xs
xsm
sm
md
lg

ปรองดองแค่ช่วงพักรบ สว.สรุปก่อนปิดสมัยประชุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 18 พ.ค. ) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยก่อนจะเข้าสู่วาระการประชุม นายวิเชียร คันฉ่อง ส.ว.ตรัง ได้หารือถึงร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน วันนี้แต่ละกลุ่มได้ตั้งกลุ่มขึ้นมาไม่ว่าจะเสื้อเหลือง เสื้อแดง ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ทำให้เห็นว่าโอกาสที่จะปรองดองเกิดขึ้นยาก เพราะในร่างพ.ร.บ.ฯก็เขียนไว้กว้างขวาง การย้อนหลังไปถึงปี 48 หมายความว่าอย่างไร อยากให้ระบุให้ชัดว่ามีกรณีไหนบ้างที่จะไม่ผิด อย่างคดีที่ศาลพิพากษาไปแล้วจะพ้นความผิดอย่างไร ประเด็นเหล่านี้ต้องชัดเจน เพราะอาจเป็นปัญหาต่อไปในวันหน้า รัฐบาลจะให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมได้ไหม อย่างคดีการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย ที่อัยการเพิ่งส่งฟ้องก็ชัดเจน ที่สำคัญต้องสอบถามประชาชนทั่วประเทศก่อนว่าจะให้เรื่องไหนบ้างที่ไม่มีความผิด
ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า ขณะนี้พ.ร.บ.ปรองดองอยู่ในช่วงพักรบชั่วคราว แต่สามารถนำขึ้นมาพิจารณาได้ เพราะอยู่ในวาระแรกของการประชุม รู้สึกไม่สบายใจที่มีคนไปพูดในรายการวิทยุรัฐสภา เพื่อโน้มน้าวประชาชน ว่าจะทำให้เกิดความปรองดอง วันนี้ทุกคนกินข้าวรู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นการนิรโทษกรรมแน่นอน ทำไมต้องย้อนไปถึงปี 48 เพราะเกี่ยวข้องคดีทุจริตทั้งสิ้น ทั้งคดี ซีทีเอ็กซ์ เอ็กซิมแบงก์ คดีขายหุ้นโดยไม่ต้องจ่ายภาษี รวมถึงการอนุมัติโครงการต่างๆ และต่อเนื่องมาจนถึงปี 54 ที่เกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมทุกคดี ดังนั้นรัฐบาลต้องแจงว่ามีทั้งหมดกี่คดี ทั้งของฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายต่อต้าน และคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตจะมีการนิรโทษกรรมหรือไม่
นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า สิ่งที่กังวลคือเมื่อรัฐสภาปิดแล้ว ทั้งพรรคฝ่ายค้าน พรรครัฐบาลไปตั้งเวทีนอกสภา เพื่อปลุกระดมขยายผลความคิดของตัวเอง ซึ่งมีทั้งมวลชนและโทรทัศน์เลือกข้างเป็นเวทีปลุกระดม ที่จะเป็นปัญหากับบ้านเมือง ความสามัคคีไม่เกิดความปรองดองไม่มี แต่ที่ต้องขอบคุณคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่พูดเตือนสติให้คนที่ยั่วยุทหารทำรัฐประหาร ให้ไปทำปฏิวัติเอง อย่างไรก็ตามหากเป็นไปได้อยากให้เสนอเปิดเวทีให้กับส.ว.ได้พูดคนละ 5-10 นาที เพื่อให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ดีกว่าปล่อยบ้านเมืองไปอย่างนี้
นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า วันนี้ทุกฝ่ายกำลังสร้างปัญหา ไม่ใช่แก้ปัญหาให้บ้านเมือง รัฐบาลกำลังนำองค์กรตัวเองเข้าไปสู่ปัญหา วันนี้บ้านเมืองมีปัญหามากอยู่แล้วโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ จากวิกฤตยูโรโซน ความขัดแย้งไม่ใช่สิ่งพึงปรารถนา ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่จะต้องเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองเข้ามาให้เกิดความกดดันกัน เอาเวลาไปมุ่งแก้ปัญหาปากท้อง จะได้ประโยชน์และได้เครดิตกว่า การตั้งเวทีซ้อนเล่นกันช็อตต่อช็อตไม่ใช่แนวทางที่ดี
นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า มีคนพูดว่าเดือนนี้เผาหลอก เดือนตุลาคมเผาจริง ต่างฝ่ายต่างพูดยุแยงประชาชนให้ต่อสู้กัน ทุกอย่างมาจากแกนนำ แต่ประชาชนต้องเดือดร้อน เรื่องนี้แก้ง่ายถ้าผู้นำยอมไม่เสนอ ไม่ว่าจะเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ยังไม่หนักหนาเท่า ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หากไม่เสนอก็ไม่มีคนออกชุมนุมไล่ ชื่อปรองดอง แต่เนื้อในเป็น พ.ร.บ.แตกแยก
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลายคนพยากรณ์ว่าเลือดจะนองท้องช้าง จะเกิดความรุนแรงมากกว่าครั้งใดๆ ซึ่งตนห่วงตามที่หลายคนวิเคราะห์ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นความขัดแย้งทางโครงสร้าง ห่วงผลกระทบเพราะเล็งเห็นว่าความรุนแรงที่จะเกิดมันน่ากลัว ความคิดความเชื่อที่ขัดกันจะไม่มีปัญหาเลย ถ้าประโยชน์มันไม่ขัดกัน ความรุนแรงเริ่มมาจากความรู้สึกเกลียด จากนั้นนำไปสู่ความคิดและการกระทำ
นายวิเชียร คันฉ่อง ส.ว.ตรัง ได้หารือว่า เรื่อง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน วันนี้แต่ละกลุ่มได้ตั้งกลุ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะเสื้อเหลือง เสื้อแดง ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ทำให้เห็นว่าโอกาสที่จะปรองดองเกิดขึ้นยาก
จากนั้นเวลา 13.30 น. นางพรทิพย์ โล่วีระ จันทร์รัตนปรีดา รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แจ้งผลงานของวุฒิสภา ในสมัยสามัญนิติบัญญัติ และให้เลขาธิการวุฒิสภา อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าปิดสมัยประชุม

**กลุ่มต้านโผล่จัดฉากหวังชิงมวลชน
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) หรือ กองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมตัวจัดกิจกรรมต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า เป็นสิ่งที่น่าแปลกใจ ที่กลุ่มคอมมิวนิสต์เก่ารวมตัวเพื่อสนับสนุนและปกป้องกลุ่มอำมาตย์ อย่างไรก็ตามตนมองว่ากิจกรรมที่ทำนั้น เป็นการแย่งมวลชนในพื้นที่อีสาน ของพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ภาคอีสานมากกว่า และตนเชื่อว่ากลุ่ม ผรท. ไม่สามารถทำได้ เพราะคนเสื้อแดงในพื้นที่อีสานมีความคิดและอุดมการณ์ที่มั่นคง และยึดมั่นในตัวของพรรคเพื่อไทย
นายก่อแก้วยังกล่าวไม่เห็นด้วยต่อประเด็นที่พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัยเพื่อโต้ตอบพรรคประชาธิปัตย์ในการจัดเวทีปราศรัย เนื่องจากว่าประเด็นนี้กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ต่างๆ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ส่วนประเด็นที่ทางสมาชิกวุฒิสภาระบุว่าการตั้งเวทีปราศรัยนอกสภาฯ ของฝ่ายค้านและประชาธิปัตย์เป็นการสร้างความแตกแยกให้กับประชาชน ตนไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้นเพราะการตั้งเวทีตามที่ต่างๆ เป็นการนำเสนอข้อมูลในแต่ละด้านให้ประชาชนรับรู้ จากนั้นให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจa

**“เพื่อไทย”ผุด 3 แผนแก้เกมปชป.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยว่า ที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการเสนอร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติที่ถูกฝ่ายค้านนำไปบิดเบือนข้อเท็จจริงตามเวทีปราศรัยจนประชาชนสับสนว่า เป็นการทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติให้สมาชิกพรรคจัดกิจกรรมระหว่างปิดสมัยประชุม 3 อย่างคือ 1.จัดเวทีกำหนดโครงการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ทางการเมืองใน 300 เขตทั่วประเทศ
2.จัดเวทีปราศรัย 19 โซน ๆ ละ 2 จังหวัด เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ โดยแกนนำพรรคจะลงไปช่วยปราศรัยเพื่อเปิดเกมรุกโต้กลับพรรคประชาธิปัตย์ด้วย โดยใช้มวลมหาประชาชนเป็นหลังพิง จะไม่ตั้งรับเหมือนสมัยพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชน และ 3.จัดสัมมนาส.ส.เพื่อไทยภายหลังจากที่ไปรับฟังความเห็นและให้ความรู้ประชาชนในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ เพื่อกำหนดท่าทีของพรรคเพื่อไทยในการทำหน้าที่ในสภาฯ สมัยประชุมสามัญทั่วไป โดยคาดว่าจะสามารถจัดสัมมนาได้ประมาณวันที่ 23-24 ก.ค.

**คำแก้ข้อหาล้มล้างถึงศาลรธน.แล้ว
อีกด้านนายสมฤทธิ์ ไชยวงศ์ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าในการส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ถูกร้องในคำร้องที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญมีผลทำให้เป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ ว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. มีผู้ถูกร้อง 3 รายได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามายังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี พรรคชาติไทยพัฒนา และนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และคณะ โดยยังมีผู้ถูกร้องอีก 3 รายที่ยังไม่ส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาคือรัฐสภา พรรคเพื่อไทย และนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคณะ ที่ได้รับหนังสือและจะครบระยะเวลา 15 วันที่ต้องชี้แจงกลับมาคือวันที่ 19 และ 20 มิ.ย. หากชี้แจงมาหลังระยะเวลาดังกล่าวก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะตุลาการฯที่จะพิจารณาว่ามีเหตุผลเพียงพอและจะรับไว้พิจารณาหรือไม่แต่หากไม่ชี้แจงมาเลยก็จะถือว่าไม่ติดใจ
ส่วนที่นายสุนัย ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดพรรคเพื่อไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา จึงต้องยื่นคำชี้แจงเพราะการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญทำในนามส.ส.ไม่ใช่ในนามพรรค นายสมฤทธิ์ กล่าวว่า ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พท. และชทพ.เป็นผู้ถูกร้องด้วย เนื่องจากในคำร้องของผู้ร้องที่ร้องเข้ามายังศาลได้มีข้อกล่าวหาถึง ส.ส.และคณะ รวมถึง พรรคการเมืองที่ดำเนินการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญด้วย ทำให้ศาลจึงต้องมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ถูกกล่าวหายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
กำลังโหลดความคิดเห็น