ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - รอง ผบช.ภาค 3 เผยตรวจสอบกระดาษคำถามข้อสอบแล้ว 104 ห้องจากทั้งหมดกว่า 900 ห้อง พบผู้ทุจริต “นายสิบตำรวจ” สนามสอบโคราชแล้วร่วม 1,000 ราย เชื่อมีผู้โกงอีกหลายพันรายจากผู้สมัครสอบกว่า 3.6 หมื่นราย เตรียมเรียกมาเค้นสอบทั้งหมด ล่าสุดศาล จ.นครราชสีมา อนุมัติหมายจับแก๊งโกงสอบตำรวจเพิ่มอีก 1 ราย ระบุเป็นคนสาธิตใช้เครื่องรับสัญญาณแก่ผู้สอบใน รร.กลางเมืองโคราช ส่วนผู้ต้องหาชาวลำปางที่หลบหนี 1 รายยังล่องหน
วันนี้ (15 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทุจริตการสอบแข่งขันบุคคลภายนอกเพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ยศสิบตำรวจตรี ประจำปี 2555 ส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 สนามสอบ จ.นครราชสีมา หลังจากได้เข้าประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งเป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 เปิดเผยว่า ผลจากการตรวจสอบกระดาษคำถามข้อสอบของผู้เข้าสอบตั้งแต่เมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) จนถึงวันนี้ (15 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไปแล้วทั้งสิ้น 104 ห้อง จากห้องสอบของสนามสอบ จ.นครราชสีมา ทั้งหมดกว่า 900 ห้อง พบกระดาษคำถามข้อสอบที่มีการจดคล้ายรหัสที่ใช้ในการทุจริตสอบแล้วจำนวนทั้งสิ้น 999 ชุด หรือจำนวนผู้สอบ 999 ราย ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบรหัสประจำตัวว่าเป็นของผู้สอบเข้ารายใด จากนั้นจะได้มีการเรียกตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมทั้งหมด
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าหากตรวจสอบกระดาษคำถามทั้งหมดเสร็จสิ้น น่าจะมีการพบผู้ทุจริตการสอบครั้งนี้ในสนามสอบ จ.นครราชสีมา เป็นจำนวนมากหลายพันคนแน่นอน จากผู้สมัครสอบแข่งขันทั้งสิ้น 36,706 คน โดยเบื้องต้นจะเรียกผู้สอบที่พบกระทำการทุจริตรวมถึงผู้ปกครอง มาสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อติดตามเครือข่ายขบวนการทุจริตสอบตำรวจครั้งนี้ทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.จักรทิพย์กล่าวอีกว่า ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ ( 15 มิ.ย.) พ.ต.ท.อนันต์ หูแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้เดินทางไปขออนุมัติศาลจังหวัดนครราชสีมา เพื่อออกหมายจับ นายโต ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง อายุประมาณ 25-30 ปี ผิวขาว หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรมวีวัน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่ง เป็นสถานที่ที่ขบวนการดังกล่าวใช้เป็นจุดซักซ้อมการทุจริตสอบกับกลุ่มผู้เข้าสอบ และจากการสอบถามพบว่า “นายโต” เป็นผู้ที่มาแนะนำสาธิตการใช้อุปกรณ์รับสัญญาณ
ศาลจังหวัดนครราชสีมาได้อนุมัติหมายจับที่ 179/2555 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2555 ให้ตามคำขอของพนักงานสอบสวน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันมีและใช้วิทยุโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งจะได้ส่งหมายจับดังกล่าวไปยังสถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัวดังกล่าว
ส่วน นายวิบูลย์ศักดิ์ แสนจักร์ อายุ 29 ปี ชาว ต.ปงเตา อ.งาว จ.ลำปาง ผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ยังหลบหนี และเป็นตัวเชื่อมโยงขบวนการทุจริตสอบที่สำคัญ ล่าสุดยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ ทำให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้จำนวน 6 ราย ตามการระดมกำลังตรวจค้นขยายผลจับกุมไปก่อนหน้านี้ พร้อมยึดทรัพย์เป็นเงินสดกว่า 10 ล้านบาทและของกลางเป็นจำนวนมาก