วิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร จิ๊กซอว์ตัวอันตราย แก๊งโกงสอบตำรวจ

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- เป็นประเด็นที่ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง กับกรณีการทุจริตสอบเข้าเป็นตำรวจชั้นประทวน หรือ นายสิบตำรวจประจำปี 2555 ที่ครั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นการทุจริตสอบตำรวจครั้งมโหฬาร เพราะมีการจับกุมผู้เข้าสอบที่ติดเครื่องมือสื่อสารได้เป็นจำนวนมากแทบทุกสนามสอบ ที่สำคัญมีการทำกันเป็นขบวนการใหญ่ ที่มีการแบ่งงาน และจัดโครงสร้างการทำงานอย่างเป็นระบบ

หลังเรื่องนี้แดงขึ้นทำให้ "บิ๊กอ๊อบ" พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ถึงกับควันออกหู สั่งให้กระชากหน้ากากตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการทุจริตการสอบตำรวจครั้งนี้ให้ได้!

พร้อมกันนี้ได้มีคำสั่งตั้งมือสอบสวนอย่าง พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.ควบคุมการตรวจสอบทุจริตครั้งนี้ทันที ขณะเดียวกันได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาอีก 3 ชุด ประกอบด้วย พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร.มีหน้าที่ตรวจสอบเทคโนโลยีต่างๆ ที่ขบวนการทุจริตเหล่านี้ใช้ในการโกงสอบ รวมทั้งการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ

ขณะเดียวกันให้ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องข้าราชการตำรวจ หากเข้าข่ายกระทำผิดจะดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดทันที และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ตรวจสอบข้อบกพร่องในการจัดสอบ ดำเนินการแก้ไขและกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อให้การสอบครั้งต่อไปเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม

สำหรับการสืบสวนสอบสวนเอาผิดขบวนการทุจริตครั้งนี้ดำเนินไปอย่างเข้มข้น และมีความคืบหน้าตามลำดับ ดังนี้

- 11 มิ.ย.55 พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รอง ผบช.ภ.ภาค 3 ในฐานะ ประธานอำนวยการสอบนายสิบตำรวจ ประจำปี 2555 พื้นที่สนามสอบกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จับกุม นางเตือนใจ พงษ์พันธ์ อาชีพข้าราชการครู ชาว จ.ศรีสะเกษ นายปัญญาศักดิ์ นิลเพ็ชร ชาว จ.ศรีสะเกษ นายสมชาย แสงทอง ชาว จ.ศรีสะเกษ นายธนกร วิเศษ และนางศตพร วิเศษ ชาว จ.ศรีสะเกษ รวมทั้งผู้เข้าสอบทั้งหมด 21 ราย พร้อมของกลาง ชุดอุปกรณ์ส่งสัญญาณ 2 ชุด แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ 21 แผ่น วิทยุสื่อสารยี่ห้อไอคอม 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง เงินสดที่ได้จากการทุจริต 10,500,000 บาท และเอกสารรายชื่อผู้เข้าสอบ รวมทั้งหลักฐานธุรกรรมทางการเงินจำนวนหนึ่ง

โดยการจับกุมครั้งนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย สามารถตรวจสอบคลื่นสัญญาณวิทยุ คลื่นความถี่ 433 Mhz. ในสนามสอบใน จ.นครราชสีมา ช่วงเวลาก่อนจะเริ่มเข้าห้องสอบ จึงมีการสั่งการให้ตรวจสอบผู้เข้าสอบทุกราย โดยพบเครื่องรับสัญญาณวิทยุ เป็นอุปกรณ์ลักษณะเป็นแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์สี่เหลี่ยม กว้าง 2 เซนติเมตร ยาว 4 ซม. ห่อด้วยพลาสติกสีเขียว ซุกซ่อนอยู่ในกางเกงชั้นในของผู้เข้าสอบ จากการสอบสวนให้การว่าขึ้นรถตู้จากศรีสะเกษมาด้วยกัน 3 คันรถ และเข้าพักที่ โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองโคราชก่อนที่จะรับแจกอุปกรณ์สื่อสารกันในช่วงเช้า และแยกย้ายกันเข้าห้องสอบ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุมนางเตือนใจได้ที่โรงแรม พร้อมเงินสดบางส่วน และอุปกรณ์ส่งสัญญาณ ขณะที่ นางเตือนใจ ได้ให้การซัดทอด นายดาชัย อุชุโกศลการ ผู้สมัครนายก อบจ.ลำปางและรองประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ประจำภาคเหนือ เป็นผู้ที่ประสานงานและนำอุปกรณ์สื่อสารดังกล่าวมาให้

ขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกันตำรวจภูธรภาค 3 ได้ขออนุมัติหมายจับนายวิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร์ เป็นชาว อ.งาว จ.ลำปาง ซึ่งจากแนวทางสืบสวนของตำรวจระบุว่าเป็นตัวการใหญ่ ประสานผู้อยู่เบื้องหลัง และเป็นตัวเชื่อมกับขบวนการทุจริตทุกภาคทั่วประเทศ

- 12 มิ.ย.55 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา นำหมายเรียกของพนักงานสอบสวนมาเชิญตัวนายดาชัย ขณะกำลังเดินหาเสียงที่ตลาดบ้านฟ่อน ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง เข้าทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองลำปาง พร้อมเข้าตรวจค้นที่ทำการสนามฟุตซอลลำปางยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทั้งที่ตั้งสำนักงานกลุ่มพลังลำปาง สถานีวิทยุชุมชนกลุ่มพลังลำปาง ศูนย์อำนวยการการเลือกตั้งนายก อบจ.ลำปาง ของนายดาชัยด้วย และมีห้องนอนส่วนตัวของนายดาชัย อยู่ในอาคารที่มี 2 ชั้น เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังนำนายดาชัยไปร่วมตรวจค้นบ้านส่วนตัวที่บ้านเกิดใน อ.งาว จ.ลำปางและบ้านญาติ อีก 4 หลัง ใน ต.ปงเตา อ.งาว

-13 มิ.ย.55ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง และ บก.สส.บช.ภ.9 เข้าจับกุมตัว น.ส.กนกวรรณ ไม้แก้ว ชาว จ.พัทลุง หลังก่อเหตุในพื้นที่ ต.หนองปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2555 ทั้งนี้ เนื่องจาก น.ส.กนกวรรณ ได้เดินทางไปสมัครสอบตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภาค 2 โดยก่อนสอบได้เข้าไปพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในกทม. และได้ร่วมกับพวกซักซ้อมการทุจริตในการสอบตำรวจในห้องพักในโรงแรม จนมีการจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันกระทำความผิด และขยายผลมาสู่การจับกุมดังกล่าว โดยในขั้นต้น น.ส.กนกกาญจน์ ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.วีระชัย เสฏฐปัญโญ ผกก.สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง พร้อมพวกเข้าจับกุมตัว น.ส.ดุษฎี ด้วงชู ชาว จ.พัทลุง ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันมีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต

- 16 มิ.ย. 55ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการจับกุม ว่าที่ ร.ต.เอกชัย ใจคำท้าว และ น.ส.วัณณา ทานุสา พร้อมของกลางเป็นอุปกรณ์ส่งสัญญาณ คู่มือวิธีส่งสัญญาณรหัส และคู่มือแปลสัญญาณรหัส สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

ช่วงค่ำวันเดียวกัน พล.ต.ต.เกษียร วรศิริ รอง ผบช.ภ.6 จับกุมตัว นายเจ๊ง ร้ายกลับดี ชาว จ.ลพบุรี โดยจับกุมตัวได้ ในพื้นที่ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี โดยนายเจ๊ง เป็นนายหน้าเครือข่าย จ.ลพบุรี ในการติดต่อผู้ปกครองของผู้ต้องการสอบโดยตรง ซึ่งก็มีผู้ปกครองสนใจพาบุตรหลานมาติดต่อกับนายเจ๊ง จำนวน 15 ราย เป็นคนในพื้นที่ อ.โคกเจริญ อ.ท่าวุ้ง และ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีกคน คือนายสมสิทธิ์ จันทรกวี เครือข่าย จ.พิจิตร ที่เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมและถูกออกหมายจับแล้ว ทั้งนี้ นายเจ๊ง ให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับนายวิบูลศักดิ์ แสนจักร์ ชักชวนให้หาคนมาสมัครสอบเข้าตำรวจ

- 17 มิ.ย.55 ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุม ร.ต.ต.เพชร พรหมทวีพร รองสวป. สภ.เชียงม่วน จ.พะเยา และนายธีรศักดิ์ นันทะเสน โดยนายธีรศักดิ์ เป็นผู้จัดหาลูกค้าใน จ.น่าน และจังหวัดใกล้เคียง หลังได้ลูกค้าแล้วจะประสานงานและแนะนำให้รู้จักกับ ร.ต.ต.เพชร เพื่อให้โอนเงินให้แก่ ร.ต.ต.เพชร ที่ทำหน้าที่รวบรวมเงินพร้อมจัดหาอุปกรณ์ส่งสัญญาณให้กับลูกค้า

-18 มิ.ย.55ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ เข้าจับกุมนายวิทยา พงษ์พันธ์ ชาว จ.ศรีสะเกษ โดยนายวิทยา เป็นผู้มีส่วนร่วมในการทุจริตการสอบตำรวจที่สนามสอบ จ.นครสวรรค์ โดยเป็นผู้ที่ขับรถตู้นำผู้สมัครสอบ จำนวน 12 คน ไปสอบแข่งขันที่ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ สำหรับนายวิทยา เป็นพี่ชายของ ด.ต.วิชรานุสรณ์ พงษ์พันธ์ สังกัด สภ.เมืองศรีสะเกษ ที่ถูกสั่งย้ายด่วนไปช่วยราชการที่ตำรวจภูธรภาค 3 และเป็นสามีของ นางเตือนใจ พงษ์พันธ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้

-19 มิ.ย. 55 พ.ต.อ.นิกร เข็มทอง รองผบก.ภ.จ.นครสวรรค์ ร่วมกับ พ.ต.อ.ปราการ ประจง รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษจับกุม ด.ต.วชิรานุสรณ์ พงษ์พันธ์ สภ.เมืองศรีสะเกษ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันมีร่วมกันใช้วิทยุโทรคมนาคมโดยผิดกฎหมาย ซึ่ง ด.ต.วชิรานุสรณ์ เป็นสามีนางเตือนใจ พงษ์พันธ์ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้เป็นล็อตแรก

- 20 มิ.ย. 55 พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.วชิรานุสรณ์ พงษ์พันธ์ และ ส.ต.อ.ประสาร วงศ์ชา มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 2 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังทั้ง 2 นาย มีส่วนพัวพันในคดีโกงสอบเข้าตำรวจ จนถูกศาลจังหวัดนครราชสีมา ออกหมายจับ

จะเห็นได้ว่าในห้วงเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา การสืบสวนขยายผลของตำรวจมีความคืบหน้าไปมาก มีจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการนี้ได้เป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่แล้วกว่า 32 ราย โดยทั้งหมดถูกตั้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และจะถูกดำเนินการยึดทรัพย์โดย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)

แต่รายสำคัญที่ตำรวจต้องการตัวมากที่สุด และยังคงหลบหนีอยู่ คือ นายวิบูลย์ศักดิ์ หรือ อบ แสนจักร์ อายุ 29 ปี อาชีพวิศวกร ชาวจ.ลำปาง ที่ถูกกองบังคับการตำรวจภูธรนครราชสีมา ออกหมายจับ

พล.ต.อ.ปานศิริ ระบุด้วยว่า สำหรับนายวิบูลย์ศักดิ์นั้น ตามประวัติมีอาชีพเป็นวิศวกรที่ทำสัญญาณกันขโมยตามบ้าน แต่ได้มาทำหน้าที่เป็นฝ่ายเทคนิคของขบวนการนี้ กล่าวคือเป็นผู้สั่งซื้อเครื่องส่ง และรับสัญญาณวิทยุ นอกจากนี้ยังเป็นตัวกลางสำคัญที่คอยประสานไปยังผู้ต้องหากลุ่มต่างๆ

"เชื่อได้ว่านายวิบูลย์ศักดิ์ เป็นตัวจักรสำคัญที่ทำให้ขบวนการนี้ขับเคลื่อนไปได้ เพราะเมื่อสอบสวนไปยังเครือข่ายแต่ละสาย ที่จับกุมได้ในแต่ละพื้นที่ ต่างก็มีการกล่าวอ้างถึงนายวิบูลย์ศักดิ์ จึงเชื่อได้ว่า นายวิบูลย์ศักดิ์ เป็นทั้งฝ่ายประสานด้านวิชาการ และเทคนิค จึงกำชับให้ทีมสืบสวน เร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้ เชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในพื้นที่กทม."รองผบ.ตร.ระบุ และเชื่อว่ามีตัวการที่ใหญ่กว่านี้อีก

ขณะที่ในส่วนของการเตรียมจัดสอบครั้งใหม่นั้น แม้จะยังไม่กำหนดวันเวลาที่แน่นอน โดย พล.ต.อ.พงศพัศ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานการจัดสอบใหม่ ได้สรุปว่า จะใช้สนามสอบในส่วนภูมิภาคเป็นหลัก แยกเป็นภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้และส่วนภาคกลางและกทม.อีก 1 สนาม ซึ่งจะให้ไปจัดหาสนามสอบที่เป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ในแต่ละภูมิภาคที่มีพื้นที่สามารถจุคนสอบได้ประมาณ 2 หมื่นคน เพื่อที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพัฒนาขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตรวจโลหะ เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์และวิทยุความถี่ต่ำ

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้สั่งให้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือหน่วยอีโอดี มาให้ช่วยเหลือในการตรวจสอบระบบของอุปกรณ์การสื่อสาร เพิ่มเติมจากเครื่องตรวจสอบโลหะ ส่วนข้อสอบจะออกใหม่ทั้งหมด คณะกรรมการจะใช้ชุดเดิมแต่จะมีปรับปรุงใหม่ ถึงตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดวันสอบใหม่ เนื่องจากต้องรอเรื่องสนามสอบที่ต้องเป็นสถานที่ที่ว่างพร้อมกัน และต้องรอขั้นตอนการออกข้อสอบใหม่ด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ในวันนี้จิ๊กซอว์หลายๆ ตัวในคดี จะเริ่มมีการต่อจนเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น และเริ่มโยงใยไปยังหัวหน้าขบวนการที่อยู่ระดับกลางจนถึงระดับบน แต่พยานหลักฐานยังไม่มีความชัดเจนมากนัก โดยเฉพาะตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังมาลงโทษได้ทั้งหมด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู เหมือนคดีทุจริตสอบตำรวจหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา