วานนี้ (24 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ส่งหนังสือถึงปลัดกระทรวงไอซีที เพื่อขอหนังสือเกี่ยวกับคำสั่งที่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการทุกชุดที่เกี่ยวข้องกับโครงการคอมพิวเตอร์มือถือสำหรับนักเรียนทุกคน (One Tablet PC Per Child) หรือแท็บเล็ต ป.1 เนื่องจากมีรายชื่อของคณะอนุกรรมการจัดซื้อแท็บเล็ตจำนวน 3 รายชื่อซ้ำอยู่ในคณะกรรมการตรวจรับแท็บเล็ต
น.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในฐานะคณะกรรมการจัดทำทีโออาร์แท็บเล็ต ป.1 และที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจรับแท็บเล็ต ป.1 กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสตง.ส่งหนังสือมาถึงปลัดไอซีทีเพื่อขอหนังสือเกี่ยวกับคำสั่งที่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการทุกชุดที่เกี่ยวข้องกับโครงการแท็บเล็ต ป.1 เนื่องจากพบว่ามีรายชื่อของคณะอนุกรรมการจัดซื้อแท็บเล็ตซ้ำกับรายชื่อคณะกรรมการตรวจรับ แต่เป็นเรื่องที่อธิบายได้ เพราะสาเหตุที่นำคนที่อยู่ในคณะอนุกรรมการจัดซื้อแท็บเล็ตไปเป็นคณะกรรมการตรวจรับ เพราะเป็นการนำคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเงื่อนไขการจัดซื้อและสัญญาที่ทำไปเป็นคณะกรรมการตรวจรับทำให้การทำงานต่อเนื่อง
“ข้าราชการทุกคนรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่รายชื่อของคณะกรรมการชุดหนึ่งต้องซ้ำกับคณะกรรมการอีกชุด แต่เรื่องของแท็บเล็ต ป.1 เป็นรายชื่อของคณะอนุกรรมการจัดซื้อซ้ำกับคณะกรรมการตรวจรับ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการทำงานเพื่อทำให้เกิดความต่อเนื่อง ขณะนี้กระทรวงไอซีทีจ่ายเงินล่วงหน้า 15% ให้กับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ในการผลิตแท็บเล็ต 400,000 เครื่อง แต่สโคปก็นำแบงค์การันตีวงเงิน 15% มาค้ำประกันการร่วมโครงการเช่นกัน รวมทั้งสโคปวางเงินประกันอีก 5%ของโครงการ หรือคิดเป็น 51 ล้านบาทให้กัลกระทรวงไอซีที ดังนั้นเมื่อพิจารณาแล้ววันนี้เงินของแผ่นดินยังไม่หายไปไหน โครงการนี้เป็นโครงการใหญ่มีคนจ้องมองทั้งประเทศใครจะไปกล้าทำอะไรที่ไม่ดี การที่สตง.เข้ามาตรวจสอบก็เป็นเรื่องดีจะได้รู้ว่าโครงการนี้ทำได้ความโปร่งใส” น.อ.สุรพล กล่าว.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังบริษัทเสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ เริ่มทยอยส่งมอบแท็บเล็ต ป.1 มาถึงไทยตามโครงการของรัฐบาลแล้ว ขณะนี้เริ่มส่อเค้ามีปัญหา เนื่องจากล่าสุดมีผู้นำภาพที่ชาร์จแบตเตอรี่ที่มีคำเตือนภาษาไทยผิด ๆ มาโพสต์ไว้ในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก จนเกิดคำถามขึ้นว่าจะปล่อยแท็บเล็ตที่ไม่ได้มาตรฐานไปถึงมือเด็กใช้กันจริง ๆ หรือไม่
โดยในภาพเป็นรูปสติกเตอร์คำเตือนที่ติดอยู่บริเวณส่วนแปลงกระแสไฟฟ้าว่า
คำเตือนได้ระบุไว้ว่า "เตือน 1.มือไม่สามารถเข้ามาติดต่อกับสองขาโลหะเมื่อเสียบที่ชาร์จ 2.ที่ดีที่สุดภายใต้การดูแลผู้ใหญ่ของการดำเนินการเมื่อเด็กเสียบที่ชาร์จ"
ซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องของแท็บเล็ตลอตแรกจำนวน 2,000 เครื่อง ซึ่งภาพดังกล่าวปรากฏมานานกว่าสัปดาห์แล้ว ทำให้มีการแสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวอย่างหลากหลาย ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยหากมีการปล่อยให้แท็บเล็ตที่มีคำเตือนที่ไม่ได้มาตรฐานเช่นนี้ไปให้เด็กใช้ เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นได้
ทั้งนี้ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตโพสต์ภาพคำเตือนที่ปรากฎอยู่บน อแดปเตอร์ที่เสียบชาร์จแบตเตอรี่ ของเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตป.1ในโครงการ One Tablet Per Child หรือ OTPC โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ซึ่งภาพดังกล่าวได้ถูกวิพากษ์จารณ์และส่งต่ออย่างกว้างขวางเนื่องจากคำเตือนดังกล่าวไม่สามารถสื่อความหมายได้
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เว็บไซต์ VoiceTV ได้เผยแพร่คลิป "Unboxing แท็บเล็ต ป.1" โดยเป็นการรีวิวเบื้องต้นว่า คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตป.1 มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร และภายในกล่องมีอุปกรณ์ใดบ้าง ซึ่งช่วงหนึ่งของคลิป พิธีกรอ่านคำเตือนที่ติดอยู่บนอแดปเตอร์พร้อมตั้งคำถามว่า คำเตือนนี้มีใครเข้าใจบ้าง ชมคลิป"Unboxing แท็บเล็ต ป.1"จากVoiceTV ได้ที่นี่ http://life.voicetv.co.th/living/41614.html
ด้าน น.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในฐานะคณะกรรมการจัดทำทีโออาร์แท็บเล็ต ป.1 และที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจรับแท็บเล็ต กล่าวยอมรับว่า ภาพที่ปรากฏในเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็นความจริง เบื้องต้นทางคณะกรรมการตรวจรับแท็บเล็ต ได้ท้วงติงไปยังบริษัทเสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตแท็บเล็ตแล้ว โดยให้เปลี่ยนคำเตือนดังกล่าวเสียใหม่ และยืนยันว่าแท็บเล็ตลอตใหม่ 10,000 เครื่องที่เพิ่งส่งมาถึงเมืองไทย ได้มีการปรับเปลี่ยนสติกเกอร์คำเตือนดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตามปัญหาแท็บเล็ต ป.1 ยังส่อเค้าบานปลาย เมื่อสมาชิกวุฒิสภาได้ออกโรงท้วงติงว่าแท็บเล็ตในโครงการผิดสเปกถึง 2 ประการ คือ 1.ขาปลั๊กสายไฟ 3 ขา เป็น 2 ขา และ 2.แท็บเล็ตไม่ได้รับการรับรองทางการแพทย์เรื่องการแพร่รังสี ล่าสุด ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงไอซีที เพื่อขอตรวจสอบหนังสือเกี่ยวกับคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการทุกชุดที่เกี่ยวข้องแล้ว.
น.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในฐานะคณะกรรมการจัดทำทีโออาร์แท็บเล็ต ป.1 และที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจรับแท็บเล็ต ป.1 กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสตง.ส่งหนังสือมาถึงปลัดไอซีทีเพื่อขอหนังสือเกี่ยวกับคำสั่งที่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการทุกชุดที่เกี่ยวข้องกับโครงการแท็บเล็ต ป.1 เนื่องจากพบว่ามีรายชื่อของคณะอนุกรรมการจัดซื้อแท็บเล็ตซ้ำกับรายชื่อคณะกรรมการตรวจรับ แต่เป็นเรื่องที่อธิบายได้ เพราะสาเหตุที่นำคนที่อยู่ในคณะอนุกรรมการจัดซื้อแท็บเล็ตไปเป็นคณะกรรมการตรวจรับ เพราะเป็นการนำคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเงื่อนไขการจัดซื้อและสัญญาที่ทำไปเป็นคณะกรรมการตรวจรับทำให้การทำงานต่อเนื่อง
“ข้าราชการทุกคนรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่รายชื่อของคณะกรรมการชุดหนึ่งต้องซ้ำกับคณะกรรมการอีกชุด แต่เรื่องของแท็บเล็ต ป.1 เป็นรายชื่อของคณะอนุกรรมการจัดซื้อซ้ำกับคณะกรรมการตรวจรับ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการทำงานเพื่อทำให้เกิดความต่อเนื่อง ขณะนี้กระทรวงไอซีทีจ่ายเงินล่วงหน้า 15% ให้กับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ในการผลิตแท็บเล็ต 400,000 เครื่อง แต่สโคปก็นำแบงค์การันตีวงเงิน 15% มาค้ำประกันการร่วมโครงการเช่นกัน รวมทั้งสโคปวางเงินประกันอีก 5%ของโครงการ หรือคิดเป็น 51 ล้านบาทให้กัลกระทรวงไอซีที ดังนั้นเมื่อพิจารณาแล้ววันนี้เงินของแผ่นดินยังไม่หายไปไหน โครงการนี้เป็นโครงการใหญ่มีคนจ้องมองทั้งประเทศใครจะไปกล้าทำอะไรที่ไม่ดี การที่สตง.เข้ามาตรวจสอบก็เป็นเรื่องดีจะได้รู้ว่าโครงการนี้ทำได้ความโปร่งใส” น.อ.สุรพล กล่าว.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังบริษัทเสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ เริ่มทยอยส่งมอบแท็บเล็ต ป.1 มาถึงไทยตามโครงการของรัฐบาลแล้ว ขณะนี้เริ่มส่อเค้ามีปัญหา เนื่องจากล่าสุดมีผู้นำภาพที่ชาร์จแบตเตอรี่ที่มีคำเตือนภาษาไทยผิด ๆ มาโพสต์ไว้ในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก จนเกิดคำถามขึ้นว่าจะปล่อยแท็บเล็ตที่ไม่ได้มาตรฐานไปถึงมือเด็กใช้กันจริง ๆ หรือไม่
โดยในภาพเป็นรูปสติกเตอร์คำเตือนที่ติดอยู่บริเวณส่วนแปลงกระแสไฟฟ้าว่า
คำเตือนได้ระบุไว้ว่า "เตือน 1.มือไม่สามารถเข้ามาติดต่อกับสองขาโลหะเมื่อเสียบที่ชาร์จ 2.ที่ดีที่สุดภายใต้การดูแลผู้ใหญ่ของการดำเนินการเมื่อเด็กเสียบที่ชาร์จ"
ซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องของแท็บเล็ตลอตแรกจำนวน 2,000 เครื่อง ซึ่งภาพดังกล่าวปรากฏมานานกว่าสัปดาห์แล้ว ทำให้มีการแสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวอย่างหลากหลาย ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยหากมีการปล่อยให้แท็บเล็ตที่มีคำเตือนที่ไม่ได้มาตรฐานเช่นนี้ไปให้เด็กใช้ เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นได้
ทั้งนี้ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตโพสต์ภาพคำเตือนที่ปรากฎอยู่บน อแดปเตอร์ที่เสียบชาร์จแบตเตอรี่ ของเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตป.1ในโครงการ One Tablet Per Child หรือ OTPC โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ซึ่งภาพดังกล่าวได้ถูกวิพากษ์จารณ์และส่งต่ออย่างกว้างขวางเนื่องจากคำเตือนดังกล่าวไม่สามารถสื่อความหมายได้
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เว็บไซต์ VoiceTV ได้เผยแพร่คลิป "Unboxing แท็บเล็ต ป.1" โดยเป็นการรีวิวเบื้องต้นว่า คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตป.1 มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร และภายในกล่องมีอุปกรณ์ใดบ้าง ซึ่งช่วงหนึ่งของคลิป พิธีกรอ่านคำเตือนที่ติดอยู่บนอแดปเตอร์พร้อมตั้งคำถามว่า คำเตือนนี้มีใครเข้าใจบ้าง ชมคลิป"Unboxing แท็บเล็ต ป.1"จากVoiceTV ได้ที่นี่ http://life.voicetv.co.th/living/41614.html
ด้าน น.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในฐานะคณะกรรมการจัดทำทีโออาร์แท็บเล็ต ป.1 และที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจรับแท็บเล็ต กล่าวยอมรับว่า ภาพที่ปรากฏในเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็นความจริง เบื้องต้นทางคณะกรรมการตรวจรับแท็บเล็ต ได้ท้วงติงไปยังบริษัทเสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตแท็บเล็ตแล้ว โดยให้เปลี่ยนคำเตือนดังกล่าวเสียใหม่ และยืนยันว่าแท็บเล็ตลอตใหม่ 10,000 เครื่องที่เพิ่งส่งมาถึงเมืองไทย ได้มีการปรับเปลี่ยนสติกเกอร์คำเตือนดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตามปัญหาแท็บเล็ต ป.1 ยังส่อเค้าบานปลาย เมื่อสมาชิกวุฒิสภาได้ออกโรงท้วงติงว่าแท็บเล็ตในโครงการผิดสเปกถึง 2 ประการ คือ 1.ขาปลั๊กสายไฟ 3 ขา เป็น 2 ขา และ 2.แท็บเล็ตไม่ได้รับการรับรองทางการแพทย์เรื่องการแพร่รังสี ล่าสุด ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงไอซีที เพื่อขอตรวจสอบหนังสือเกี่ยวกับคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการทุกชุดที่เกี่ยวข้องแล้ว.