xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวงสุขภาพดี ทรงหายประชวร เตรียมเสด็จกลับวัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-องคมนตรีเผยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระพลานามัยดีขึ้น เตรียมออกจากโรงพยาบาลศิริราชเสด็จกลับวังเร็วๆ นี้ ด้านผู้ว่าฯ กรุงเก่า ยันพร้อม 100% รับเสด็จพระราชดำเนิน ทุ่งมะขามหย่อง เตรียมพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงทรงเกี่ยวข้าวแจกให้ประชาชนเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 พ.ค.) นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีและคณะได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาพื้นที่บ้านเนินธัมมังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้พระราชทานพระราชดำริให้ช่วยเหลือราษฎรให้สามารถประกอบอาชีพได้ และพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างศาลาศิลปาชีพ พร้อมทรงส่งเสริมงานด้านศิลปาชีพแก่ราษฎรในพื้นที่และหมู่บ้านใกล้เคียง

ทั้งนี้ นายพลากรได้เยี่ยมชมกิจกรรมด้านศิลปาชีพ ในศูนย์ศิลปาชีพในพระบรมราชินูปถัมป์ และธนาคารข้าว และได้เยี่ยมชมการดำเนินงานขยายผลการผลิตข้าวตามแนวพระราชดำริ

ในโอกาสนี้ นายพลากรได้กล่าวกับชาวบ้านว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีรับสั่งให้ตนเดินทางมาติดตามโครงการบ้านเนินธัมมัง ขอให้มาดูว่าชาวบ้านมีความเป็นอยู่ดีขึ้นหรือไม่ มีการทำอาชีพที่พระองค์ทรงส่งเสริมหรือไม่ และพื้นที่ตรงนี้เพาะปลูกข้าวเป็นอย่างไร เนื่องจากพระองค์ไม่ได้เสด็จมาที่นี่นานถึง 9 ปี นับจากปี 2546

"มีข่าวดีที่จะบอกกับชาวเนินธัมมังว่า เร็วๆ นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะสามารถเสด็จออกจากโรงพยาบาล และกลับมาประทับที่วังได้ตามปกติแล้ว เพราะสุขภาพของพระองค์ดีขึ้นมาก ทรงหายประชวรแล้ว โดยวันนี้จะเสด็จออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปตรวจเยี่ยมทุ่งมะขามหย่องเพื่อช่วยเหลือราษฎรเกี่ยวกับอุทกภัย นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนไทย"นายพลากรกล่าว

สำหรับบ้านเนินธัมมัง ในอดีตมีปัญหาน้ำท่วมขังในฤดูนาปี รวมทั้งสภาพดินเปรี้ยวและวัชพืชหนาแน่น โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงให้ริเริ่มโครงการปลูกข้าว จากนั้นได้มีการศึกษาวิจัยจนสามารถเพาะปลูกข้าวได้ โดยจะปลูกในเดือนมิ.ย.เก็บเกี่ยวเดือนก.ย. ซึ่งพันธุ์ข้าวที่ปลูกได้ช่วงดังกล่าว คือ พันธุ์สุพรรณบุรี1,2ชัยนาท1ปทุมธานี 1และพันธุ์พัทลุง และชาวบ้านยังได้รับความรู้เรื่องวิธีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้เองและสามารถมีข้าวไว้เพียงพอสำหรับการบริโภคด้วย

ส่วนการเตรียมความพร้อมในการรับเสด็จ พระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่จะเสด็จพระราชดำเนิน ทุ่งมะขามหย่อง จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันนี้ (25 พ.ค.) นั้น นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางมาตรวจสอบการเตรียมการรับเสด็จในขั้นตอนสุดท้ายด้วยตัวเอง และกล่าวยืนยันว่า สถานที่ต่างๆ ทั้งในส่วนที่เป็นเส้นทางรับเสด็จ จุดรองรับประชาชน รวมถึงพื้นที่การแสดงต่างๆ มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว

โดยประชาชนที่เดินทางมาจับจองพื้นที่เพื่อรอรับเสด็จ จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดคอยดูแลอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยให้ สามารถมาจับจองพื้นที่ได้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ และจะแจกของที่ระลึกของทางจังหวัด เป็นสูจิบัตรที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงเกี่ยวข้าวเมื่อปี 2539 รวมถึงหมายกำหนดการต่างๆ ของงาน และรายละเอียดของการจัดการแสดงชุดต่างๆ มามอบให้กับประชาชนไว้เป็นที่ระลึกด้วย

ทางด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่นำเครื่องดูดแมลง จำนวน 10 เครื่องมาติดตั้งไว้ที่บริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อดักจับแมลงที่อาจจะไปรบกวนในระหว่างที่พระองค์ทรงทอดพระเนตรการแสดง ที่บริเวณสระน้ำในทุ่งมะขามหย่อง

สำหรับหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนิน ณ ทุ่งมะขามหย่อง ในวันที่ 25 พ.ค. มีดังนี้

เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราช และในเวลา 17.30 น. จะเสด็จถึงพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระสุริโยทัย เจ้าพนักงานราชพิธีอัญเชิญพวงมาลัยเข้าถวายแล้วพระราชทานไปถวายสักการะ ที่โต๊ะหมู่หน้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย เสร็จแล้วประทับรถยนต์พระที่นั่ง ทอดพระเนตรบริเวณโดยรอบพระราชานุสาวรีย์

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จไปยังศาลากลางน้ำทอดพระเนตรการแสดงสื่อผสม "ทุ่งมะขามหย่อง พื้นแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ" โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที แล้วจึงเสด็จต่อไปยังพระตำหนักสิริยาลัย พักผ่อนพระอิริยาบถ และเสวยพระกระยาหารค่ำ

อย่างไรก็ตาม ในการเตรียมความพร้อมรับเสด็จ ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เตรียมกำลังไว้พร้อมโดยใช้กำลังตำรวจจากปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ตำรวจน้ำ ตำรวจสรรพาวุธ ตำรวจนครบาล ตำรวจ 191 และตำรวจสันติบาล รวม 2,000 นาย กระจายกำลังตั้งแต่ถนนเขตติดต่อจาก จ.ปทุมธานี จนถึงพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระสุริโยทัย บนถนนสาย 347
กำลังโหลดความคิดเห็น