การประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีวาระสำคัญคือ การพิจารณาคดีที่ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ โดยอนุกรรมการจะนำเสนอผลการสอบสวน และแถลงต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณา
นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะคณะอนุกรรมการ มั่นใจว่าพยานหลักฐานที่อนุกรรมการตรวจสอบครบถ้วนแล้ว ประกอบด้วย การชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ของนายสุพจน์ด้วยตัวเองถึง 2 ครั้ง พยานที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นที่มาที่ไปของทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็น สมุดเงินฝาก เงินสด รถยนต์ บ้านและที่ดิน รวมกว่า 30 ปาก รวมทั้งพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่นายสุพจน์เพิ่งยื่นเข้ามา น่าจะเพียงพอต่อการลงมติ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของที่ประชุมอีกครั้ง
ขณะที่ นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ระบุว่า กรรมการอ่านสำนวนที่อนุกรรมการแจกให้พิจารณาพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะลงมติภายในวันนี้ได้หรือไม่
ส่วนเรื่องแนวทางการพิจารณา น่าจะเป็นไปใน 3 แนวทาง คือ ยุติเรื่องชี้มูลความผิดได้เลย หรือให้สอบสวนเพิ่มหากเห็นว่าหลักฐานไม่เพียงพอ
คดีนี้เป็นคดีดังข้ามปีที่ ป.ป.ช.ขยายผลการตรวจสอบ จากกรณีของโจรปล้นบ้านข้าราชการระดับสูงในกระทรวงคมนาคม เมื่อปลายปีที่แล้ว จากปากคำของผู้ต้องหา สารภาพว่า มีเงินจำนวนมากภายในบ้าน ขณะที่เจ้าของบ้าน คือ นายสุพจน์ แจ้งเงินหายเพียง 5 ล้านบาท ทำให้ ป.ป.ช.เห็นว่ามีพิรุธ จึงเข้าไปดำเนินการ และมีการตรวจสอบ
ขณะที่ นายสุพจน์มีการชี้แจงต่ออนุกรรมการ เรื่องที่มาที่ไปของเงิน ส่วนหนึ่งได้จากเงินค่าจ้างทำงานนอกเวลา ล่าสุด นายสุพจน์ลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อเปิดทางให้งานของกระทรวงเดินหน้า ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาของ ป.ป.ช.
โดยสรุป นายสุพจน์ถูกกล่าวหาทั้งหมด 3 คดี วันนี้เป็นคดีความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ หากชี้มูลต้องดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป ส่วนอีก 2 คดี คือ จงใจแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ และการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ อยู่ระหว่างการดำเนินการของ ป.ป.ช.
นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะคณะอนุกรรมการ มั่นใจว่าพยานหลักฐานที่อนุกรรมการตรวจสอบครบถ้วนแล้ว ประกอบด้วย การชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ของนายสุพจน์ด้วยตัวเองถึง 2 ครั้ง พยานที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นที่มาที่ไปของทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็น สมุดเงินฝาก เงินสด รถยนต์ บ้านและที่ดิน รวมกว่า 30 ปาก รวมทั้งพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่นายสุพจน์เพิ่งยื่นเข้ามา น่าจะเพียงพอต่อการลงมติ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของที่ประชุมอีกครั้ง
ขณะที่ นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ระบุว่า กรรมการอ่านสำนวนที่อนุกรรมการแจกให้พิจารณาพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะลงมติภายในวันนี้ได้หรือไม่
ส่วนเรื่องแนวทางการพิจารณา น่าจะเป็นไปใน 3 แนวทาง คือ ยุติเรื่องชี้มูลความผิดได้เลย หรือให้สอบสวนเพิ่มหากเห็นว่าหลักฐานไม่เพียงพอ
คดีนี้เป็นคดีดังข้ามปีที่ ป.ป.ช.ขยายผลการตรวจสอบ จากกรณีของโจรปล้นบ้านข้าราชการระดับสูงในกระทรวงคมนาคม เมื่อปลายปีที่แล้ว จากปากคำของผู้ต้องหา สารภาพว่า มีเงินจำนวนมากภายในบ้าน ขณะที่เจ้าของบ้าน คือ นายสุพจน์ แจ้งเงินหายเพียง 5 ล้านบาท ทำให้ ป.ป.ช.เห็นว่ามีพิรุธ จึงเข้าไปดำเนินการ และมีการตรวจสอบ
ขณะที่ นายสุพจน์มีการชี้แจงต่ออนุกรรมการ เรื่องที่มาที่ไปของเงิน ส่วนหนึ่งได้จากเงินค่าจ้างทำงานนอกเวลา ล่าสุด นายสุพจน์ลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อเปิดทางให้งานของกระทรวงเดินหน้า ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาของ ป.ป.ช.
โดยสรุป นายสุพจน์ถูกกล่าวหาทั้งหมด 3 คดี วันนี้เป็นคดีความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ หากชี้มูลต้องดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป ส่วนอีก 2 คดี คือ จงใจแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ และการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ อยู่ระหว่างการดำเนินการของ ป.ป.ช.