ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุกโฟนอินเข้ามาครั้งล่าสุดว่า
กรณีศาลรัฐธรรมนูญทำให้เห็นชัดเจนว่า กติกาบ้านเมืองไม่เหลือแล้ว ไม่รู้เอาอำนาจมาจากไหน แต่ได้สอบถามจนได้ความว่าศาลรัฐธรรมนูญเขียนระเบียบขึ้นเอง และนำระเบียบขึ้นมาอยู่เหนือกฎหมาย เพิ่งเคยเห็น ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะกติกาไม่เหลือแล้ว ใช้สองมาตรฐานอย่างนี้ไม่มีทางเลิกแตกแยก ความแตกแยกมีแต่จะเลวร้าย เดิมคิดว่ามีนายกฯ ผู้หญิงแล้วจะไม่ทะเลาะกับใคร แต่ผู้ชายมีความเป็นผู้หญิงมากกว่า มาชวนทะเลาะ ถ้าเล่นกันอย่างนี้ต้องบอกประชาชนว่า จะยอมให้เขาปล้นอีกหรือ ขอให้ช่วยกัน วันนี้ความขัดแย้งในบ้านเมืองที่คิดว่าจะจบ อุตส่าห์หวังว่าจะมีความปรองดอง เริ่มตั้งแต่ร่างรัฐธรรมนูญ แปรญัตติกันมา 10 กว่าวัน ไม่มีอะไรนอกจากกลัวทักษิณ กลัวผีทักษิณอย่างเดียว นี่ขนาดยังไม่ตาย.....
เนื้อหาสาระและท่าทีไม่ต่างไปจากนักวิชาการกลุ่มหนึ่งที่มักจะแสดงความคิดความเห็นสอดประสานกับทักษิณ ชินวัตร หรือผลประโยชน์ของทักษิณ ชินวัตร เสมอมาในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมานี้
การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่ทักษิณบอกว่า อุตส่าห์ประชุมแปรญัตติกันมา 10 กว่าวัน คนทั้งบ้านทั้งเมืองเขาก็รู้ว่านี่คือการฉีกรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ทิ้ง แล้วจะให้มี ส.ส.ร.มายกร่างกันใหม่ เนื้อหาสาระจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ คาดการณ์ได้อย่างเดียวว่า เพื่อประโยชน์ของทักษิณ เพราะก่อนที่จะแก้ไข ถามว่ามีมาตราใดของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขัดขวางความเป็นประชาธิปไตยของประเทศนี้ เลือกตั้งมาแล้ว 2 ครั้ง ก็พรรคที่เป็นบริษัทบริวารของทักษิณชนะเลือกตั้งได้จัดตั้งรัฐบาล
แต่เมื่อจะลงมือช่วยทักษิณด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยการเสนอร่างกฎหมายปรองดองนั่นหรอก รัฐบาลนอมินีของทักษิณจึงได้ถูกต่อต้าน
ทักษิณบอกว่าสู้อุตส่าห์เอาผู้หญิงมาเป็นนายกฯ หวังว่าจะไม่มีการทะเลาะ ใครไปทะเลาะกับนายกรัฐมนตรีหญิงที่ทักษิณส่งมา จะแสดงความโง่เง่าปัญญาอ่อนแค่ไหนทางการเมือง ประชาชนก็สู้อุตส่าห์ทน ไม่เคยมีการต่อต้าน การเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวยิ่งลักษณ์ น้องสาวของทักษิณ ชินวัตร แต่อย่างใด ครม.ของนางสาวยิ่งลักษณ์มีมติเอาเงินภาษีของประชาชนไปประเคนให้กับกลุ่มคนที่ขายชีวิตให้ทักษิณ ก็ได้แต่ปวดร้าว คิดว่าการร้องศาลรัฐธรรมนูญอาจจะช่วยได้บ้าง ก็ยังไม่รู้ว่าจะช่วยได้แค่ไหน คิดฉีกรัฐธรรมนูญพุทธศักราช 2550 ทิ้ง แล้วร่างขึ้นใหม่บอกว่านี่เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประชาชนก็ได้แต่เฉย ที่ทนไม่ได้ก็ร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนเดินออกมาเต็มถนนเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ก็เพราะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ซึ่งมันไม่ใช่การปรองดอง แต่เป็นการนิรโทษกรรมให้ทักษิณ นิรโทษกรรมให้คนที่เผาบ้านเผาเมือง นิรโทษกรรมให้คนที่ฆ่าประชาชน
ไม่ได้ทะเลาะกับนางสาวยิ่งลักษณ์เลยแม้สักนิดเดียว ทั้งที่นางสาวยิ่งลักษณ์ทำเป็นเอ๋อ ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าประชุมสภา พูดเป็นอยู่คำเดียวว่า ปรองดอง ปรองดอง และปรองดอง
ทักษิณพูดถึงคำว่า ลูกผู้ชาย ผู้หญิง
แสดงว่า ทักษิณคิดว่าตัวเองมีความเป็นลูกผู้ชายมาก ทั้งที่ผ่านมาตัวเองแสดงความ หน้าตัวเมีย มาตลอด ใครบอกว่า ถ้าหากมีคนตายสักคนผมจะเดินนำหน้าเข้ากรุงเทพฯ แล้วไอ้เวรตะไลที่พูดนี่มันออกมาเดินนำหน้าประชาชนไหม? ใครที่ส่งลูกส่งเมียไปอยู่ต่างประเทศทุกครั้งที่มีเหตุไม่ปกติในบ้านในเมือง ไม่ว่าจะเป็นเมษายน 2552 และเมษายน 2553 ไอ้เวรที่ไหนที่มันซุกหุ้น แล้วมันบอกว่าบกพร่องโดยสุจริต ครั้นศาลไม่เอาผิด มันก็บอกว่า ศาลดี ศาลวิเศษ
ทักษิณบอกว่า ศาลรัฐธรรมนูญเขียนระเบียบขึ้นมาเอง นี่มันโกหกอย่างหน้าด้านๆ ศาลรัฐธรรมนูญเขาก็บอกอยู่แล้วว่า เขารับคำร้องตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญที่บอกว่า ผู้ทราบการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง และยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว
นิติบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2540 ด้วยเช่นเดียวกัน
เมื่อมีผู้พบเห็นการกระทำได้กล่าวแล้วคือ จะล้มล้างรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ทางหนึ่งเขาก็ร้องไปที่อัยการ และอีกทางเขาก็ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนระเบียบกฎเกณฑ์อันใดขึ้นมาใหม่ ดังที่ทักษิณโกหกเลย
ส่วนอัยการจะตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ผลประการใดนั้น คงคาดหวังอันใดกับอัยการไม่ได้ เห็นมาหลายเรื่องหลายประเด็นแล้ว จนกระทั่งสามารถสรุปได้ว่า อัยการเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ยาก
และนี่เป็นเพียงการรับคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น พรรคเพื่อไทย และบรรดาลิ่วล้อที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการฉีกรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 มีหน้าที่ที่จะต้องชี้แจงให้ศาลรัฐธรรมนูญเข้าใจว่า นี่เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญปกติธรรมดาก็ชี้แจงไปซิครับ
หรือว่าเอาเข้าจริงก็เป็นอย่างที่วิญญูชนทั้งหลายเข้าใจ คือ กำลังก้มหน้าก้มตาช่วยทักษิณมันอย่างเต็มที่
กล้าพูดความจริงกันไหมเล่า หรือจริงๆ ก็หน้าตัวเมียเหมือนทักษิณมัน?
กรณีศาลรัฐธรรมนูญทำให้เห็นชัดเจนว่า กติกาบ้านเมืองไม่เหลือแล้ว ไม่รู้เอาอำนาจมาจากไหน แต่ได้สอบถามจนได้ความว่าศาลรัฐธรรมนูญเขียนระเบียบขึ้นเอง และนำระเบียบขึ้นมาอยู่เหนือกฎหมาย เพิ่งเคยเห็น ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะกติกาไม่เหลือแล้ว ใช้สองมาตรฐานอย่างนี้ไม่มีทางเลิกแตกแยก ความแตกแยกมีแต่จะเลวร้าย เดิมคิดว่ามีนายกฯ ผู้หญิงแล้วจะไม่ทะเลาะกับใคร แต่ผู้ชายมีความเป็นผู้หญิงมากกว่า มาชวนทะเลาะ ถ้าเล่นกันอย่างนี้ต้องบอกประชาชนว่า จะยอมให้เขาปล้นอีกหรือ ขอให้ช่วยกัน วันนี้ความขัดแย้งในบ้านเมืองที่คิดว่าจะจบ อุตส่าห์หวังว่าจะมีความปรองดอง เริ่มตั้งแต่ร่างรัฐธรรมนูญ แปรญัตติกันมา 10 กว่าวัน ไม่มีอะไรนอกจากกลัวทักษิณ กลัวผีทักษิณอย่างเดียว นี่ขนาดยังไม่ตาย.....
เนื้อหาสาระและท่าทีไม่ต่างไปจากนักวิชาการกลุ่มหนึ่งที่มักจะแสดงความคิดความเห็นสอดประสานกับทักษิณ ชินวัตร หรือผลประโยชน์ของทักษิณ ชินวัตร เสมอมาในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมานี้
การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่ทักษิณบอกว่า อุตส่าห์ประชุมแปรญัตติกันมา 10 กว่าวัน คนทั้งบ้านทั้งเมืองเขาก็รู้ว่านี่คือการฉีกรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ทิ้ง แล้วจะให้มี ส.ส.ร.มายกร่างกันใหม่ เนื้อหาสาระจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ คาดการณ์ได้อย่างเดียวว่า เพื่อประโยชน์ของทักษิณ เพราะก่อนที่จะแก้ไข ถามว่ามีมาตราใดของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขัดขวางความเป็นประชาธิปไตยของประเทศนี้ เลือกตั้งมาแล้ว 2 ครั้ง ก็พรรคที่เป็นบริษัทบริวารของทักษิณชนะเลือกตั้งได้จัดตั้งรัฐบาล
แต่เมื่อจะลงมือช่วยทักษิณด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยการเสนอร่างกฎหมายปรองดองนั่นหรอก รัฐบาลนอมินีของทักษิณจึงได้ถูกต่อต้าน
ทักษิณบอกว่าสู้อุตส่าห์เอาผู้หญิงมาเป็นนายกฯ หวังว่าจะไม่มีการทะเลาะ ใครไปทะเลาะกับนายกรัฐมนตรีหญิงที่ทักษิณส่งมา จะแสดงความโง่เง่าปัญญาอ่อนแค่ไหนทางการเมือง ประชาชนก็สู้อุตส่าห์ทน ไม่เคยมีการต่อต้าน การเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวยิ่งลักษณ์ น้องสาวของทักษิณ ชินวัตร แต่อย่างใด ครม.ของนางสาวยิ่งลักษณ์มีมติเอาเงินภาษีของประชาชนไปประเคนให้กับกลุ่มคนที่ขายชีวิตให้ทักษิณ ก็ได้แต่ปวดร้าว คิดว่าการร้องศาลรัฐธรรมนูญอาจจะช่วยได้บ้าง ก็ยังไม่รู้ว่าจะช่วยได้แค่ไหน คิดฉีกรัฐธรรมนูญพุทธศักราช 2550 ทิ้ง แล้วร่างขึ้นใหม่บอกว่านี่เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประชาชนก็ได้แต่เฉย ที่ทนไม่ได้ก็ร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนเดินออกมาเต็มถนนเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ก็เพราะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ซึ่งมันไม่ใช่การปรองดอง แต่เป็นการนิรโทษกรรมให้ทักษิณ นิรโทษกรรมให้คนที่เผาบ้านเผาเมือง นิรโทษกรรมให้คนที่ฆ่าประชาชน
ไม่ได้ทะเลาะกับนางสาวยิ่งลักษณ์เลยแม้สักนิดเดียว ทั้งที่นางสาวยิ่งลักษณ์ทำเป็นเอ๋อ ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าประชุมสภา พูดเป็นอยู่คำเดียวว่า ปรองดอง ปรองดอง และปรองดอง
ทักษิณพูดถึงคำว่า ลูกผู้ชาย ผู้หญิง
แสดงว่า ทักษิณคิดว่าตัวเองมีความเป็นลูกผู้ชายมาก ทั้งที่ผ่านมาตัวเองแสดงความ หน้าตัวเมีย มาตลอด ใครบอกว่า ถ้าหากมีคนตายสักคนผมจะเดินนำหน้าเข้ากรุงเทพฯ แล้วไอ้เวรตะไลที่พูดนี่มันออกมาเดินนำหน้าประชาชนไหม? ใครที่ส่งลูกส่งเมียไปอยู่ต่างประเทศทุกครั้งที่มีเหตุไม่ปกติในบ้านในเมือง ไม่ว่าจะเป็นเมษายน 2552 และเมษายน 2553 ไอ้เวรที่ไหนที่มันซุกหุ้น แล้วมันบอกว่าบกพร่องโดยสุจริต ครั้นศาลไม่เอาผิด มันก็บอกว่า ศาลดี ศาลวิเศษ
ทักษิณบอกว่า ศาลรัฐธรรมนูญเขียนระเบียบขึ้นมาเอง นี่มันโกหกอย่างหน้าด้านๆ ศาลรัฐธรรมนูญเขาก็บอกอยู่แล้วว่า เขารับคำร้องตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญที่บอกว่า ผู้ทราบการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง และยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว
นิติบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2540 ด้วยเช่นเดียวกัน
เมื่อมีผู้พบเห็นการกระทำได้กล่าวแล้วคือ จะล้มล้างรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ทางหนึ่งเขาก็ร้องไปที่อัยการ และอีกทางเขาก็ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนระเบียบกฎเกณฑ์อันใดขึ้นมาใหม่ ดังที่ทักษิณโกหกเลย
ส่วนอัยการจะตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ผลประการใดนั้น คงคาดหวังอันใดกับอัยการไม่ได้ เห็นมาหลายเรื่องหลายประเด็นแล้ว จนกระทั่งสามารถสรุปได้ว่า อัยการเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ยาก
และนี่เป็นเพียงการรับคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น พรรคเพื่อไทย และบรรดาลิ่วล้อที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการฉีกรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 มีหน้าที่ที่จะต้องชี้แจงให้ศาลรัฐธรรมนูญเข้าใจว่า นี่เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญปกติธรรมดาก็ชี้แจงไปซิครับ
หรือว่าเอาเข้าจริงก็เป็นอย่างที่วิญญูชนทั้งหลายเข้าใจ คือ กำลังก้มหน้าก้มตาช่วยทักษิณมันอย่างเต็มที่
กล้าพูดความจริงกันไหมเล่า หรือจริงๆ ก็หน้าตัวเมียเหมือนทักษิณมัน?