บ้านเมืองยุคปรองดองถูกประโคมกระแสด้วยความฮึกเหิมโดยขบวนการผีโม่แป้งเหลี่ยมร้าย นำโดย “บังเละ” กำกับบททุกย่างก้าวโดยลูกเขยพ่อค้าฆ่าไก่ ฆ่าหมูขายจนมั่งคั่ง กำลังเร่งเดินหน้าสู่ขบวนการฟอกย้อมโจรในสภาทาสเงิน
แสดงให้เห็นความยโสโอหังลำพองในอำนาจ นึกว่าไม่มีใครกล้าขวาง หลังจากสุมหัวกันในสภาทาสและตึกไทยคู่ฟ้าย่ำยีบ้านเมืองกว่า 9 เดือน ตั้งงบประมาณป้อนโครงการ ปันส่วนกินเปอร์เซ็นต์ด้วยลีลามูมมามไม่อายชูชก
เหลี่ยมร้ายยังเป็นปัญหาต่อเนื่อง เรื้อรัง ร้ายแรง เหมือนมะเร็งระยะสุดท้าย แผ่นดินไทยถูกบ่อนทำลายโดยเครือข่ายเหลี่ยมร้าย โครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม คุณธรรม ความดีงาม เสื่อมทรุด
ขบวนการเหลี่ยมร้ายลากบ้านเมืองสู่หุบเหวแห่งหายนะ สังคมรากหญ้าจมในกองหนี้สิน หลักนิติรัฐ นิติธรรมโดนย่ำยี เป็นรัฐไร้ขื่อแป มีอันธพาล โจรการเมืองเป็นกองกำลังคุกคามฝ่ายตรงข้าม สร้างอำนาจเถื่อนคุ้มกันรัฐฉ้อฉล
“บังเละ” ในสถานภาพของผู้แทนราษฎรคนเดียวในพรรค รับบทหัวหอกทะลวงปราการด่านต่างๆ ปูทางให้เหลี่ยมร้ายเป็นอิสรชน รอดพ้นโทษจำคุก จากคดีอาญาที่ยังค้างคาในมืออัยการ ยื้อยืดเยื้อรอกระบวนการปรองดอง
“บังเละ” ไม่เหลือสภาพของผู้ทรงเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของชายชาติทหาร กลายเป็นเพียงผีโม่แป้งอีกตัว จงรักภักดีต่อเหลี่ยมร้าย กล้าทำทุกอย่างโดยไม่หวั่นข้อครหาว่าไร้ยางอาย เป็นผู้ทรยศต่อแผ่นดิน หวังผลประโยชน์ส่วนตน
“บังเละ” และลูกเขยพ่อค้าฆ่าไก่ ฆ่าหมูขายเป็นหัวหอกคู่ ถือร่าง กฎหมายปรองดองคนละฉบับ เชื่อมั่นว่าจะชนะ ไม่ใส่ใจกระแสคัดค้าน! จะยัดเข้าสภาให้ทาสเงินเหลี่ยมใช้ระบบพวกมากลากไปยกมือให้ผ่านโดยเร็ว
เหลี่ยมร้ายไม่เลิกราความอาฆาตแค้นต่อแผ่นดินเกิด! นี่เป็นการล้างแค้น “บังเละ” อย่างสะใจ เพราะเป็นตัวการรัฐประหารทำให้ตัวเองต้องตกจากเก้าอี้ เป็นสัมภเวสีเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศนานกว่า 5 ปี ยังไม่มีแววว่าจะได้กลับ
ใครจะนึกว่าอดีตผู้บัญชาการทหารบก ผู้นำรัฐประหาร ผู้กุมอำนาจขนาดฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ต้องสยบใต้ตีนเหลี่ยมร้ายเยี่ยงทาส อาสาเบิกทางปรองดองเพื่อนิรโทษกรรม แลกกับการไม่โดนล้างแค้นโดยอำนาจเหลี่ยมร้าย
“บังเละ” ยังต้องใช้ชีวิตอีกหลายปี ตามสภาพสังขารและความมั่งคั่งของทรัพย์สิน น่าจะมีความหวังว่าการรับใช้เหลี่ยมเยี่ยงทาสจะให้ตัวเองได้ดีในอำนาจ เป็นถึงเจ้าผู้ครองนครรัฐปัตตานี ปกครองพี่น้องมุสลิมในภาคใต้
ลืมแล้วว่าเหลี่ยมร้ายคือตัวการ ตัวปัญหาของมิคสัญญีใน 3 จังหวัดชายแดนใต้! อุ้มฆ่า การนองเลือดคดีมัสยิดกรือเซะ กรณีตากใบ! “บังเละ” คงทึกทักว่าพี่น้องมุสลิมจะยกโทษให้เหลี่ยมร้าย ถ้าตัวเองกล่อมด้วยลีลาพลิ้ว
“บังเละ” ต้นตำรับ “ลับ ลวง พราง” สิ้นท่าหมดสภาพ ถูกเปิดหน้ากากในสภาพของทาสผีโม่แป้งเหลี่ยม! ภารกิจนำพาเหลี่ยมกลับบ้านครั้งนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว “บังเละ” จะอยู่ในสภาพเน่าเฟะเกินกว่าเยียวยาได้
การเดินหน้ายัดเยียดกฎหมายให้เกิดความปรองดองเป็นการเล็งผลเลิศ! ลูกเขยพ่อค้าฆ่าไก่ขายประกาศด้วยความลำพอง มองว่าเสียงทาสในสภาเป็นประกาศิตนรก ทุกคนต้องยำเกรง ใครขวาง ถือว่าเป็นผู้ไม่ต้องการปรองดอง
ยึดหลัก “ใครจะเป็นจะตาย ช่างแม่มัน” ตามแนวเหลี่ยมร้าย!
เนื้อหาของร่างกฎหมายยังแฝงเล่ห์ชัดๆ เป้าหมายคือการปลดเปลื้องโทษ คดีอาญาให้เหลี่ยมร้าย เครือข่ายขี้คุกเดนตะราง พวกก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง สู้แล้วรวย! แต่ตีกันกลุ่มอื่นๆ ให้เสี่ยงต่อการถูกล้างแค้นโดยคดีความ
นี่ไม่ใช่การปรองดอง แต่เป็นการทดสอบกระแสพลังต้าน ประเมินการก่อนประลองกำลังเพื่อให้แตกหัก! พิสูจน์ว่าอำนาจชั่วของขบวนการเหลี่ยมร้ายจะยึดแผ่นดินไทยสำเร็จ ล้มล้างระบอบกษัตริย์และคุณงามความดีให้ราบคาบ
กระบวนการทั้งหมดนี้แม่นางโพยปูโพรกเน่าในไม่ขอยุ่งเกี่ยว สนุกกับลีลาลอยตัว ไม่ผูกมัด อ้างภารกิจเดินสายแฟชั่นโชว์ต่างประเทศ และงานอื่นๆ โดยไม่ต้องรับรู้ แถหน้าซื่อ ทำตาแอ๊บแบ๊วว่านั่นเป็นกิจกรรมของสภาทาส
เกือบ 10 ปี เหลี่ยมร้ายเป็นมะเร็งการเมือง มีกาฝาก ปาราสิต เห็บเหาประชาธิปไตย ผีโม่แป้ง เกาะกลุ่มตีกิน โกงทรัพย์สินแผ่นดิน อย่างไร้จิตสำนึก!
เมื่อดิ้นรนหาที่ เร่งกดดัน ย่อมมีแรงต่อต้าน! เหลี่ยมร้ายย่ามใจว่ากุมกลไกเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย ตำรวจ อัยการ พร้อมแตกหักในศึกครั้งสุดท้าย ทำให้คำประกาศปรองดองคืนวันที่ 19 พฤษภาคมเปรียบเสมือนสุนัขผายลม
เครือข่ายประชาชน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถือเป็นเงื่อนไขในการชุมนุมต้านร่างกฎหมายปรองดองบริเวณลานพระรูปวันพุธนี้ จะมีคนมามากหรือน้อย เป็นข้อพิสูจน์ว่าคนไทยห่วงใยบ้านเมืองหรือเพิกเฉย
ถ้า “บังเละ” และเครือข่ายเหลี่ยมร้ายดันร่างกฎหมายผ่าน จะเป็นการล้มล้างระบบนิติรัฐ ศาลยุติธรรมไร้ความหมาย รัฐไทยจะอยู่ใต้ตีนเหลี่ยมร้าย เงินภาษีประชาชนจะเป็นงบบำเรอความสุข บำรุงอำนาจของโจรปล้นแผ่นดิน
แสดงให้เห็นความยโสโอหังลำพองในอำนาจ นึกว่าไม่มีใครกล้าขวาง หลังจากสุมหัวกันในสภาทาสและตึกไทยคู่ฟ้าย่ำยีบ้านเมืองกว่า 9 เดือน ตั้งงบประมาณป้อนโครงการ ปันส่วนกินเปอร์เซ็นต์ด้วยลีลามูมมามไม่อายชูชก
เหลี่ยมร้ายยังเป็นปัญหาต่อเนื่อง เรื้อรัง ร้ายแรง เหมือนมะเร็งระยะสุดท้าย แผ่นดินไทยถูกบ่อนทำลายโดยเครือข่ายเหลี่ยมร้าย โครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม คุณธรรม ความดีงาม เสื่อมทรุด
ขบวนการเหลี่ยมร้ายลากบ้านเมืองสู่หุบเหวแห่งหายนะ สังคมรากหญ้าจมในกองหนี้สิน หลักนิติรัฐ นิติธรรมโดนย่ำยี เป็นรัฐไร้ขื่อแป มีอันธพาล โจรการเมืองเป็นกองกำลังคุกคามฝ่ายตรงข้าม สร้างอำนาจเถื่อนคุ้มกันรัฐฉ้อฉล
“บังเละ” ในสถานภาพของผู้แทนราษฎรคนเดียวในพรรค รับบทหัวหอกทะลวงปราการด่านต่างๆ ปูทางให้เหลี่ยมร้ายเป็นอิสรชน รอดพ้นโทษจำคุก จากคดีอาญาที่ยังค้างคาในมืออัยการ ยื้อยืดเยื้อรอกระบวนการปรองดอง
“บังเละ” ไม่เหลือสภาพของผู้ทรงเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของชายชาติทหาร กลายเป็นเพียงผีโม่แป้งอีกตัว จงรักภักดีต่อเหลี่ยมร้าย กล้าทำทุกอย่างโดยไม่หวั่นข้อครหาว่าไร้ยางอาย เป็นผู้ทรยศต่อแผ่นดิน หวังผลประโยชน์ส่วนตน
“บังเละ” และลูกเขยพ่อค้าฆ่าไก่ ฆ่าหมูขายเป็นหัวหอกคู่ ถือร่าง กฎหมายปรองดองคนละฉบับ เชื่อมั่นว่าจะชนะ ไม่ใส่ใจกระแสคัดค้าน! จะยัดเข้าสภาให้ทาสเงินเหลี่ยมใช้ระบบพวกมากลากไปยกมือให้ผ่านโดยเร็ว
เหลี่ยมร้ายไม่เลิกราความอาฆาตแค้นต่อแผ่นดินเกิด! นี่เป็นการล้างแค้น “บังเละ” อย่างสะใจ เพราะเป็นตัวการรัฐประหารทำให้ตัวเองต้องตกจากเก้าอี้ เป็นสัมภเวสีเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศนานกว่า 5 ปี ยังไม่มีแววว่าจะได้กลับ
ใครจะนึกว่าอดีตผู้บัญชาการทหารบก ผู้นำรัฐประหาร ผู้กุมอำนาจขนาดฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ต้องสยบใต้ตีนเหลี่ยมร้ายเยี่ยงทาส อาสาเบิกทางปรองดองเพื่อนิรโทษกรรม แลกกับการไม่โดนล้างแค้นโดยอำนาจเหลี่ยมร้าย
“บังเละ” ยังต้องใช้ชีวิตอีกหลายปี ตามสภาพสังขารและความมั่งคั่งของทรัพย์สิน น่าจะมีความหวังว่าการรับใช้เหลี่ยมเยี่ยงทาสจะให้ตัวเองได้ดีในอำนาจ เป็นถึงเจ้าผู้ครองนครรัฐปัตตานี ปกครองพี่น้องมุสลิมในภาคใต้
ลืมแล้วว่าเหลี่ยมร้ายคือตัวการ ตัวปัญหาของมิคสัญญีใน 3 จังหวัดชายแดนใต้! อุ้มฆ่า การนองเลือดคดีมัสยิดกรือเซะ กรณีตากใบ! “บังเละ” คงทึกทักว่าพี่น้องมุสลิมจะยกโทษให้เหลี่ยมร้าย ถ้าตัวเองกล่อมด้วยลีลาพลิ้ว
“บังเละ” ต้นตำรับ “ลับ ลวง พราง” สิ้นท่าหมดสภาพ ถูกเปิดหน้ากากในสภาพของทาสผีโม่แป้งเหลี่ยม! ภารกิจนำพาเหลี่ยมกลับบ้านครั้งนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว “บังเละ” จะอยู่ในสภาพเน่าเฟะเกินกว่าเยียวยาได้
การเดินหน้ายัดเยียดกฎหมายให้เกิดความปรองดองเป็นการเล็งผลเลิศ! ลูกเขยพ่อค้าฆ่าไก่ขายประกาศด้วยความลำพอง มองว่าเสียงทาสในสภาเป็นประกาศิตนรก ทุกคนต้องยำเกรง ใครขวาง ถือว่าเป็นผู้ไม่ต้องการปรองดอง
ยึดหลัก “ใครจะเป็นจะตาย ช่างแม่มัน” ตามแนวเหลี่ยมร้าย!
เนื้อหาของร่างกฎหมายยังแฝงเล่ห์ชัดๆ เป้าหมายคือการปลดเปลื้องโทษ คดีอาญาให้เหลี่ยมร้าย เครือข่ายขี้คุกเดนตะราง พวกก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง สู้แล้วรวย! แต่ตีกันกลุ่มอื่นๆ ให้เสี่ยงต่อการถูกล้างแค้นโดยคดีความ
นี่ไม่ใช่การปรองดอง แต่เป็นการทดสอบกระแสพลังต้าน ประเมินการก่อนประลองกำลังเพื่อให้แตกหัก! พิสูจน์ว่าอำนาจชั่วของขบวนการเหลี่ยมร้ายจะยึดแผ่นดินไทยสำเร็จ ล้มล้างระบอบกษัตริย์และคุณงามความดีให้ราบคาบ
กระบวนการทั้งหมดนี้แม่นางโพยปูโพรกเน่าในไม่ขอยุ่งเกี่ยว สนุกกับลีลาลอยตัว ไม่ผูกมัด อ้างภารกิจเดินสายแฟชั่นโชว์ต่างประเทศ และงานอื่นๆ โดยไม่ต้องรับรู้ แถหน้าซื่อ ทำตาแอ๊บแบ๊วว่านั่นเป็นกิจกรรมของสภาทาส
เกือบ 10 ปี เหลี่ยมร้ายเป็นมะเร็งการเมือง มีกาฝาก ปาราสิต เห็บเหาประชาธิปไตย ผีโม่แป้ง เกาะกลุ่มตีกิน โกงทรัพย์สินแผ่นดิน อย่างไร้จิตสำนึก!
เมื่อดิ้นรนหาที่ เร่งกดดัน ย่อมมีแรงต่อต้าน! เหลี่ยมร้ายย่ามใจว่ากุมกลไกเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย ตำรวจ อัยการ พร้อมแตกหักในศึกครั้งสุดท้าย ทำให้คำประกาศปรองดองคืนวันที่ 19 พฤษภาคมเปรียบเสมือนสุนัขผายลม
เครือข่ายประชาชน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถือเป็นเงื่อนไขในการชุมนุมต้านร่างกฎหมายปรองดองบริเวณลานพระรูปวันพุธนี้ จะมีคนมามากหรือน้อย เป็นข้อพิสูจน์ว่าคนไทยห่วงใยบ้านเมืองหรือเพิกเฉย
ถ้า “บังเละ” และเครือข่ายเหลี่ยมร้ายดันร่างกฎหมายผ่าน จะเป็นการล้มล้างระบบนิติรัฐ ศาลยุติธรรมไร้ความหมาย รัฐไทยจะอยู่ใต้ตีนเหลี่ยมร้าย เงินภาษีประชาชนจะเป็นงบบำเรอความสุข บำรุงอำนาจของโจรปล้นแผ่นดิน
