xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กบัง”จ่อ“ปธ.งบทหาร” บล็อกโหวตจัดสรร 1.8แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการายรายวัน- “กลาโหม”ปัดประเคน 1.8แสนล้าน เอาใจทหาร “ประยุทธ์”ยั้ว! ชี้เงินเป็นของหลวงมาจากภาษีประชาชน “ชูวิทย์”แฉบล็อกโหวตให้ “บิ๊กบัง”นั่งปธ.งบกลาโหม ตอบแทนเสนอแผนปรองดองให้รัฐบาล บอก ไม่เข้าใจ ทำไมคนปฎิวัติได้ดี

วานนี้ ( 22 พ.ค.) ที่ฝูงเครื่องบินกองการบิน กรมการขนส่งทหารบก ดอนเมือง กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวอย่างมีอารมณ์ กรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ากองทัพได้รับการจัดสรรงบประมาณปีนี้มากกว่าทุกปีที่ผ่านมาว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องของการตอบแทน หรือเกรงใจกองทัพ แต่ทั้งหมดเป็นการจัดสรรงบประมาณที่เป็นไปตามระเบียบ ในแต่ละปีก็ต้องเพิ่มขึ้น และเมื่อปีที่แล้วงบประมาณในด้านบุคลากรของกองทัพ ที่มีกำลังพลกว่า 2 แสนคน ได้รับไม่ถึง 100 % ปีนี้ทางกองทัพจึงขอเพิ่มเติม ในส่วนของงบประมาณด้านบุคลากร ก็เท่านั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเอาใจใคร แต่การทำงานต้องเดินทางไปข้างหน้า พัฒนาบุคลากร หากไม่ใช้งบประมาณส่วนนี้ ตนก็อยากถามว่า จะมีเทคโนโลยีอื่นๆ มาทดแทนหรือไม่

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวว่า งบประมาณที่ได้เพิ่มขึ้นจากงบประมาณปี2555 จำนวน 1.2หมื่นล้านบาท ซึ่งวงเงินที่เพิ่มขึ้นเพราะต้องนำมาจ่ายเป็นค่าจ้าง เงินเดือนของกำลังพลในกองทัพที่มีอยู่ 4.3 แสนคน คิดเป็น 8,800ล้านบาท ที่มีการปรับเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนวงเงินที่เหลือ 3,200ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในกองทัพ ยืนยันว่าไม่ใช่การให้งบประมาณเพิ่ม เพื่อเอาใจกองทัพ เมื่อถามว่า กองทัพบกได้งบ 8 หมื่นบาทมากกว่าหน่วยอื่นๆ รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า เป็นเพราะกองทัพบกมีกำลังพล 2 แสนคน ถึงต้องได้รับงบประมาณมากกว่าเหล่าทัพอื่นๆ และหากเทียบกับสมัยปฏิวัติกองทัพได้รับงบประมาณอู้ฟู้ จากนั้นก็ลดลงมาเรื่อยๆ

แหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำหรับงบประมาณที่เพิ่มขึ้นในปี 2556 ส่วนใหญ่เป็นงบฯ ทรงชีพ เบี้ยเลี้ยง เงินเดือน เป็นการเพิ่มตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดค่าครองชีพขั้นต่ำ 15,000 บาท โดยเหล่าทัพที่มีการเสนอขึ้นมามากที่สุดคือกองทัพบก เพราะมีกำลังพลมากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นเบี้ยเลี้ยงของทหารพราน หลังจากที่รัฐบาลอนุมัติให้กองทัพบกจัดตั้ง 5 กรมทหารพรานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2555 เพื่อทดแทนทหารหลัก ทั้งนี้ งบฯ ลงทุน ยังอยู่ในอัตราคงที่ และยังไม่มีการเริ่มตั้งโครงการใหม่ โดยเฉพาะกองทัพบก ยังมีภาระงบผูกพันจาการจัดหายุทโธปกรณ์เข้าประจำการในปีก่อนๆ ทั้ง รถเกราะล้อยาง BTR-3E1 เฮลิคอปเตอร์ MI-17 ของรัสเซีย และ UH-60 ( Black Hawk ) ส่วนงบฯซ่อมบำรุง ส่วนใหญ่จะเป็น เฮลิคอปเตอร์ที่มีประจำการอยู่ และ รถยนต์บรรทุก

“ ภาพรวมของงบประมาณในปี 2556 แม้จะได้เพิ่มขึ้น แต่เมื่อเทียบกับ จีดีพี แล้วถือว่าได้ลดลง จากปี 2555 ที่จัดสรรให้ 1.48 % ของจีดีพี แต่ปีนี้ได้แค่ 1.44 % ของจีดีพีเท่านั้น ซึ่งเป้าหมายของยุทธศาสตร์ของเราต้องการเพิ่มงบประมาณให้ได้ในอัตรา 2 % ของจีดีพี ซึ่งขณะนี้ยังห่างไกลมาก ซึ่งเป้าหมายนี้ได้จัดทำไว้ตั้งแต่ปี 2544-2545 ช่วงที่มีการจัดสรรงบฯ ให้กองทัพมากที่สุดคือ รัฐบาลสมัย นายกฯ สมัคร สุนทรเวช ซึ่งพุ่งขึ้นถึง 1.68 % ของจีดีพี แต่หลังจากนั้นก็ถดถอยลงมาเรื่อยๆ แม้แต่ละปีจะมีการทำกรอบงบประมาณเพิ่มขึ้นก็ตาม และเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านยังถือว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับงบประมาณด้านนี้น้อยมากเมื่อเทียบกับ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ซึ่งในระยะหลังประเทศเพื่อนบ้านได้ริเริ่มโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยเข้าประจำการ ทั้งเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ทันสมัย และเรือดำน้ำ ในขณะที่พม่าแม้กรอบวงเงินงบประมาณไม่มากนัก แต่การงบฯด้านการทหารมากถึง 5 %ของจีดีพี ”แหล่งข่าวระบุ

**"ชูวิทย์"แฉบล็อกโหวตให้"บิ๊กบัง"

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวว่า ในวันที่23พ.ค. ที่จะมีการประกาศการตั้งประธานกรรมาธิการงบประมาณรายประจำปี 2556 ขอให้จับตาว่าจะมีการไปตอบแทนให้ใครเป็นพิเศษหรือไม่ ที่พูดออกมาไม่ได้ต้องการที่จะเข้ามาเป็นเอง เพราะเขามีการบีบไม่ให้ตนมาเป็น โดยอ้างจำนวนเสียงส.ส.พรรครักประเทศไทยจากเดิม4เสียง แต่วันนี้มีงูจงอางจึงเหลือเพียง 2เสียง

ตามขั้นตอนปีนี้ปรากฎว่าที่ประชุมพรรคเล็กต่างเลือกให้พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ที่มี2เสียง ได้รับเลือกให้เข้าไปเป็นประธานกรรมาธิการฯ โดยอ้างว่าอีก 2เสียงของตนเป็นงูเห่า แต่ก็ไม่เป็นอะไร

“อยู่การเมืองมาเลยเข้าใจ อ่อนี่คือการต่างตอบแทน แต่ถึงยังไงก็ยังอดแปลกใจไม่ได้ ที่บางพรรคกลับไปยกมือสนับสนุนให้กับคนที่เคยทำปฏิวัติพรรคตัวเองมา แล้วทำไมคนปฏิวัติได้ดี แล้วทำไมแดงถึงบื้อ ระวังเถอะเมืองหลวงเสื้อแดงจะแตก ระวังคนที่ลาออกไปลงนายกฯอบจ.จะไม่ได้เป็นทั้งนายกฯอบจ.และไม่ได้เป็นส.ส”นายชูวิทย์ กล่าว

ถามว่าการเลือกประธานกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการงบประมาณแต่ละชุดฯดูเหมือนว่าจะมีการล็อบบี้กันไว้หมดแล้ว นายชูวิทย์ ชี้นิ้วขึ้นเหนือหัวพร้อมกล่าวว่า ก็เห็นว่าข้างบน(ชั้น2อาคารรัฐสภาฯ1)กำลังวิ่งกันขาขวิด เพื่อจะเลือกใครมาเป็นประธานกรรมาธิการงบประมาณ เพราะตำแหน่งนี้มันใหญ่มาก สามารถเรียกข้าราชการมาคุยได้ เรียกหน่วยงานอื่นมาเกลี่ยงบ กั๊กงบก็ได้ ก็ไม่รู้ว่าทำไมบิ๊กบัง ถึงอยากเป็นประธานอนุกรรมาธิการบางชุด เคยเป็นมาแล้วทั้งผบ.ทบ. วันนี้อยากมาวิ่งงบกันอีกก็เอา ถ้าอย่างนั้นก็เป็นไปเลย

ทั้งนี้ กระบวนการคัดเลือกประธานกรรมาธิการงบประมาณ และการคัดเลือกประธานอนุกรรมาธิการแต่ละชุด มีการตกลงเป็นการภายในตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่21พ.ค. โดยนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานรัฐสภาฯ เป็นคนเรียกตัวแทนพรรคเล็กทุกพรรคมาประชุมหารือ และระหว่างหารือทำให้มีการมองว่าน่าจะมีการล็อบบี้กันเป็นภายในก่อนหน้านี้แล้ว

โดยรายงานข่าวอีกกระแสถึงกลับระบุว่า ว่าที่ประธานอนุกรรมาธิการชุดที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ได้ไปตกลงกับพรรคเล็กเกือบทุกพรรคแล้วว่าหากได้เข้ามาเป็นประธานอนุกรรมาธิการทหาร จะมีการจัดวางตำแหน่งให้บุคคลากรจากพรรคเล็กอย่างเท่าเทียม และเตรียมเกลี่ยงบประมาณให้อย่างสมน้ำ สมเนื้อ
แต่ปรากฎว่าประธานอนุกรรมาธิการงบประมาณ ในปี2556 กลับมีการเพิ่มขึ้นมาอีกชุด คือ ประธานอนุกรรมาธิการทหาร ซึ่งถูกมองว่ามีการเตรียมล็อบบี้ไปให้พล.อ.สนธิ ที่ก่อนหน้าเป็นประธานกรรมาธิการปรองดอง ที่ขับเคลื่อนแนวทางปรองดองที่เป็นผลดีกับรัฐบาลเพื่อไทยและพ.ต.ท.ทักษิณ มาโดยตลอด จึงทำให้ถูกมองว่า หากพล.อ.สนธิ ได้เข้ามาเป็นประธานอนุกรรมาธิการทหารจริง ก็คือการตอบแทนจากขั้วการเมือง

**ปชป.ซัดตั้งงบ56 ขาดวินัย

ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิเศษเพื่อพิจารณาเรื่องด่วน ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2556 ต่อเป็นวันที่สอง โดยนายกรณ์ จาติกวนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรมว.คลัง อภิปรายตอนหนึ่งว่า มีข้อสังเกตกรณีที่รัฐบาลจัดงบประมาณปี 56 ก็เป็นงบขาดดุล 3 แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมเงินนอกงบประมาณทั้ง พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ที่ต้องใช้ภายในปี 2556, พ.ร.ก.กองทุนประกันภัยอีก 5 หมื่นล้านบาท ยังไม่นับรวมหนี้ที่ซุกไว้ตามที่ต่างๆ

เช่น งบประมาณหรือภาระการขาดทุนโครงการจำนำข้าวที่ล้มเหลว,การขาดทุนกองทุนน้ำมัน 3 หมื่นล้านบาทเมื่อนำมารวมกันจะทำให้การขาดดุลที่แท้จริงของรัฐบาลอยู่ที่ตัวเลขใกล้เคียง 1 ล้านล้านบาท และมีหลายโครงการที่รัฐบาลอ้างความเร่งด่วน อาทิ กองทุนประกันภัยจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เริ่มดำเนินการ ทั้งหมดนี้รัฐบาลไม่สามารถนำมาอ้างวินัยทางการคลังได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการอภิปรายในสภาเป็นไปอย่างราบรื่น ขณะที่ ตลอดวันปรากฏว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องยังไม่ชี้แจงในประเด็นต่างๆต่อที่ประชุมสภาฯแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น