ศูนย์ข่าวภูเก็ต-น้ำป่ายังทะลักเข้าท่วมเมืองระนอง-ชุมพรไม่หยุด จนบางพื้นที่เข้าสู่ภาวะวิกฤต เผยหมู่บ้านในอำเภอกระบุรี น้ำสูงร่วม 3 เมตรหนักสุดในรอบ 15 ปี ขณะที่พายุฝนถล่มกระบี่-ตรังซ้ำ สังเวยแล้ว 3 ศพ ส่วนภูเก็ตต้นไม้หักโค่น ป้ายโฆษณาล้มทับบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายยับ อุตุ เตือน 6-7 ใต้อาจโดนน้ำท่วมฉับพลัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้าวานนี้ (6 มิ.ย.) ได้เกิดน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 1-4 บ้านผักหนาม บ้านสองแพรก ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง ระดับสูงสุดประมาณ 3 เมตร บ้านเรือนจมอยู่ในน้ำกว่า 20 หลัง สวนเกษตร เช่น สวนยาง สวนปาล์ม และสวนผลไม้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทาง อ.กระบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านออกมาอยู่ยังที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า น้ำท่วม จ.ระนอง ครั้งนี้ถือว่ามากกว่าครั้งพายุซีตาร์ เมื่อปี 2540 ใน 15 ปีที่ผ่านมา
ส่วนในพื้นที่ อ.กะเปอร์ ช่วงเวลา 12.00 น.ได้มีน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 3 ตำบลประกอบด้วย ต.กะเปอร์,ต.บางหิน และ ต.บ้านนา ทำให้ชาวบ้านกว่า 3,000 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนต้องอพยพออกจากพื้นที่มาอาศัยบ้านญาติ และตามถนนที่ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งเต้นท์ที่พักไว้ให้
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวถึงเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นว่า ทางจังหวัดได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนถึงการเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ประชาชนคาดไม่ถึงว่าน้ำป่าจะมีมากมหาศาลขนาดนี้ จนทำให้ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือและเยียวยาให้เร็วที่สุดแล้ว
"สถานการณ์ฝนตกหนักที่อาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน รวมไปถึงดินเลื่อนไหลตามแถบเชิงเขา ยังต้องเฝ้าระวังกันต่ออีก 2-3 วันนี้" นายพีระศักดิ์กล่าวเตือน
**ชุมพรวิกฤตท่วมแล้วกว่า5พันหลัง
ส่วนในพื้นที่ จ.ชุมพร จากที่ได้เกิดฝนตกหนักมาตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.จนถึงวานนี้ (6 มิ.ย.) ทำให้เมื่อคืนวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาท่วมพื้นที่ต่างๆ ใน จ.ชุมพร ขยายวงกว้างและรุนแรงขึ้นตามลำดับจนเข้าสู่ภาวะวิกฤต
ขณะที่นายพินิจ เจริญพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยออกเตือนชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสั่งให้เตรียมพร้อมการอพยพชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ทันท่วงที และประสานงาน หน่วยทหาร อบจ.ชุมพร เตรียมยานพาหนะ อุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์กู้ชีพเพื่อออกให้ความช่วยเหลือชาวบ้านทันทีที่ได้รับการร้องขอ รวมถึงสถานีวิทยุที่สถานีในพื้นที่ จ.ชุมพร ให้รายงานสถานการณ์ให้ชาวบ้านได้รับทราบตลอดเวลา
**พายุถล่มกระบี่-ตรังตาย 3 ราย
ที่ จ.กระบี่ มีรายงานข่าวว่า เบื้องต้นมีบ้านเรือนได้รับเสียหายจากพายุฝนถล่มเมื่อช่วงเช้าวานนี้กว่า 30 หลังคาเรือน สวนยางพารากว่า 10 ไร่ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย จากสาเหตุขับรถจักรยานยนต์ชนกับต้นไม้ที่ล้มขวางถนน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 5 มิ.ย. คือ นายธีระพงษ์ ขยันการ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.5 ต.ไสไทย เหตุเกิดบนถนนสายอ่าวน้ำเมา-สไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถจักรยายนต์กลับจากทำงาน มุ่งหน้ากลับบ้าน แต่เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนอ่าวน้ำเมา มีต้นสนขนาดใหญ่ล้มขวางหน้า ผู้ตายพุ่งชนเข้าอย่างจังเ ซึ่งญาตินำส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขณะที่ จ.ตรังช่วงเวลา 04.30 น.ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ทำให้ต้นพะยูง อายุประมาณ 70 ปี 3 ต้นที่ปลูกไว้ในศูนย์ประสานงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง บริเวณถนนป่าไม้ เขตเทศบาลเมืองกันตัง ได้ล้มทับบ้านพักของเจ้าหน้าที่และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นางทิพวรรณ ปลอดทอง อายุ 32 ปี และ ด.ญ.ณัฐณิชา กุลพัตร์ หรือน้องนกยูง อายุ 2 ปี 7 เดือน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ได้ช่วยกันนำเครื่องเลื่อยยนต์เข้าไปตัดต้นพะยูงขนาดใหญ่ที่ล้มทับบ้านพักของเจ้าหน้าที่ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นชั้นเดียว เพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างอีก 1 คน คือ นายจิระศักดิ์ กุลพัตร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 7 ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ซึ่งรอดชีวิตอย่างหวุดหวิดโดยมีเพียงบาดแผลที่ใบหน้า และขาซ้ายจากการถูกกิ่งไม้และของมีคมบาดเท่านั้น
**พายุถล่มภูเก็ตป้ายโฆษณาล้มทับบ้านยับ
ส่วนพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวันวานนี้รวมทั้งมีลมกระโชกแรงส่งผลให้เกิดเหตุน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ต้นไม้โค่นล้ม ป้ายโฆษณาล้มทับบ้านเรือนประชาชน และเต็นท์รถมือสองพังถล่มลงมา แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
โดยเฉพาะในพื้นที่เทศบาลตำบลกะทู้ อ.กะทู้ พบว่าที่บริเวณร้านนกยูงคาราโอเกะ เลขที่ 60/30 ถนนวิชิตสงคราม ม. 6 ต.กะทู้ องกะทู้ ตรงข้ามโรงเรียนไทยรัฐวิทยา มีต้นหางนกยูงขนาดใหญ่โค่นล้มลงทับลงมาตัวร้านและสายไฟฟ้าแรงสูง ได้รับความเสียหาย ส่วนที่ถนนพระบารมี บริเวณทางขึ้นเขาป่าตอง มีป้ายโฆษณาโครงเหล็กขนาดใหญ่ล้มลงมาทับบ้านเลขที่ 47/5 ถนนพระบารมี ม. 6 ต.กะทู้ อ.กะทู้ ของ น.ส.สุดารัตน์ ทองเต็ม อายุ 30 ปี ได้รับความเสียหายทั้งบริเวณตัวบ้าน หลังคา ฝ้าเพดาน โชคดีไม่ใครได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ตเป็นพื้นที่หนึ่งที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
**อุตุเตือน6-7ใต้อาจโดนท่วมฉับพลัน
ศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ แจ้งในวันที่ 6-7 มิ.ย.2555 อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มเพิ่มขึ้นในพื้นที่ อ.เมือง อ.กะเปอร์ อ.ละอุ่น จ.ระนอง อ.ละแมร์ อ.สวี อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร และ อ.วิภาวดี อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ประสบภัยโปรดทราบ และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมศูนย์เตือนภัยฯ จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้าวานนี้ (6 มิ.ย.) ได้เกิดน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 1-4 บ้านผักหนาม บ้านสองแพรก ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง ระดับสูงสุดประมาณ 3 เมตร บ้านเรือนจมอยู่ในน้ำกว่า 20 หลัง สวนเกษตร เช่น สวนยาง สวนปาล์ม และสวนผลไม้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทาง อ.กระบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านออกมาอยู่ยังที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า น้ำท่วม จ.ระนอง ครั้งนี้ถือว่ามากกว่าครั้งพายุซีตาร์ เมื่อปี 2540 ใน 15 ปีที่ผ่านมา
ส่วนในพื้นที่ อ.กะเปอร์ ช่วงเวลา 12.00 น.ได้มีน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 3 ตำบลประกอบด้วย ต.กะเปอร์,ต.บางหิน และ ต.บ้านนา ทำให้ชาวบ้านกว่า 3,000 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนต้องอพยพออกจากพื้นที่มาอาศัยบ้านญาติ และตามถนนที่ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งเต้นท์ที่พักไว้ให้
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวถึงเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นว่า ทางจังหวัดได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนถึงการเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ประชาชนคาดไม่ถึงว่าน้ำป่าจะมีมากมหาศาลขนาดนี้ จนทำให้ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือและเยียวยาให้เร็วที่สุดแล้ว
"สถานการณ์ฝนตกหนักที่อาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน รวมไปถึงดินเลื่อนไหลตามแถบเชิงเขา ยังต้องเฝ้าระวังกันต่ออีก 2-3 วันนี้" นายพีระศักดิ์กล่าวเตือน
**ชุมพรวิกฤตท่วมแล้วกว่า5พันหลัง
ส่วนในพื้นที่ จ.ชุมพร จากที่ได้เกิดฝนตกหนักมาตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.จนถึงวานนี้ (6 มิ.ย.) ทำให้เมื่อคืนวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาท่วมพื้นที่ต่างๆ ใน จ.ชุมพร ขยายวงกว้างและรุนแรงขึ้นตามลำดับจนเข้าสู่ภาวะวิกฤต
ขณะที่นายพินิจ เจริญพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยออกเตือนชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสั่งให้เตรียมพร้อมการอพยพชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ทันท่วงที และประสานงาน หน่วยทหาร อบจ.ชุมพร เตรียมยานพาหนะ อุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์กู้ชีพเพื่อออกให้ความช่วยเหลือชาวบ้านทันทีที่ได้รับการร้องขอ รวมถึงสถานีวิทยุที่สถานีในพื้นที่ จ.ชุมพร ให้รายงานสถานการณ์ให้ชาวบ้านได้รับทราบตลอดเวลา
**พายุถล่มกระบี่-ตรังตาย 3 ราย
ที่ จ.กระบี่ มีรายงานข่าวว่า เบื้องต้นมีบ้านเรือนได้รับเสียหายจากพายุฝนถล่มเมื่อช่วงเช้าวานนี้กว่า 30 หลังคาเรือน สวนยางพารากว่า 10 ไร่ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย จากสาเหตุขับรถจักรยานยนต์ชนกับต้นไม้ที่ล้มขวางถนน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 5 มิ.ย. คือ นายธีระพงษ์ ขยันการ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.5 ต.ไสไทย เหตุเกิดบนถนนสายอ่าวน้ำเมา-สไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถจักรยายนต์กลับจากทำงาน มุ่งหน้ากลับบ้าน แต่เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนอ่าวน้ำเมา มีต้นสนขนาดใหญ่ล้มขวางหน้า ผู้ตายพุ่งชนเข้าอย่างจังเ ซึ่งญาตินำส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขณะที่ จ.ตรังช่วงเวลา 04.30 น.ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ทำให้ต้นพะยูง อายุประมาณ 70 ปี 3 ต้นที่ปลูกไว้ในศูนย์ประสานงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง บริเวณถนนป่าไม้ เขตเทศบาลเมืองกันตัง ได้ล้มทับบ้านพักของเจ้าหน้าที่และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นางทิพวรรณ ปลอดทอง อายุ 32 ปี และ ด.ญ.ณัฐณิชา กุลพัตร์ หรือน้องนกยูง อายุ 2 ปี 7 เดือน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ได้ช่วยกันนำเครื่องเลื่อยยนต์เข้าไปตัดต้นพะยูงขนาดใหญ่ที่ล้มทับบ้านพักของเจ้าหน้าที่ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นชั้นเดียว เพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างอีก 1 คน คือ นายจิระศักดิ์ กุลพัตร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 7 ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ซึ่งรอดชีวิตอย่างหวุดหวิดโดยมีเพียงบาดแผลที่ใบหน้า และขาซ้ายจากการถูกกิ่งไม้และของมีคมบาดเท่านั้น
**พายุถล่มภูเก็ตป้ายโฆษณาล้มทับบ้านยับ
ส่วนพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวันวานนี้รวมทั้งมีลมกระโชกแรงส่งผลให้เกิดเหตุน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ต้นไม้โค่นล้ม ป้ายโฆษณาล้มทับบ้านเรือนประชาชน และเต็นท์รถมือสองพังถล่มลงมา แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
โดยเฉพาะในพื้นที่เทศบาลตำบลกะทู้ อ.กะทู้ พบว่าที่บริเวณร้านนกยูงคาราโอเกะ เลขที่ 60/30 ถนนวิชิตสงคราม ม. 6 ต.กะทู้ องกะทู้ ตรงข้ามโรงเรียนไทยรัฐวิทยา มีต้นหางนกยูงขนาดใหญ่โค่นล้มลงทับลงมาตัวร้านและสายไฟฟ้าแรงสูง ได้รับความเสียหาย ส่วนที่ถนนพระบารมี บริเวณทางขึ้นเขาป่าตอง มีป้ายโฆษณาโครงเหล็กขนาดใหญ่ล้มลงมาทับบ้านเลขที่ 47/5 ถนนพระบารมี ม. 6 ต.กะทู้ อ.กะทู้ ของ น.ส.สุดารัตน์ ทองเต็ม อายุ 30 ปี ได้รับความเสียหายทั้งบริเวณตัวบ้าน หลังคา ฝ้าเพดาน โชคดีไม่ใครได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ตเป็นพื้นที่หนึ่งที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
**อุตุเตือน6-7ใต้อาจโดนท่วมฉับพลัน
ศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ แจ้งในวันที่ 6-7 มิ.ย.2555 อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มเพิ่มขึ้นในพื้นที่ อ.เมือง อ.กะเปอร์ อ.ละอุ่น จ.ระนอง อ.ละแมร์ อ.สวี อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร และ อ.วิภาวดี อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ประสบภัยโปรดทราบ และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมศูนย์เตือนภัยฯ จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป