xs
xsm
sm
md
lg

ปัดยุบอพท. ททท.ลุ้นงบ สู้ศึกอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สถาบันพัฒนาบุคคลากรการท่องเที่ยวฯ ลุ้นงบปี 56 เผยชงเรื่องขอ 100 ล้านบาท สำหรับพัฒนาอบรมบุคคลการ และจัดทำสื่อการเรียน ยอมรับ ที่ผ่านมาขาดแคลนงบประมาณ เป็นเหตุให้งานด้านฝึกอบรมล่าช้า

นางจันทรา อุไรรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคคลากรการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สถาบันมีความจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณในการจัดทำหลักสูตร เพื่อพัฒนาบุคคลากรทางการท่องเที่ยว เป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่การแข่งขัน เมื่อเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558 ดังนั้นในปีงบประมาณ 2556 ทาง สถาบัน จึง จัดทำแผนงานเพื่อเสนอของบประมาณราว 100 ล้านบาท สำหรับ ใช้จัดทำหลักสูตรพัฒนา ใน 9 ตำแหน่งงาน ด้านการท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ธุรกิจโรงแรม แบ่งเป็น ตำแหน่งงานในกลุ่มธุรกิจบริษัทนำเที่ยว(ทราเวลเอเจนซี่) 4 ตำแหน่งงาน และ ตำแหน่งในธุรกิจค้าส่งทัวร์ หรือ ทัวร์โอปอเรชั่น อีก 5 ตำแหน่งงาน

สำหรับงบประมาณอีกส่วนหนึ่ง จะใช้เพื่อจัดทำสื่อผสม ประกอบการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถให้กับบุคคลากรที่เป็นผู้สอน และ พัฒนาหลักสูตรการเรียนสำหรับผู้เรียน ในที่นี้ จะรวมถึงการจัดทำเว็บไซต์เพื่อเป็นสื่อการเรียนในรูปแบบ อี-เลินนิ่ง และ การจัดทำเว็บลิงค์ เพื่อใช้ประสานงานกับประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยแผนงานทั้งหมด เบื้องต้น จะทำเป็นภาษาไทย แต่หากมีงบเพียงพอ อาจทำเป็นภาษาอังกฤษควบคู่กันไป

“สถาบันได้เตรียมแผนการทำงานด้านพัฒนาบุคคลากรไว้หมดแล้ว แต่ติดปัญหาขาดแคลนงบประมาณ เพราะ ทางสำนักจะได้งบสำหรับพัฒนาบุคคลากรเฉลี่ยปีละ 2-3 ล้านบาท แต่ปี 2555 เริ่มดีขึ้นได้รับงบ 20 ล้านบาท จึงเริ่มเดินหน้าดครงการจริงจัง จัดทำหลักสูตรพัฒนาบุคคลกร 32 ตำแหน่งงาน ในที่นี้เป็นแรงงานในธุรกิจโรงแรม 20 ตำแหน่ง การอบรม ได้เซ็น MOU ร่วม 6 มหาวิทยาลัย คลุมทุกภูมิภาค สร้างเป็นเครือข่ายในการพัฒนาบุคคลากร เป็นโครงการต่อเนื่อง 3 ปี เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่การแข่งขันหลังเปิด AEC “

ส่วนกรณีกระแสข่าวที่จะถอดหรือยุบเลิก องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เบื้องต้น มติ ครม. ยังไม่ชี้ชัด มากเพียงแต่ให้ไปศึกษา อย่างไรก็ตาม นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เคยระบุว่า ต้องการให้ อพท. คงสถานภาพเดิม เพื่อความคล่องตัวในการทำงาน แต่อาจเปลี่ยน มาขึ้นตรงกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ แทนการขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม เพื่อให้เกิดการบูรณาการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวไม่ให้ซ้ำซ้อนกับโครงการที่กรมท่องเที่ยวรับผิดชอบอยู่ ซึ่งหาก โอนมาจริง กระทรวงอาจเสนอห้พนักงานเดิมที่สนใจโอนมาเป็นข้าราชการได้
กำลังโหลดความคิดเห็น