ฝนตกหนัก-ลมกระโชกแรงทำต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนน ผู้ว่าฯ ภูเก็ตสั่งตั้งศูนย์เฝ้าระวัง

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เกิดพายุ ฝนตกหนัก ทำต้นไม้ขนาดใหญ่ ล้มขวางถนนหลังศาลากลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์พื้นที่เปิดเส้นทางจราจร ขณะที่ผู้ว่าฯ เผยสั่งทุกหน่วยงานเฝ้าระวังดินสไลด์ โดยเฉพาะที่เคยเกิดแล้ว ฝนตกต่อเนื่องอาจทำให้ดินอุ้มน้ำไม่ไหว ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังในการลงเล่นน้ำทะเลในระยะนี้

จากกรณีมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ประกอบกับมีลมแรงเป็นระยะ ส่งผลให้เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 มิ.ย.) เกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มลงมาขวางถนนดำรง ตรงข้ามหมู่บ้านณัฐกมล ซึ่งเป็นถนนบริเวณด้านหลังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครภูเก็ต นำเลื่อยยนต์ และกำลังเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์ และตัดต้นไม้ที่ล้มขวางถนนออก โดยช่วงเช้าวันนี้ (6 มิ.ย.) สามารถเปิดให้รถสัญจรได้ 1 ช่องทาง ในบริเวณที่ต้นไม้โค่นล้ม เนื่องจากยังมีโคนต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่ริมถนน

ขณะที่นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องของดินสไลด์ และน้ำท่วมในพื้นที่ เพราะขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีฝนตกต่อเนื่องกันมาหลายวันแล้ว อาจจะทำให้ดินอุ้มน้ำไม่ไหวและอาจจะสไลด์ลงมาได้ เพราะฉะนั้น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะจุดที่เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้ว

นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้มีการตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุน้ำท่วมดินสไลด์ในทุกพื้นที่ด้วยเพื่อเตรียมพร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งในส่วนของน้ำท่วมนั้นไม่น่าเป็นห่วง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องของดินไสด์ในพื้นที่เนื่องจากดินภูเขามีสภาพเป็นลูกรัง และร่วน จึงต้องเฝ้าระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมทั้งในส่วนของเรือประมงต่างๆ ก็ได้แจ้งเตือนไปแล้วให้ระมัดระวังในเรื่องของการเดินเรือ เนื่องจากคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ซึ่งรวมไปถึงนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และคนต่างชาติที่จะต้องระมัดระวังในเรื่องของการลงเล่นน้ำ ซึ่งในระยะนี้จะต้องระมัดระวังในการลงเล่นน้ำทะเลให้มากขึ้น เพราะอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตจากอุบัติเหตุจมน้ำได้ ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่เองก็ได้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันทั้งหมด ในส่วนของนักท่องเที่ยวเองก็จะต้องระมัดระวังตัวเองด้วย และขณะนี้ ได้สั่งการไปยังท้องถิ่นทุกท้องถิ่นให้ติดป้ายประชาสัมพันธ์เตือนภัย 7 ภาษาทุกชายหาดแล้ว เพื่อเตือนนักท่องเที่ยวให้ทราบถึงอันตรายจากการลงเล่นน้ำมากขึ้น