บุรีรัมย์ - “นิคม” รอง ปธ.วุฒิสภา คนที่ 1 วอนศาลเร่งวินิจฉัยร่าง แก้ รธน. ตาม ม.68 ยุติความสงสัย-ความขัดแย้ง แนะอย่าดื้อเข็น พ.ร.บ.ปรองดอง ล้างผิด “แม้ว” ในรัฐบาลชุดนี้ ชี้เมื่อสังคมไม่ยอมรับไม่ควรเดินหน้าต่อ ต้องหยุด ระบุออกกม.สร้างความปรองดองไม่ได้
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังเป็นประธานเปิด โครงการเสริมสร้างความพร้อมแก่ท้องถิ่นหลักสูตร “กระบวนการเสริมสร้างผู้นำนักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม” ให้แก่เยาวชน นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สายสามัญ และสายอาชีพ ในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 120 คน ที่ห้องประชุมประโคนชัย โรงแรมเทพนคร อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กรณี ความเห็นต่างระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับอัยการสูงสุดถึงอำนาจในการวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 ว่า เป็นเรื่องของการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เป้าหมายคือต้องการให้ประชาชนที่รู้เบาะแสสามารถแจ้งเบาะแสได้
แต่วิธีการแจ้งนั้นหากเราเปิดในเว็บไซต์ของศาลรัฐธรรมนูญดูว่า ผู้ที่ละเมิด หรือต้องการเปลี่ยนแปลง กระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สามารถร้องไปที่อัยการ จากนั้นอัยการก็จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีมูลก็จะแจ้งมาที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสั่งการและระงับเหตุที่เกิดขึ้น อันนี้คือขั้นตอน
เวลานี้ปรากฏว่าประชาชนไปร้องที่อัยการและไปร้องที่ศาลด้วย อาจทำให้ศาลมองว่ามันน่าจะทำได้ แต่เมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้นอย่างนี้ สิ่งที่อัยการออกมาวินิจฉัยนั้น เป็นความคิดของอัยการซึ่งก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งนั้นเราไม่ก้าวล่วง เพราะเป็นท่านผู้ทรงคุณวุฒิทั้งนั้น แต่อาจจะมาดูว่าจะหาข้อยุติกันยังไง
วิธีการที่ดีที่สุดขณะนี้คือ ศาลรัฐธรรมนูญนั้นต้องเร่งวินิจฉัยโดยด่วน อย่าปล่อยให้สังคมเคลือบแคลงอย่าปล่อยประชาชนสงสัย อย่าปล่อยให้เกิดความขัดแย้ง จึงต้องเร่งที่จะให้มีคำวินิจฉัยออกมาโดยเร็ว
นายนิคม ยังกล่าวถึงการพยายามผลักดัน พ.ร.บ. ปรองดอง เข้าสู่การพิจารณาของสภา ว่า เมื่อออกมาแล้วถ้าสังคมยังไม่ยอมรับ แม้จะมีจำนวนไม่มาก ก็ไม่ควรที่จะเดินหน้าต่อ ต้องหยุด เพราะการที่จะออกกฎหมายเพื่อสร้างความปรองดองนั้นเป็นเรื่องที่ยาก ความปรองดองต้องเกิดจากความเข้าใจ ต้องให้อภัย ต้องรู้จักให้รู้จักรับ สิ่งต่างๆ จึงคิดว่า กฎหมายปรองดองในรัฐบาลชุดนี้ สมัยนี้ไม่น่าจะนำมาพิจารณาต่อ