xs
xsm
sm
md
lg

เชือด“สุพจน์"รวยเกิน ยึด17.5ล.ทอง 10 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-มติ ป.ป.ช. ชี้ “สุพจน์" ร่ำรวยผิดปกติ ส่งเรื่องอัยการสูงสุดยึดเงิน17.5ล้าน ทองหนัก10บาท ตกเป็นของแผ่นดิน ด้านศาลนัดสืบพยานโจทก์ปล้นบ้านปลัดพันล้าน 29 ม.ค.ปีหน้า

นายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ป.ป.ช.ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดร้องศาลเพื่อยึดทรัพย์นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมจำนวน 17,553,000 บาท และทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ

ทั้งนี้ จากพิจารณาเงินของกลางที่ตำรวจตามคืนมาได้จำนวน 18,121,000 ล้านบาท นายสุพจน์ได้แจ้งต่อป.ป.ช.ว่า เงินที่ถูกปล้นไปมีเพียง5,068,000 บาท แยกเป็นสินสอด 2 ล้านบาท เงินที่นายทศพร ปราบใหญ่ บิดาของนายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ ให้เป็นทุนในการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่ 2.5 ล้านบาท และเงินรับไหว้จากญาติผู้ใหญ่ 568,000 บาท

"จากพิจารณา พบว่า เงินสินสอด 2 ล้าน ไม่ใช่เงินใหม่ ไม่มีสายคาด ส่วนเงินทุนเริ่มต้นชีวิต 2.5 ล้าน ก็ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าให้ตอนไหน อย่างไร มีแต่เงินรับไหว้ 568,000 เท่านั้นที่สมเหตุสมผล จึงมีมติให้ยื่นเรื่องไปยังอัยการสูงสุดดำเนินคดีร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ส่วนรายการอื่นๆ ได้แก่ เงินฝากบัญชีธนาคาร ที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆ ป.ป.ช.จะพิจารณาต่อในวันที่ 29 พ.ค.นี้"นายกล้านรงค์กล่าว

วันเดียวกันนี้ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีแก๊งปล้นบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงการคมนาคม เมื่อวันที่ 9 ก.พ. พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสิงห์ทอง หรือ เสธ.ไก่ ใจชมชื่น, นายเสาร์แก้ว นามวงค์, นายสมบูรณ์ หรือบูรณ์ ริยะเทน, นายบุญสืบ หรือสืบ โจมกัน, นายวุฒิชัยหรือวุฒิ พันธวารี, นายวณัญกฤต หรือจ่อย บุตรกันหา, นายประพันธ์ เรียงเครือ, นายชยธัช หรือ เอก จันนะชัย และ น.ส.วาสนา สาเพิ่มทรัพย์ เป็นจำเลยที่ 1-9 ในความผิดฐาน ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง กระทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพฯ, ร่วมรับของโจร และร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน

ต่อมาศาลอาญาได้สอบคำให้การจำเลยทั้ง 9 คน ซึ่งศาลได้อ่านคำฟ้องของพนักงานอัยการให้จำเลยฟัง สรุปว่า เมื่อวันที่ 12 ก.พ.-23 พ.ย.2554 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกได้ร่วมกันมีมีดคัตเตอร์, ชะแลงเหล็ก 3 อัน ติดตัวไปที่ ซ.ลาดพร้าว 62 เขตวังทองหลาง บุกรุกเข้าไปในบ้านของนายสุพจน์ ผู้เสียหายที่ 1 แล้วลักเงินสดจำนวน 18,121,000 บาท ไป โดยขู่และทำร้ายนางจันทรา สังเกิด และ น.ส.สาวิตตรี บุญอุ้ม ผู้เสียหายที่ 2-3 ซึ่งเป็นลูกจ้างของผู้เสียหายที่ 1 จนปราศจากเสรีภาพในร่างกาย แล้วใช้รถกระบะเป็นยานพาหนะ และจำเลยกับพวกได้รับของโจรโดยช่วยกันซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายหรือรับทรัพย์ดังกล่าวไว้ เหตุเกิดที่แขวง-เขตวังทองหลาง กทม., ตำบล-อำเภอต่างๆ ใน จ.กาญจนบุรี และจังหวัดเชียงราย เกี่ยวพันกัน

อย่างไรก็ตาม มีเพียงนายเสาร์แก้ว นามวงค์ จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ ในชั้นสอบคำให้การ แต่ภายหลังจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ขณะเดียวกันนายสุพจน์ ได้มอบหมายให้ทนายความยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมในคดี โดยศาลนัดสืบพยานโจทก์ปากแรกวันที่ 29 ม.ค.2556
กำลังโหลดความคิดเห็น