“ยะใส” ตั้งข้อสังเกต ตอนทนายเสื้อแดงประกันตัว “อากง” ได้แนบใบรับรองแพทย์ว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายให้ศาลหรือเปล่า เพราะไม่มีข่าวก่อนหน้านี้เลยว่าป่วยหนัก พร้อมจี้สอบ “อธิบดีกรมคุก” ซึ่งเป็นคนสนิท “แม้ว” ว่าจงใจละเลยในการดูแลหรือไม่ ด้าน “พิชาย” มั่นใจบทสรุป ประชาชนตื่นรู้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ถึงคราวจบ ก็ไร้ทุนสามานย์หนุนขบวนการล้มเจ้า จนต้องฝ่อกลับไปเก่งอยู่แต่ในเฟซบุ๊กเหมือนเดิม
วันที่ 11 พ.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน และ รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ร่วมในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
นายสุริยะใสกล่าวถึงการเสียชีวิตของนายอำพล ตั้งนพกุล หรืออากง ว่าตนตั้งข้อสังเกตตอนทนายความ (นายอานนท์ นำภา) ขอประกันตัว ได้แนบใบรับรองแพทย์ว่าป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีข่าวเลย เพิ่งมารู้หลังเสียชีวิต มีคำถามว่าทนายได้ตั้งธงอะไรบางอย่างหรือเปล่า และได้สู้ทุกประเด็นหรือไม่ เพราะถ้ามีธงอยู่แล้วแสดงว่าได้ฆ่าอากงก่อนตายด้วยซ้ำไป
แล้วถ้าหากได้ยื่นว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย กรมราชทัณฑ์ต้องดูแลเป็นพิเศษ ฉะนั้นต้องสอบอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย) ซึ่งเป็นคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นความจงใจหรือเปล่า แต่เสื้อแดงก็ไม่เห็นเล่นประเด็นนี้ โจมตีแต่เรื่องมาตรา 112 และศาล ส่วนเรื่องอากงสุดท้ายเดี๋ยวปรับ ครม. นายจตุพรได้เป็นรัฐมนตรี เดินสายจัดงานเลี้ยง เรื่องก็คงหาย
แล้วเรื่องนี้ไม่ควรอ้างมนุษยธรรม เพราะพวกเสื้อแดงเอาศพอากงมาทำแบบนี้ ก็ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุยธรรมด้วยเช่นกัน เพราะหากเป็นอย่างที่บอกว่าอากงและครอบครัวไม่ได้รู้เรื่องมาตรา 112 เป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วถ้าไม่ได้เห็นด้วยกับการแก้มาตรา 112 จริง การไปดึงมาเข้าร่วมขบวนการแบบนี้ เหมือนเป็นการข่มขืนใจเขาอีกรอบหรือเปล่า
อีกทั้งการเคลื่อนไหวยังปิดตาข้างเดียว บอกความจริงไม่หมด เพราะหน่วยงานที่มาเบรกการแก้มาตรา 112 จนต้องชะงักไป ก็คือรัฐบาลของเสื้อแดงเอง แต่ไม่พูดถึง แล้วด่าอำมาตย์ ด่าศาล
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า อันที่จริงจะว่าเสื้อเหลืองตึงเกินไปกับเรื่องมาตรา 112 หรือเปล่าก็ไม่ใช่ โทษหนักเกินไปหรือเปล่าก็คุยกันได้ อย่าง อ.พิชาย ก็เคยไปร่วมลงชื่อกับนักวิชาการ ให้พิจารณาเรื่องนี้ หรือ อ.ปราโมทย์ นาครทรรพ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ก็เห็นเหมือนกัน แต่ประเด็นที่คุณเล่นมันใหญ่กว่านั้น
ผู้ประสานงานกลุ่มกรีนกล่าวด้วยว่า วันนี้ฝ่ายแดงไม่เอาเจ้า มึนงงกับรัฐบาลที่เขาคาดหวัง พยายามกระตุ้น ตั้งคำถามกับรัฐบาล ซึ่งถ้าสร้างกระแสนี้เป็นวาระได้ แดงร้าวแน่ แต่จะมีแดงสักกี่คนที่กล้าตั้งคำถามกับแกนนำ แล้วคนที่ออกมากระตุ้น ที่บอกว่าเป็นแดงก้าวหน้าทั้งหลาย ก็เป็นคนที่แกนนำไม่ให้ราคา
เรื่องจัดการขบวนการล้มเจ้า พ.ต.ท.ทักษิณเอาอยู่ วันนี้พิสูจน์แล้วว่าขบวนการล้มเจ้าที่เคยมีพลังในช่วงหนึ่ง พอ พ.ต.ท.ทักษิณบอกให้เบรกก็หยุดได้ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้ทิ้งกลุ่มนี้ไป แค่พักรบไว้ก่อน ถ้าการเจรจาปรองดองล้มไม่เป็นท่า กลุ่มนี้ก็คงถูกปลุกขึ้นมาใหม่
นายสุริยะใสยังกล่าวว่า การกระชับอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอนนี้ไม่ง่าย เพราะมีฝ่ายคัดค้านชัดเจน สุดท้ายการเลือก ส.ส.ร. เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ โหวตโนอาจจะกระหึ่ม โดยพันธมิตรฯไม่ต้องรณรงค์ แต่เป็นไปโดยธรรมชาติ
ด้าน รศ.ดร.พิชายกล่าวว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถผลักการแก้กฎหมายเข้าสภาได้ ก็คงเล่นเกมโดยใช้กลุ่มคนล้มเจ้าเหล่านี้ เพราะสามารถผลิตวาทกรรมให้เอาไปขยายความต่อ ปลุกระดมความรู้สึกของมวลชนได้ ซึ่งเส้นทางแบบนี้มีแนวโน้มปะทะกัน มันคงจบแบบใดสักอย่าง แต่มองในความก้าวหน้าของประชาชน คงจบ พ.ต.ท.ทักษิณ จบพรรคเพื่อไทย จบเผด็จการรัฐสภา แต่กลุ่มไม่เอาเจ้าคงเคลื่อนไหวต่อ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากทุนสามานย์ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นทุนสามานย์จบ กลุ่มล้มเจ้าก็ไม่มีพลังทางการเมือง ก็คงจบเช่นกัน แล้วก็คงต้องกลับไปอยู่แต่ในเฟซบุ๊กเหมือนเดิม
