก็ต้องเชื่อฟัง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการรักษาจริยธรรมกับการรักษามวลชน รัฐบาลต้องเลือกอย่างไหน พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามนายกรัฐมนตรี ตนตอบไม่ได้ มันมีข้อมูลทุกอย่างและท่านจะตัดสินใจเอง ส่วนจะเป็นการกดดันนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรีท่านอยู่ในตำแหน่งอย่างนี้ เรื่องนี้ท่านต้องทราบอยู่แล้ว เพราะตนเห็นท่านก็ถูกกดดันอยู่ทุกวันจากที่โน่นที่นี่ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีต้องเข้าใจว่า ท่านอยู่ในเกมนี้ก็ต้องโดนอย่างนี้ คิดว่าท่านเข้มแข็ง และถือเป็นผู้หญิงที่เก่งคนหนึ่ง