xs
xsm
sm
md
lg

เปิดประชุมรัฐสภารับทราบคำสั่งศาลฯ พท.ยันไม่ผูกพันสภา ปชป.จี้ชะลอโหวตไปก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)
“สมศักดิ์” เปิดประชุมรัฐสภารับทราบคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญแล้ว อดีตปธ.กมธ.แก้รธน.ยันคำสั่งไม่มีผลต่อสภา ปัดแก้เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง ลั่นตุลาการแทรกแซงนิติบัญญัติไม่ได้ ต้องทำให้เป็นบรรทัดฐาน ด้านผู้ยื่นคำร้องวินิจฉัย ซัดอัยการสูงสุดถ่วงเวลาไม่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ยัน ม.68 ยื่นศาลเลยได้ เป็นไปตามเจตนารมณ์ ส.ส.ร.จี้ชะลอออกไปจนกว่าจะมีคำพิพากษา ระบุเลื่อนไปชาติก็ไม่เสียหาย

วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.30 น. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ได้เปิดการประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ กรณีศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ทั้งนี้ นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 อภิปรายว่า รัฐสภาต้องดำเนินการบางประการเพื่อให้เกิดบรรทัดฐาน เพราะศาลรัฐธรรมนูญจะผูกพันรัฐสภาได้อย่างเดียวก็ต่อเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 216 ซึ่งกรณีเป็นเพียงคำสั่งศาลเท่านั้น จึงไม่มีผลผูกพันแต่อย่างใด

“ที่ผ่านมาถูกกล่าวหามาตลอดว่ากำลังแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนรูปแบบการปกครองของรัฐทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะรัฐสภาได้ยึดหลักการที่ถูกต้องมาตลอด ศาลรัฐธรรมนูญจะเข้ามาแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยไม่ได้ ถ้ารัฐสภาไม่ดำเนินการอะไรให้เป็นบรรทัดฐานต่อไปก็เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ต่อไปอีก” นายสามารถกล่าว

ด้าน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหนึ่งในผู้ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กล่าวว่า การทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญเพราะอัยการสูงสุดไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญปล่อยให้เวลาผ่านไปนานมาก และเพิ่งจะมาดำเนินการเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. หากศาลรัฐธรรมนูญไม่มีคำสั่งออกมาก็หมายความว่ารัฐสภาคงได้ลงมติไปแล้ว

“ยืนยันว่าสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 เป็นของประชาชนส่วนหนึ่งด้วยผ่านการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญนอกเหนือไปจากการยื่นอัยการสูงสุดเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของสภาร่างรัฐธรรมนูญ และการพิจารณาคุ้มครองของศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นไปอย่างถูกต้องแล้ว เพราะการใช้อำนาจตามข้อกำหนดของศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย พ.ศ. 2550 เพื่อคุ้มครองชั่วคราวถือว่าถูกต้องเนื่องจากในรัฐธรรมนูญมาตรา 300 กำหนดว่าในระหว่างที่ไม่มี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญออกข้อกำหนดใช้เป็นการอนุโลมไปก่อนได้” นายวิรัตน์กล่าว

นายวิรัตน์กล่าวว่า รัฐสภาควรชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ออกไปก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย เพราะในความเป็นจริงถ้ารอการลงมติออกไปประเทศชาติก็ไม่ได้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น