ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจภาค 2 นำหมายจับเข้าจับกุม 2 สาวชาวพัทลุง หลังมีหลักฐาน และพยานเกือบ 90 ปาก โดยไปเปิดโรงแรมที่ซอยลาดพร้าว 112 แจกอุปกรณ์ และสอนการใช้เครื่องรับสัญญาณ 3 วัน ค่าจ้างวันละ 1 พันบาท ตร.คาดว่า จะติดคุกไม่ต่ำกว่าคนละ 50 ปี
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และ พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุข ผบก.สส.ภ.2 พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวหลัง พ.ต.ท.ชาตรี สุขศิริ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 นำหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี และกำลังไปจับกุม น.ส.กนกวรรณ ไม้แก้ว อายุ 24 ปีได้ที่บ้านเลขที่ 59 ม.6 ต.ปรางหมู่ อ.เมือง จ.พัทลุง ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 386/2555 และ น.ส.ดุษฎี ด้วงชู อายุ 21 ปี ได้ที่บ้านเลขที่ 162 ม.4 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ 388/2555 คดีในความผิดฐาน 2 ข้อหา คือ “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันมีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า ทั้ง 2 คนมีพฤติกรรม คือ ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนจนทราบว่า ทั้งสองคนได้ร่วมกับตัวการใหญ่ที่อยู่ในภาคเหนือ โกงการสอบคัดเลือกนายสิบตำรวจทั่วประเทศ ด้วยการร่วมกันเป็นผู้เปิดห้องพักให้เช่าที่โรงแรม เพอร์เฟครีสอร์ท ซ.ลาดพร้าว 112 กทม.เป็นเวลา 3 วัน เพื่อแจก และสอนการใช้อุปกรณ์เครื่องมือส่งสัญญาณแบบสั่น เพื่อให้ผู้สมัครสอบนายสิบตำรวจทุจริตการสอบคัดเลือก เพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ต่อมา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนหลบหนีกลับไปอยู่ที่บ้าน จ.พัทลุง จึงประสานงาน ตร.ภ.9 และติดตามจับกุมได้ดังกล่าว สอบสวนทั้งสองคนยอมรับว่า เป็นผู้มาเปิดห้องพัก และร่วมกันสอนวิธีการทุจริตข้อสอบ โดยการใช้เครื่องส่งสัญญาณแบบสั่นจริง และได้ค่าจ้างคนละพันบาทต่อวัน เป็นเวลา 3 วัน นอกจากนั้น บอกว่าไม่รู้ว่าตัวการใหญ่เป็นใคร หรือผู้ร่วมขบวนการเป็นใครบ้าง
พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของจังหวัดชลบุรี มีสนามสอบ 2 แห่ง จากการตรวจค้นพบผู้ที่ทุจริตพกเครื่องส่งสัญญาณแบบสั่นในตัว คือ สนามสอบที่ ร.ร.ชลกันยานุกูล หรือชลหญิง จำนวน 30 นาย และที่ ร.ร.บ้านสวนจั่นอนุสรณ์ จำนวน 65 นาย โดยขบวนการนี้ มีตัวการใหญ่อยู่ที่ภาคเหนือ และได้รับเงินจากผู้ทุจริตสนามสอบที่ชลบุรีทั้ง 95 นาย ไปแล้วจำนวน 1.6 ล้านบาท และหากสอบเสร็จสิ้น จะต้องรับเงินจากทั้งหมดอีก 43 ล้านบาท
สำหรับการทำงานนั้น มีด้วยการ 10 สาย แบ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการทำหน้าที่ต่างๆ เช่น หาลูกค้า แจก และสอนอุปกรณ์ ขณะนี้เชื่อว่า จากผู้สมัครสอบกว่า 270,000 คน ผู้ที่ทุจริตน่าจะมีกว่า 2,000 คน และการส่งสัญญาณก็จะเป็นแบบ ข้อ ก. สั่น 1 ครั้ง ข้อ ข. สั่น 2 ครั้ง ข้อ ค.สั่น 3 ครั้ง ซึ่งเชื่อว่าการส่งสัญญาณน่าจะไม่ตรงกับคำตอบของข้อสอบ แต่น่าจะเป็นการตกเบ็ด เพื่อให้ผู้สมัครสอบซื้อเครื่องและไปมั่วทำข้อสอบ แบบฟลุกติด ก็มาจ่ายเงินเพิ่มมากกว่า โดยขณะนี้ กำลังขยายผลไปสู่ผู้ต้องหาอื่นๆ อีก แต่เชื่อว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถึงแม้จะไม่รับสารภาพ แต่ก็จำนนด้วยหลักฐานและประจักษ์พยาน เนื่องจากผู้ทุจริตก็สอบให้การมาเป็นร้อยๆ ปาก น่าจะติดคุกไม่ต่ำกว่า 50 ปี
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้งสองคนไปสอบสวน และยังไม่ให้ประกันตัวแต่ประการใด และทั้งสองคนก็รู้สึกผิด ที่หลงกลไปทำงานกับขบวนการ ได้แต่ร้องไห้ด้วยความเสียใจ