xs
xsm
sm
md
lg

เว็บนาซาปัดจีนไฟเขียวใช้ฐานฮ่องกง-จับโกหกครม.ปู-มะกันกดดันขู่ถอนตัว26มิ.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - สังคมออนไลน์ จับไต๋ครม.ปู พูดโกหก! เปิดหลักฐานเว็บนาซายันจีนไม่เคยอนุญาตใช้ฮ่องกงเป็นฐานศึกษา “ปึ้ง”อ้างหนังสือนาซา ขอยกเลิก! กดดันรัฐบาลหาก 26 มิ.ย.ครม.ไม่ประเคนอู่ตะเภาให้สหรัฐฯ ยะใสจี้ระวังติดคุกเหมือนยกพระวิหาร หวั่น!สหรัฐเหมือนตอนช่วยอาเจะห์

วานนี้ (20 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายสังคมออนไลน์ ในกลุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊ค มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณีสหรัฐอเมริกาขอให้รัฐบาลไทย พิจารณาให้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือมนุษยธรรมและการศึกษาชั้นบรรยากาศ ซึ่งมีการถกเถียงกันอย่างหนัก ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ไม่มีการพิจารณาวาระดังกล่าวในการประชุมเมื่อวันอังคารที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุดมีการนำประเด็นที่คณะรัฐมนตรี อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ, พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ต่างออกมายืนยันว่า จีนเห็นด้วย และเคยให้ฮ่องกงศึกษาเรื่องดังกล่าวมาแล้ว โดยเครือข่ายสังคมเฟซบุ๊กได้ตรวจสอบในเว็บไซต์นาซา โดยเฉพาะ http://espo.nasa.gov/missions/seac4rs พบว่าไม่เป็นความจริง โดยรัฐบาลจีนไม่ยินยอมให้ศึกษาตามโครงการ SEAC4RS แต่อย่างใด และสำนักข่าวซินหัวกระบอกเสียงรัฐบาลจีน เคยระบุว่า รัฐบาลจีนกังวลเรื่องดังกล่าวเช่นกัน

สำหรับเนื้อหาที่มีการระบุ ปรากฏถ้อยคำดังนี้คือ "รัฐบาลจีนปฏิเสธไม่ให้ นาซาใช้ฮ่องกงเป็นฐานศึกษาชั้นบรรยากาศ"

กรณีอู่ตะเภาตามข้อเสนอของ นาซา เพื่อใช้อู่ตะเภาเป็นฐานศึกษาชั้นบรรยากาศในโครงการ SEAC4RS นั้นกำลังเป็นประเด็นที่น่าสนใจหลาย ๆ ฝ่ายกังวลว่า สหรัฐฯ อาจใช้เป็นข้ออ้างในการแอบสอดแนมทางทหารและความมั่นคงเพื่อคุกคามจีน และในฐานะที่ไทยเป็นประเทศเล็ก การยินยอมให้สหรัฐฯ โดย นาซา ใช้อู่ตะเภานั้นอาจจะเป็นการชักศึกเข้าบ้านได้โดยไม่จำเป็น ดังนั้น การพิจารณาในเรื่องดังกล่าวนั้นควรกระทำด้วยความรอบคอบและระมัดระวังอย่างยิ่ง

เมื่อศึกษาลงไปรายละเอียดของโครงการนี้จากข้อมูลที่ "เปิดเผย" โดย นาซาจะเห็นได้ว่า SEAC4RS เป็นการศึกษาชั้นบรรยากาศในด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีเค้าโครงและเป้าหมายที่ชัดเจน โดยไม่พบความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการสอดแนมหรือกิจกรรมทางด้านการทหาร แต่สิ่งที่น่าสนใจและน่าสงสัย คือ

1.ในเมื่อเป็นการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ เหตุใดรัฐบาลจีนจึงไม่ยินยอมให้ใช้ฮ่องกงเป็นฐานการสำรวจตามข้อเสนอของ นาซา ?

2.ทั้ง ๆ ที่ นาซาเองก็ยอมรับว่า ไม่ได้รับความยินยอมจากรัฐบาลจีนในการใช้ฮ่องกงเป็นฐานฯ ตามโครงการ SEAC4RS และทั้ง ๆ ที่สำนักข่าวซินหัวซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลจีนก็แถลงว่า เรื่องนี้ได้สร้างความกังวลเช่นกัน

แต่เหตุใดรัฐบาลไทย ทั้งนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ฯลฯ จึงกล่าวอ้างว่า “รัฐบาลจีนไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ และก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนก็เคยยอมให้ นาซา ใช้ฮ่องกงเป็นฐานปฏิบัติการโดยไม่มีปัญหาเช่นกัน" ? เครือข่ายสังคมออนไลน์ ในกลุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊คตั้งข้อสังเกต

**“นพดล”เผย“แม้ว”เล็งเข้าสหรัฐ

ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพบปะเพื่อนฝูงและนักธุรกิจ และจะอยู่จนถึงประมาณวันที่ 23 มิ.ย. ก่อนเดินทางกลับดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่จะแวะที่ใดอีกหรือไม่ตนยังไม่ทราบ

ต่อข้อถามถึงการเดินทางไปยังสหรัฐฯ นั้น เห็นว่า การเดินทางไปสหรัฐฯอยู่ในใจของพ.ต.ท.ทักษิณ เพียงแต่กรอบเวลายังไม่ชัดเจน เพื่อเป็นบทพิสูจน์ว่าที่ผ่านมาท่านถูกการเมืองในประเทศกระทำ

สำหรับประเด็นเรื่องการขอใช้อู่ตะเภาของสหรัฐฯ เพื่อแลกเปลี่ยนวีซ่าให้พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายนพดล กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลจะเอาอู่ตะเภาแลกวีซ่าให้พ.ต.ท.ทักษิณก็เท่ากับคิดสั้น รัฐบาลไม่ทำแน่นอน พ.ต.ท.ทักษิณจะเข้าสหรัฐฯได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับเหตุผลคำขอของตัวท่านเอง

**ปึ้งอ้างนาซาชิ่งหาก26มิ.ย.ไม่เข้าครม.

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ แถลงชี้แจงว่า ที่ยังไม่สามารถเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ได้ เนื่องจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ยังไม่นำความเห็นอย่างเป็นทางการเข้ามา ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวสามารถเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม. ได้ โดยไม่ต้องผ่านสภา ตาม ม.190

ทั้งนี้ การประชุม ครม. ในวันที่ 26 มิ.ย. เรื่องดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาอย่างแน่นอน แต่หากไม่สามารถพิจารณาในวันดังกล่าวได้ ทางนาซาได้ทำหนังสือมาแล้วว่าจะขอถอนโครงการ เพราะไม่สามารถเตรียมตัวในการศึกษาได้ทัน

"ทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาได้ส่งจดหมายของนาซา บอกว่าจำเป็นต้องได้คำตอบภายใน วันที่ 26 มิ.ย.นี้ ถ้ายังไม่มีคำตอบ ก็ต้องยกเลิก เพราะว่าเขาต้องนำอุปกรณ์และเตรียมตัว ล่วงหน้าก่อนเดือนสิงหาคมที่จะดำเนินโครงการ สัปดาห์หน้าจะเสนอเข้าครม.แน่นอน" นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องดังกล่าวได้ผ่านการหารือจาก 18 หน่วยงานสำคัญของประเทศไทยแล้ว และเห็นว่าเป็นประโยชน์มากกว่าข้อกังวลทางด้านการเมือง รวมทั้งขอยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องการกับแลกวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แน่นอน เพราะเป็นโครงการที่ต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา

**“บิ๊กโอ๋”ยังอ้างฮ่องกงไฟเขียวนาซา

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม แถลงว่า ขณะนี้นาซายังไม่ได้สอบถามอะไร ตนคาดว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศดูแล โดยทางประเทศจีนไม่ได้สอบถามอะไร และไม่มีปัญหาอะไร รวมทั้งไม่ได้เสดงความห่วงอะไรเลย มีแต่คนไทยเท่านั้นที่ห่วงแทนประเทศจีน และจีนก็ไม่ได้มีการทำหนังสือขอคำชี้แจงอะไร หากมีเรื่องอะไรกระทบกับจีนทางจีนคงพูดไปแล้ว วันนี้ทางจีนก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไรอย่างที่ตนเคยชี้แจงไปแล้วว่าทางเขตบริหารพิเศษฮ่องกงก็อนุญาตให้นาซาเข้าไปดำเนินการเช่นกัน ทั้งที่ฮ่องกงเป็นเขตบริหารพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีนจีน อีกทั้งทางประเทศกัมพูชาและสิงคโปร์ก็อนุญาตให้เครื่องบินทั้ง 3 ลำของนาซาขึ้นบินสำรวจเหนือน่านฟ้า เพื่อภารกิจทำการวิจัยในเรื่องนี้ เพราะเป็นประโยชน์ของทั้งโลก ไม่ใช่ของประเทศไทยหรือของน่าซ่า หรือเฉพาะภูมิภาคนี้

**จวกพวกโยงการเมืองไม่รักชาติ

เพื่อความโปร่งใสสหรัฐจะต้องชี้แจงหรอไม่นั้น หากให้สหรัฐฯทำความเข้าใจกับคนไทยเราต้องอายเขา เพราะคนไทยทำความเข้าใจกันเองไม่ได ซึ่งในวันนี้เราบอกหมดเปลือกแล้ว และผู้สื่อข่าวก็รู้เท่ากับตน แต่ต้องถามว่าพอใจหรือไม่ ยังห่วงอะไรอีกก็บอกมา ตนจะรีบไปดูให้ อย่าไปนึกว่า และคาดว่าเอง ควรรักประเทศชาติบ้าง

** จับตา"จิ้ง จื่อ หยาง"พบ ประยุทธ

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีนายปลอดประสพ ระบุว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว หากจะเข้ามาตรา 190 (2) ที่ต้องให้รัฐสภาพิจารณาอนุมัติก่อนนั้นก็ต้องเอาเข้าตั้งแต่ยุคนั้น ซึ่งถือเป็นความเข้าใจผิดเพราะ เอกสารความตกลงดังกล่าวที่นำมาแสดงนั้น เป็นเอกสารระหว่าง สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) กับนาซาซึ่งเป็นเรื่องของหน่วยงานกับหน่วยงาน ไม่เข้าข่าย190(2) จะต้องเป็นการลงนามระหว่างรัฐต่อรัฐ เช่น นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนแห่งรัฐหรือรัฐมนตรีที่ได้รับอำนาจให้ลงนามแทนรัฐไทย

นอกจากนี้ คำแถลงของนายปลอดประสพ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ก็ ยืนยันว่าโครงการนี้มีการหารือกันตั้งแต่ มี.ค.54 ซึ่งไม่เกี่ยวกับเอกสารที่นำมาแสดงว่ามีการทำข้อตกลงกันสมัยรัฐบาลที่แล้วเมื่อ 28 ก.ย. 2553 อีกทั้งการที่ระบุว่าเอกสารดังกล่าวไม่มีการเขียนว่าให้ใช้สนามบินที่ไหนแสดงว่านาซาจะเลือกใช้สนามบินได้ตามใจชอบ ซึ่งการพูดแบบนี้ทางนาซาจะเอาคำพูดของรัฐมนตรีประเทศไทยไปตีความว่าเขาสามารถใช้สนามบินแห่งไหนก็ได้ในประเทศไทยตามการอนุญาตของรัฐมนตรี

“อยากถามว่าทำไมในวันที่ 22 มิ.ย. 14.30 น. พล.อ.จิ้งจื่อหยางผู้บัญชาการกองกำลังปลดปล่อยประชาชนจีนถึงต้องเข้าพบพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ซึ่ง ต้องระวังให้มาก ยิ่งเขาเห็นว่ารัฐมนตรีวิทยาศาสตร์มีความรู้เท่านี้อย่าว่าแต่สู้กับนาซาเลยแค่สู้กับประเทศกัมพูชาก็แพ้แล้ว”

**"มาร์ค"ท้า"ปลอด"ร้อง ป.ป.ช.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายปลอดประสพควรจะไปร้องต่อ ป.ป.ช. เพราะเวลานี้สังคมต้องการความชัดเจน ความโปร่งใส และเรื่องนี้มันก็จะชัดเจนว่า จะต้องเข้าสภาตามมาตรา 190 ( 2)ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ว่าถ้าบอกว่า เรื่องไม่มีอะไร แต่ก็ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ก็เป็นเรื่องแปลก เพราะจะส่งผลกระทบในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ แล้วก็หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องไปทำตรงนี้

**ทบ.ยันผบ.จีนถกไม่เกี่ยว"อู่ตะเภา"

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงถึงวัตถุประสงค์ในการเยี่ยมเยียนของพล.อ.จิ้งจื่อหยาง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนกับกองทัพบกไทย เป็นไปตามแผนการต้อนรับผู้นำทางทหารของมิตรประเทศและเป็นไปตามแผนแม่บท ในการปฎิบัติงานด้านการต่างประเทศของกองทัพบก แผนการเยือนครั้งนี้ได้ถูกกำหนดล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว ยืนยันว่าการเข้าพบครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่นาซาขอใช้สนามบินอู่ตะเภา และในขณะนี้กองทัพบกก็ยังไม่ได้รับข้อมูล หรือข้อกังวลใดๆที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมาไทยกับจีนเคยมีความร่วมมือทางด้านการฝึกทางทหารเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา

**ยะใสจี้ระวังติดคุกเหมือนคดีเขมร

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวถึงกรณีที่ รมว.กลาโหม ออกมาระบุว่าคนที่ค้านเป็นพวกไม่รักชาติว่า พล.อ.อ. สุกำพล เป็นแค่นักการเมืองคนหนึ่ง จิตวิญญาณความเป็นชายชาติทหารบกพร่องไปแล้ว ไม่ได้ค้านแบบหัวชนฝา แต่สังคมต้องการทราบข้อเท็จจริง ทั้งนี้หาก ครม.อนุมัติเรื่องนี้โดยไม่ผ่านรัฐสภา กลุ่มกรีนได้เตรียมคำร้องเพื่อยื่นต่อศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ระงับมติ ครม.ไว้แล้ว ซึ่งจะยื่นเอาผิดตั้งแต่นายกฯ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะ และผู้นำเหล่าทัพด้วย
“รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะนายสุรพงษ์ ควรกลับไปดูบทเรียนที่อาจจะมีคนติดคุก กรณีมติ ครม. ที่ลงนามรับรองแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา โดยยกปราสาทพระวิหารให้กับพูชา แต่สุดท้ายศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาให้ระงับแถลงการณ์ดังกล่าว”นายสุริยะใสกล่าว

** จี้ระวังสหรัฐเหมือนตอนช่วยอาเจะห์

พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวในเวทีสัมมนาของ คอป. ว่า หลายปีที่ผ่านมาครั้งที่เกิดเหตุการณ์สึนามิครั้งใหญ่สหรัฐฯนำเครื่องบินขึ้นอ้างว่าจะนำไปรับผู้ประสบภัยในอาเจะห์ แต่กลับนำไปสำรวจและถ่ายภาพฐานทัพสร้างความไม่พอใจให้ประเทศคู่ขัดแย้งกับมหาอำนาจสหรัฐฯ ขณะนี้มีการต่อสู้เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างตะวันตกกับตะวันออก ประเทศตะวันตกมองประเทศตะวันออกและจีนว่าเป็นภัยคุกคาม เป็นคอมมิวนิสต์เป็นพวกชอบคุกคาม แต่วันนี้มีความชัดเจนว่าจีนไม่เคยเคลื่อนกำลังทหารไปอยู่ต่างประเทศ การเมืองของไทยแค่โจมตีกันไปมาแต่ไม่เคยมองผลประโยชน์ของประเทศ กรณีนี้จึงอยากฝากให้พิจารณาอย่างรอบคอบ ยืนยันว่าที่ผ่านมาสหรัฐฯมีความพยายามจะเข้ามาขอใช้พื้นที่ในไทยเป็นที่ตั้งเช่น เคยขอเช่าเกาะภูเก็ต แต่กองทัพเรือไม่อนุญาต
กำลังโหลดความคิดเห็น