xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ไม่หวั่นถูกร้องยุบพรรค ชี้เกมการเมือง-ขู่ฟ้องเรืองไกร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (14 มิ.ย.) ที่รัฐสภา ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา ในฐานะหัวหน้าทีมฯ ได้แถลงถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยอ้างว่าเสียง ส.ส.สนับสนุนให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2551 ไม่เกินกึ่งหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนด ว่า ต้องขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ได้รับคำร้องไว้ เพราะเป้าหมายของนายเรืองไกร ที่ยื่นเพื่อต้องการที่จะโจมตีศาลรัฐธรรมนูญว่า 2 มาตรฐานหากไม่รับคำร้อง ซึ่งตนยืนยันว่า นายเรืองไกร มีสิทธิ์ยื่นคำร้องได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ในกรณีที่เห็น หรือทราบการกระทำที่จะล้มล้างการปกครอง แต่เรื่องนี้เป็นเพียงเกมการต่อรองเท่านั้น เพราะทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทย จะถูกร้องให้ยุบพรรค ก็จะมีการหยิบยกเรื่องขึ้นมาเพื่อยุบพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน แต่เผอิญข้อกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เป็นความจริง ขณะที่พรรคไทยรักไทย กลับคดโกงการเลือกตั้ง โดยสมคบกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา จนในที่สุดศาลได้สั่งจำคุก ซึ่งทุกวันก็ยังบ่นน้อยใจกับพรรคเพื่อไทย ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ทำอะไรเลย
นายวิรัตน์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่า 46 ส.ส.ที่ถูกยุบพรรค เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 51 ได้ลงมติให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 172 ของรัฐธรรมนูญ โดยสมาชิกภาพยังเป็นส.ส.อยู่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (8) ระบุว่า เมื่อส.ส.ถูกยุบพรรคจะต้องหาพรรคสังกัดให้ได้ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง
แต่การลงมติวันดังกล่าว คือ 15 ธ.ค. 51 คือหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเพียงแค่ 13 วันเท่านั้น ดังนั้นคำร้องของนายเรืองไกร จึงเป็นเท็จทั้งสิ้น และเชื่อว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ก็จะยกคำร้อง และเชื่อว่าต่อไปก็จะยกกรณีนี้กล่าวโจมตีว่าศาลรัฐธรรมนูญ 2 มาตรฐาน ตนคิดว่าเรื่องนี้นายเรืองไกร รู้ แต่ต้องการใส่ร้าย จึงโกหก โดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง เรื่องนี้เป็นการต่อรองกับพรรคเพื่อไทย เพราะแม้นายเรืองไกร จะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่อาจจะได้เป็น ส.ส.ร. หรือ ส.ว. หากได้ทำผลงานให้ผู้ใหญ่เห็น จึงต้องสร้างผลงาน

**"ชวนนท์"กัดฟันชมศาลรธน.

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า แนวทางการต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจว่าไม่มีปัญหาใดๆ แต่อยากจะหยิบยกการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ของนายเรืองไกร ในครั้งนี้ เป็นการยื่นโดยตัวบุคคล ไม่ได้มีการผ่านอัยการสูงสุดแต่อย่างใด ซึ่งก็เปรียบเสมือนการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ชะลอการลงมติวาระ 3 เพราะฉะนั้นคำว่าสองมาตรฐาน หรือ อำมาตย์และไพร่ ไม่ได้มีอยู่จริง เพราะมีการแสดงให้เห็นแล้วว่า ศาลไม่ได้มีการเลือกสี หรือเลือกข้าง อย่างที่รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องพยายามจะบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความสับสนให้กับประชาชน และอยากเรียกร้องว่า อย่างนำเอาสถาบันเบื้องสูง หรือองค์กรอิสระ มาเป็นเงื่อนไขอีก

** ขู่"เรืองไกร"เจอแจ้งความเท็จ

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนอยากจะฝากไปถึงนายเรืองไกร ที่ทุกคนรู้ดีว่าคือเนื้อเดียวกับกับพรรคเพื่อไทย ให้ไปศึกษาข้อกฎหมายให้ดีกว่านี้ เพราะจะได้ไม่ทำให้ผู้อื่นเสียเวลา
สำหรับคดีที่นายเรืองไกรได้ยื่นยุบพรรคประชาธิปัตย์ หากศาลตัดสินยกคำร้อง นายเรืองไกร จะต้องรับผิดชอบทางกฎหมายอาญาในข้อหาแจ้งความเท็จ
ทั้งนี้ตนอยากจะแนะนำนายเรืองไกร ให้ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพราะเวลาในการฟ้องร้องผู้อื่น จะได้มีความชัดเจน โดยเดินทางไปพร้อมกับ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยได้เลย
กำลังโหลดความคิดเห็น