สะเก็ดไฟ
ยังเป็นประเด็นบานไม่หยุด หุบไม่ลง กับปฏิบัติการ ว.5 ณ โฟร์ซีซั่นส์ ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศไทย
สังคมยังจับตากับการขุดคุ้ย สืบเสาะ ตั้งข้อสังเกตของฝ่ายค้าน ฝ่ายตรงข้าม ที่นำโดยเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงิน เจ้าของเว็บไทยอินไซเดอร์ และพรรคประชาธิปัตย์
ล่าสุดประเด็นที่เอกยุทธทิ้งทุ่นว่า แอบเห็น เศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อยู่ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ในเวลาไล่เลี่ยกับที่นายกฯ เดินทางไป ก็ได้รับการเฉลยจากเจ้าตัวเองว่า ไปพบ “ยิ่งลักษณ์” จริง แต่ไปพบกันหลายคน ลักษณะของการประชุมหารือกัน
ก็ไม่แน่ว่า “เศรษฐา” พูดความจริงหมดหรือไม่ หรือพูดแค่ครึ่งเดียว เหตุใดถึงออกมาพูดช้าเหลือเกิน ทิ้งเวลาให้คนสงสัยตั้งหลายวัน เมาท์กันไปสนุกปาก หรืออาจจะได้รับการส่งซิกขอร้องจากทางฟากทีมงานนายกฯ ให้ออกมาพูดไขความกระจ่างไปเปลาะหนึ่ง
อย่างไรก็ดี แม้จะมีความชัดเจนระดับหนึ่งว่าพบกันจริง แต่ตอนนี้สังคมตั้งข้อสงสัยไปแล้ว โดยเฉพาะเรื่องราวฉาวโฉ่ทำนองชู้สาว ตามหมากของพรรคประชาธิปัตย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องการหว่านล้อมโน้มน้าวความคิดคนให้เชื่อตาม
ก่อนหน้านี้สังคมโซเชียล สังคมของคนอยากรู้อยากเห็นก็ไปสืบเสาะหาข้อมูลกันพอสมควรแล้วว่า เศรษฐา ทวีสิน เป็นใคร เกี่ยวพันกับนายกฯ อย่างไร ยิ่งเมื่อไปสอบถามคนในแวดวงการเมือง ธุรกิจ ก็ป้องปากนินทายิ่งลักษณ์ต่างๆ นานา โดยเฉพาะเรื่องชู้สาว คุยกัน 7 วันไม่จบ
เรื่องเกิดขึ้นมาจนป่านนี้ก็ยังไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจนจากปากนายกฯ นอกจากการหลบเลี่ยงตอบปัดๆ แบบขอไปที เหมือนไม่อยากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งตอกย้ำความลึกลับทับซ้อนซ่อนเงื่อน ไม่กล้ายอมรับอย่างจริงใจ
ลำพังแค่ลิ่วล้อ สารพัดโฆษกออกมาแก้ต่างแก้ลำแทนดูจะไร้น้ำหนัก หนำซ้ำยิ่งพูดยิ่งเข้าเนื้อ กระพือไฟโหมประเด็นจนบานปลายไปกันใหญ่ ครั้นจะปล่อยให้เรื่องเงียบจบลงไปเองคงไม่เป็นผลดีแน่ จะเป็นเรื่องที่สังคมคาใจ นายกฯ จะยิ่งเสื่อมลงไปเรื่อยๆ
เรื่องนี้ก็มีคนตั้งข้อสังเกตไว้แต่เนิ่นๆ ก่อนที่ยิ่งลักษณ์จะมาเป็นนายกฯ แล้วว่าจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้แน่ กังวลว่าจะทนต่อแรงเสียดทานได้ไหม วันนี้ก็พิสูจน์แล้วว่ายังรับมือได้ไม่ดีพอ และมันอาจส่งกระทบเป็นลูกโซ่ การงานต่างๆ ที่รออยู่ข้างหน้านับว่าหนักหนาสาหัส ระหว่างทางมีชนักติดหลัง สลัดไม่พ้นข้อกล่าวหายิ่งลำบาก ไม่รู้ว่าสภาพจิตใจจะเป็นอย่างไร
ปมสำคัญอีกอันหนึ่ง คือ เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน การไปคุยกับนักธุรกิจแบบลึกๆ ลับๆ ขาดความโปร่งใส แน่นอนว่าย่อมตกเป็นเหยื่อของความสงสัยในความสุจริตใจ เพราะถ้าจะไปคุยเพื่อฟังเสียงสะท้อนจากภาคธุรกิจถึงนโยบายของรัฐบาลตามที่กล่าวอ้าง ก็ไม่จำเป็นต้องปิดห้องลับคุยกัน ไม่ควรปิดบังจนคลุมเครือแบบนี้
หลังจากนี้คำถามคงมีตามมาอีกมากมาย แค่ที่เป็นอยู่ยังตอบไม่ได้ ก็ได้แต่เป็นห่วงว่านายกรัฐมนตรีหญิงที่ใครหลายคน แม้กระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่หลบหนีคดีอาญาอยู่ต่างประเทศ ยกยอปอปั้นในเรื่องของความอดทนตั้งใจทำงาน จะเสียศูนย์ไปเพราะปมลึกลับ ส่วนตัวแบบนี้
กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นข้อผิดพลาดข้อใหญ่ เสียกระบวนไปเยอะของยิ่งลักษณ์ การลงพื้นที่ดูต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ที่หวังผลสร้างภาพการทำงานอย่างเป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล กลับถูกประเด็นข่าวนี้กลบเสียมิด
