ASTVผู้จัดการรายวัน- บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คากกำไรปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนหรือสูงกว่าเล็กน้อย ขึ้นอยู่สถานการณ์ยุโรป พร้อมคาดมาร์เกตแชร์ปีนี้ 13% “มนตรี”เชื่อดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเป็นโอกาสเข้าลงทุน ล่าสุด ตลาดหุ้นรีบาวด์ทางเทคนิค 15 จุดหลังร่วงแรงหลายวัน
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ MBKET เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในช่วงไตรมาส2/55 คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาส1/55 ที่มีรายได้รวม 759 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท เนื่องจาก มูลค่าการซื้อขายคาดว่าจะใกล้เคียงกัน โดยไตรมาส1/55 เฉลี่ย มูลค่าการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 30,460 ล้านบาท เพราะ ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง จากความกังวลปัญหายุโรป
ทั้งนี้เดิมบริษัทประเมินว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท แต่ในช่วงครึ่งปีแรกนั้น ไม่ถึง ซึ่งจะต้องรอดูทิศทางปัญหายุโรปก่อน แต่บริษัทยังคาดว่ารายได้รวมทั้งปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อน หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนที่จะมีการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เดือนละ 1 พันบัญชี ทำให้ปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 หมื่นบัญชี โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายรวม 1.1 แสนบัญชี โดยมีการซื้อขายสม่ำเสมอ 4.3 หมื่นบัญชี โดย บริษัทคาดว่าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์)ปีนี้จะอยู่ที่ 13% จากในช่วงไตรมาส 1/55 อยู่ที่ 12.37%
ชี้หุ้นถูกเป็นโอกาสเข้าลงทุน
นายมนตรี กล่าวว่า ในช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงนั้น บริษัทไม่มีปัญหาเรื่องการบังคับขายหุ้น (ฟอสเซล) เนื่องจาก ดัชนีมีการทยอยปรับตัวลดลงมาก ไม่ได้มีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ส่วนพอร์ตการลงทุนที่บริษัทมีแผนให้ทางบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บริหารให้นั้น ขณะนี้ บลจ. ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคล (ไพรเวทฟันด์)แล้ว คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ประมาณ ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในระยะแรกก็จะลงทุนในหุ้นก่อน ซึ่งการที่หุ้นปรับตัวลดลงมานั้นถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าไปลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี
หุ้นรีบาวด์ 15.08 จุด ตามตลาดยุโรป
ตลาดหุ้นไทยวานนี้(24พ.ค) ดัชนีรีบาวด์กลับขึ้มาปิดในแดนบวก ที่ระดับ 1,125.78 จุด เพิ่มขึ้น 15.08 จุด หรือ 1.36% มูลค่าการซื้อขาย 31,093.98 ล้านบาท น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในยุโรปที่มีการรีบาวด์ขึ้น มองว่าคงเป็นลักษณะการรีบาวด์ทางเทคนิค หลังจากที่ตลาดฯได้ปรับตัวลงไปมากในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(25พ.ค.) ดัชนีคงแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากภาพของตลาดโดยรวมยังไม่มีปัจจัยใหม่ ยังต้องติดตามตลาดต่างประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้ยังเป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้ทำให้เป็นส่วนหนึ่งที่นักลงทุนบางรายคงจะไม่อยากเสี่ยง พร้อมให้แนวรับ 1,110-1,000 จุด แนวต้าน 1,140 จุด
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ MBKET เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในช่วงไตรมาส2/55 คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาส1/55 ที่มีรายได้รวม 759 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท เนื่องจาก มูลค่าการซื้อขายคาดว่าจะใกล้เคียงกัน โดยไตรมาส1/55 เฉลี่ย มูลค่าการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 30,460 ล้านบาท เพราะ ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง จากความกังวลปัญหายุโรป
ทั้งนี้เดิมบริษัทประเมินว่ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท แต่ในช่วงครึ่งปีแรกนั้น ไม่ถึง ซึ่งจะต้องรอดูทิศทางปัญหายุโรปก่อน แต่บริษัทยังคาดว่ารายได้รวมทั้งปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อน หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนที่จะมีการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เดือนละ 1 พันบัญชี ทำให้ปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 หมื่นบัญชี โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายรวม 1.1 แสนบัญชี โดยมีการซื้อขายสม่ำเสมอ 4.3 หมื่นบัญชี โดย บริษัทคาดว่าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์)ปีนี้จะอยู่ที่ 13% จากในช่วงไตรมาส 1/55 อยู่ที่ 12.37%
ชี้หุ้นถูกเป็นโอกาสเข้าลงทุน
นายมนตรี กล่าวว่า ในช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงนั้น บริษัทไม่มีปัญหาเรื่องการบังคับขายหุ้น (ฟอสเซล) เนื่องจาก ดัชนีมีการทยอยปรับตัวลดลงมาก ไม่ได้มีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ส่วนพอร์ตการลงทุนที่บริษัทมีแผนให้ทางบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.)กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บริหารให้นั้น ขณะนี้ บลจ. ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคล (ไพรเวทฟันด์)แล้ว คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ประมาณ ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในระยะแรกก็จะลงทุนในหุ้นก่อน ซึ่งการที่หุ้นปรับตัวลดลงมานั้นถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าไปลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี
หุ้นรีบาวด์ 15.08 จุด ตามตลาดยุโรป
ตลาดหุ้นไทยวานนี้(24พ.ค) ดัชนีรีบาวด์กลับขึ้มาปิดในแดนบวก ที่ระดับ 1,125.78 จุด เพิ่มขึ้น 15.08 จุด หรือ 1.36% มูลค่าการซื้อขาย 31,093.98 ล้านบาท น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในยุโรปที่มีการรีบาวด์ขึ้น มองว่าคงเป็นลักษณะการรีบาวด์ทางเทคนิค หลังจากที่ตลาดฯได้ปรับตัวลงไปมากในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(25พ.ค.) ดัชนีคงแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากภาพของตลาดโดยรวมยังไม่มีปัจจัยใหม่ ยังต้องติดตามตลาดต่างประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้ยังเป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้ทำให้เป็นส่วนหนึ่งที่นักลงทุนบางรายคงจะไม่อยากเสี่ยง พร้อมให้แนวรับ 1,110-1,000 จุด แนวต้าน 1,140 จุด