ทรีนิตี้ วัฒนาคาดรายได้ปีนี้สูงกว่าปีก่อนที่ 640 ล้านบาท เหตุ วอลุ่มซื้อขายหุ้นต่อวันปีนี้เพิ่มขึ้นคาดอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท เผย ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากพันธมิตรทั้งใน-ต่างประเทศ แม้ไม่สำเร็จสามารถอยู่รอดได้ตัวเองจากบริษัทมีการกระจายฐานรายได้
นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรีนิตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน)หรือ TNITY เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะสูงกว่าปี 2554 ที่มีรายได้ 640 ล้านบาท เนื่องจาก รายได้หลักที่มาจากธุรกิจหลักทรัพย์มีการเติบโตมากขึ้น ตามปริมาณการซื้อขายหุ้นต่อวันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นคาดว่าปีนี้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 32,000 ล้านบาทต่อวัน จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 28,8540 ล้านบาทต่อวัน โดยบริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์)ปีนี้ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทรีนีตี้ อยู่ที่ 1.3% จากปีก่อนอยู่ที่ 1.28% ซึ่งบริษัทจะเน้นการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น มากกว่าจะแข่งด้านราคา โดยอัตราคอมมิชชั่นเฉลี่ยขณะนี้อาจลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของปี 2554 ซึ่งอยู่ที่ 0.21% แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เพราะระดับที่บริษัทมีกำไรอยู่ที่ 0.14%
ทั้งนี้จากการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น บริษัทจึงเน้นธุรกิจการบริหารการลงทุนให้ลูกค้า โดยตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM) ปีนี้ที่ 1,500 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1,040 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้มี AUM 1,067 ล้านบาท เพราะภาวะตลาดหุ้นดีทำให้นักลงทุนมีการเพิ่มพอร์ตการลงทุน โดยบริษัทคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับต้วเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 1,300 จุดได้ในช่วงกลางปีนี้ แต่ในช่วงเดือน2 เดือนจากนี้อาจมีการปรับตัวลดลงบ้างแต่ไม่มาก อาจแตะจุดต่ำสุดที่ 1,150 จุด เพราะ เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศอาจจะชะลอการลงทุนจากที่ผ่านมาเข้ามาซื้อสุทธิจำนวนมาก
สำหรับขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศในการเข้ามาทำธุรกิจหลักทรัพย์ แต่หากเจรจาไม่สำเร็จบริษัทสามารถที่จะอยู่รอดได้ตัวของ เพราะ ทั้ง 4 ธุรกิจหลักยังไปได้ด้วยดี ทั้ง พอร์ตการลงทุน นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ธุรกิจวาณิชธนกิจ และธุรกิจที่ปรึกษาบริหารเงินลงทุนให้ลูกค้า ธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ ที่ขณะนี้มีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 2 บริษัท
“บริษัทไม่ได้ปิดกั้นในการหาพันธมิตรในการทำธุรกิจ ซึ่งขณะนี้มีการเจรจาอยู่ แต่ถึงไม่มีพันธมิตรทรีนิตี้สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง เพราะฐานรายได้ปัจจุบันกระจายในหลายธุรกิจ และคาดว่าปีนี้รายได้จะสูงกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งมีจำนวน 640 ล้านบาท” นายวิศิษฐ์
นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรีนิตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน)หรือ TNITY เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะสูงกว่าปี 2554 ที่มีรายได้ 640 ล้านบาท เนื่องจาก รายได้หลักที่มาจากธุรกิจหลักทรัพย์มีการเติบโตมากขึ้น ตามปริมาณการซื้อขายหุ้นต่อวันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นคาดว่าปีนี้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 32,000 ล้านบาทต่อวัน จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 28,8540 ล้านบาทต่อวัน โดยบริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์)ปีนี้ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทรีนีตี้ อยู่ที่ 1.3% จากปีก่อนอยู่ที่ 1.28% ซึ่งบริษัทจะเน้นการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น มากกว่าจะแข่งด้านราคา โดยอัตราคอมมิชชั่นเฉลี่ยขณะนี้อาจลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของปี 2554 ซึ่งอยู่ที่ 0.21% แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เพราะระดับที่บริษัทมีกำไรอยู่ที่ 0.14%
ทั้งนี้จากการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น บริษัทจึงเน้นธุรกิจการบริหารการลงทุนให้ลูกค้า โดยตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM) ปีนี้ที่ 1,500 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1,040 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้มี AUM 1,067 ล้านบาท เพราะภาวะตลาดหุ้นดีทำให้นักลงทุนมีการเพิ่มพอร์ตการลงทุน โดยบริษัทคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับต้วเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 1,300 จุดได้ในช่วงกลางปีนี้ แต่ในช่วงเดือน2 เดือนจากนี้อาจมีการปรับตัวลดลงบ้างแต่ไม่มาก อาจแตะจุดต่ำสุดที่ 1,150 จุด เพราะ เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศอาจจะชะลอการลงทุนจากที่ผ่านมาเข้ามาซื้อสุทธิจำนวนมาก
สำหรับขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศในการเข้ามาทำธุรกิจหลักทรัพย์ แต่หากเจรจาไม่สำเร็จบริษัทสามารถที่จะอยู่รอดได้ตัวของ เพราะ ทั้ง 4 ธุรกิจหลักยังไปได้ด้วยดี ทั้ง พอร์ตการลงทุน นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ธุรกิจวาณิชธนกิจ และธุรกิจที่ปรึกษาบริหารเงินลงทุนให้ลูกค้า ธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ ที่ขณะนี้มีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 2 บริษัท
“บริษัทไม่ได้ปิดกั้นในการหาพันธมิตรในการทำธุรกิจ ซึ่งขณะนี้มีการเจรจาอยู่ แต่ถึงไม่มีพันธมิตรทรีนิตี้สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง เพราะฐานรายได้ปัจจุบันกระจายในหลายธุรกิจ และคาดว่าปีนี้รายได้จะสูงกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งมีจำนวน 640 ล้านบาท” นายวิศิษฐ์